30 มกราคม 2555 19:49 น.
คนบางบอน
จากกรุงเทพ เมืองกรุง เมืองฟุ้งฟ้า
สู่บ้านป่า นาดอย อย่างหงอยเหงา
หิวหรืออิ่ม ก็มิอาจ จะคาดเดา
ยิ้มเศร้าเศร้า ปลอบใจ ให้อดทน
มองท้องฟ้า เวิ้งว้าง ความว่างเปล่า
มีเพียงเรา ในนิยาม ความสับสน
ผิดหรือถูก ยอมรับ ยังอับจน
มิอาจค้น คำตอบ มาปลอบใจ
ยอมรับว่า เหงาบ้าง ในบางครั้ง
ภาพความหลัง มันสะท้อน จนอ่อนไหว
กับความจริง วันนี้ ที่มาไกล
ทั้งโหยไห้ ห่วงหา ทั้งอาวรณ์
เพราะความหวัง เรืองรอง ของชีวิต
มันถูกปิด กั้นฉาบ เป็นภาพหลอน
อนาคต จำกัด ถูกตัดรอน
ใครจะย้อน คืนถิ่น แผ่นดินเมือง
ขอตั้งหลัก ปักฐาน ที่บ้านเกิด
เลิกเอาเถิด กับแสงสี ที่ฟูเฟื่อง
หันหลังให้ ไกลกรุง ที่รุ่งเรือง
บันทึกเรื่อง เก็บไว้ ในความจำ
ธรรมชาติ สะอาด บริสุทธิ์
คงช่วยหยุด หัวใจ ไหวระส่ำ
หันหน้าเข้า หาวัด ปฏิบัติธรรม
ฝังความช้ำ ไว้กับถิ่น แผ่นดินเดิม
22 มกราคม 2555 20:54 น.
คนบางบอน
ถ้าดอกไม้ ไมตรี ที่มอบให้
มันขุ่นข้อง หมองใจ จนไหวหวั่น
ขอโทษเถอะ แก้วตา อย่าว่ากัน
อยากสร้างสรรค์ บรรเลง บทเพลงกลอน
อยากมีใคร ให้สิทธิ์ ได้คิดถึง
อยากพูดคำ ซึ้งซึ้ง จึงออดอ้อน
เขียนคนเดียว เหว่ว้า มาหลายตอน
เหมือนละคร อกหัก รักโรยรา
เจตนา บริสุทธิ์ จุดไฟฝัน
หาคนร่วม แบ่งปัน สุขหรรษา
ในสวนศิลป์ ถิ่นถม คมปัญญา
เทิดคุณค่า ภาษาไทย ให้นิรันดร์
ถ้าต่างคน ต่างมีใจ รักในศิลป์
เทิดกวิน อยู่ใน ใจคงมั่น
อย่าทิ้งร้าง ห่างไป นานหลายวัน
มาร่วมกัน บรรเลง เพลงกวี
คนเดียวดาย ในโลกกว้าง ไร้ทางออก
เคยร้องบอก ออกไป ก็หลายที่
ไม่มีเลย สักหน คนปรานี
ยื่นไมตรี กลับมา เยียวยาใจ
ถ้ารบกวน เกินก็ ต้องขอโทษ
แต่...ได้โปรด พิจารณา...กลับมาใหม่
จะทนเหงา ชอกช้ำ อยู่ทำไม
มาจุดไฟ ความฝัน กันเถิดเราฯ
สมยศ เปียสนิท
22 มกราคม 2555 20:51 น.
คนบางบอน
ดอกแก้ว ที่แวววาว
สิอะคร้าว ประทับทรวง
หอมรื่น ชื่นแดดวง
เมื่อยามลม พรมพลิ้วมา
สีขาว พราวพิสุทธิ์
งามผ่องผุด ล้ำเลอค่า
ประดับดิน ประดับฟ้า
ประดับใจ ใครหนึ่งคน
ยามเหงา ยามเศร้าหมอง
เก็บประคอง แนบกมล
เคียงอยู่ คู่สกนธ์
ดลฤทัย ได้บรรเทา
รักล้น ดวงใจแล้ว
รักดอกแก้ว มากกว่าเก่า
ปลูกไว้ ในใจเรา
เท่าที่แรง ยังแกร่งพอ
ดอกแก้ว ที่บ้านเลน
จะเอียงเอน ทางไหนหนอ
รู้ไหม ใครเฝ้ารอ
จะดมดอม ดอกแก้วบาน
ฝากใจ กับฝนพรำ
ฝากน้ำคำ มาผสาน
อย่าให้ ใจร้าวราน
นะ ดอกแก้ว ดวงฤทัย
สมยศ เปียสนิท
22 มกราคม 2555 20:39 น.
คนบางบอน
คนบ้านเลน บอกใบ้ คนไกลบ้าง
คนอยู่ทาง บางบอน ยังร้อนรุ่ม
ความหมายใน คำตอบไม่ครอบคลุม
คนละมุม มองอย่าง แตกต่างกัน
คนบางบอน มีใจ ให้เต็มที่
บ้านเลนมี บ้างไหม แม้ในฝัน
ถ้อยคำที่ เ รียงร้อย สร้อยสัมพันธ์
บางบอนกลั่น จากใจ ให้บ้านเลน
เพราะบ้านเลนไกลห่าง บางบอนอยู่
บางบอนรู้ ว่าบ้านเลน เห็นเป็นเล่น
ไม่เคยรู้ จักกัน นั้นชัดเจน
จะให้เอน เอียงใจ ใครจะคิด
อยากมีเพื่อน ร่วมสร้าง เส้นทางฝัน
ร่วมแบ่งปัน ถ้อยวลี ที่มีสิทธิ์
แม้นบ้านเลน เอนใจ ให้สักนิด
เศษชีวิต ที่เหลือ ไม่เบื่อรัก
จะถักทอ สายใย ให้ทั้งหมด
กลอนทุกบท เทใจ ให้ประจักษ์
ประกาศทั่ว วรรณศิลป์ ถิ่นพำนัก
มอบใจภักดิ์ เคียงใจไปนิรันดร์
คนบ้านเลน บอกใบ้ คนไกลบ้าง
คนอยู่บาง บอนไกล เขาไหวหวั่น
แม้นบ้านเลน เห็นใจ คนไกลกัน
กลอนสั้นสั้น บทหนึ่ง ก็ซึ้งพอฯ
สมยศ เปียสนิท
16 มกราคม 2555 21:26 น.
คนบางบอน
คิดถึงเพื่อน ร่วมสรร วรรณศิลป์
คิดถึงถิ่น วรรณ์กวี ศรีอักษร
สบายดี หรือไม่ ใจร้าวรอน
ห่วงอาทร คะนึงหา ทุกนาที
อยากมาหา มาเห็น ด้วยเป็นห่วง
อยากมาทวง สัมพันธ์ กันถึงที่
อยากได้ยิน คำเอื้อนเอ่ย เผยวจี
ช่อไมตรี ระหว่างเรา เฉาหรือบาน
น้ำท่วมใหญ่ อยุธยา ในครานั้น
สะเทือนขวัญ หวั่นไหว ไปทุกย่าน
เป็นห่วงมาก รู้ไหม ใจร้าวราน
วอนลมผ่าน ฝากใจ ไปเยี่ยมเยือน
บนลานฝัน วันเหงา แฝงเศร้าสร้อย
ยังเฝ้าคอย วันที่ จะมีเพื่อน
มาร่วมเรียง เคียงดาว ร่วมสาวเดือน
มาร่วมเรือน วรรณศิลป์ อย่างยินดี
คนอยู่ไกล อยุธยา ฝากมาถาม
ทุกถ้อยความ ส่งไป ถึงไหมนี่
หากยังซึ้ง น้ำใจ มิตรไมตรี
วานตอบที่ เพื่อกมล คนเฝ้ารอ
อย่าปล่อยให้ คนไกล ต้องไหวหวั่น
จมกับวัน กำสรด รันทดท้อ
บทเพลงแห่ง ความเหงา เศร้า เกินพอ
เป็นคำขอ จากกมล คนรักกลอน
สมยศ เปียสนิท