10 พฤศจิกายน 2555 11:59 น.
คนบางบอน
แอบมองอยู่ห่างห่างอย่างคนเหงา
ระหว่างเราคงเป็นได้เช่นนี้
วันใดเห็นเธอสุข ก็สุขดี
วันใด(เธอ)มีน้ำตาก็อาดูร
ความสัมพันธ์ที่มีแค่ พี่,เพื่อน
ก็ย้ำเตือนใจคิดสิทธิ์เป็นศูนย์
ความหวังดีแพร้วเพริดเจิดจำรูญ
มันเพิ่มพูนอยู่ในใจทุกวัน
วางเธอไว้ในมุมมองของต้องห้าม
ไม่ต้องถามว่าทำไม...ไกลเกินฝัน
ปรารถนาของวันนี้ที่ผูกพัน
คืออยู่ใกล้ได้เห็นกัน...เท่านั้นพอ
เมื่อเส้นทางรักหนึ่งซึ่งเธอเลือก
กระพี้-เปลือกอย่างไรใจเธอก่อ
ก้าวต่อไปเถิดคนดีอย่ารีรอ
อย่าทดท้อต่อขวากหนามของความรัก
มันอาจสุขหรือทุกข์บ้างเส้นทางฝัน
จงฝ่าฟันอย่าย่นย่อต่ออุปสรรค
กำลังใจหนึ่งนี้มีพร้อมพรัก
เมื่อประจักษ์เธอสุขพอ...ขอลาไกล
วันหนึ่งเธอไม่มีใครในชีวิต
โปรดให้สิทธิ์ฉันดูแลแผลใจให้
หายดีแล้วจะหลีกเร้นไม่เป็นไร
ฉันก็พร้อมเก็บใจ...ไว้ที่เดิม...
5 พฤศจิกายน 2555 20:34 น.
คนบางบอน
ไปที่ชอบเถอะคนดีไปที่ชอบ
ไม่ต้องตอบเหตุผลปนเย้ยหยัน
เมื่อสิ้นเยื่อขาดใยสายสัมพันธ์
ก็อย่าหันกลับมาชายตาแล
คนจนจนอย่างพี่หมดดีแล้ว
เหมือนเศษแก้วแตกยับเกินจับแน่
อย่าห่วงเลยนิยายคนพ่ายแพ้
ใจมีแผลเจ็บก็ยังพอทน
จะประคองชีวิตที่ผิดพลาด
รอโอกาสเงยหน้ามาอีกหน
จะคอยดูน้ำหน้าฟ้าเบื้องบน
ที่ปล่อยคนใจร้ายทำลายเรา
ขอเธอจงไปดีเถิดที่รัก...
ลืมน้ำขมต้มผัก..รสชาติเก่า
ไปยังที่...ที่ใจมันรุมเร้า
อย่ามัวเฝ้าหันเหเร่ไปมา
คนทางนี้ไม่มีใจเหลือให้อีก
ทุกเสี้ยวซีกหมดแล้ว...เสน่หา
อาจมีบ้างหยาดน้ำใสที่ปลายตา
วันเวลาจะดูแลแผลที่มี
ไปที่ชอบเถอะคนดีไปที่ชอบ
เป็นคำตอบสุดท้ายในวันนี้
ระหว่างเราเกมรักจบสักที
เชิญไปที่...ที่ใจเธอไปแล้ว...
26 ตุลาคม 2555 12:11 น.
คนบางบอน
ในโลกฝันออนไลน์มากมายเพื่อน
มาเยี่ยมเยือนทักทายกันหลายหน้า
โลกความจริงวันนี้, ที่ผ่านมา,
กลับเหว่ว้าหมองหม่นอยู่คนเดียว
เพื่อนคุยหรือมีบ้างอย่างเห็นได้
แต่เพื่อนใจกลับไม่มีมาข้องเกี่ยว
เหงา เศร้า เดียวดาย ใต้ฟ้าเรียว
หัวใจเปลี่ยวเหว่ว้ามานานวัน
อยากมีคนรู้ใจไว้ร่วมคิด
อยากมีมิตรเคียงใจไว้ร่วมฝัน
อยากมีบ้างสักหน คนสำคัญ
มาแบ่งปัน มาแบ่งเบา มาเข้าใจ
อุปสรรคคือความจนความค้นแค้น
มันขาดแคลนทุกสิ่ง, เรื่องยิ่งใหญ่
จึงไม่กล้าที่จะเผยเอ่ยความนัย
ที่ทำได้ก็เป็นเพื่อนเหมือนที่เป็น
คงต้องปล่อยไปตามทางความว่างเปล่า
พกความเหงาไปทุกที่อย่างที่เห็น
ฟ้าคงรู้ว่าเหว่ว้า ว่าลำเค็ญ
สายลมเย็นคงปลอบใจได้สักวัน
ขอบฟ้ากว้างทางไกลใจมันท้อ
คนที่รอว่าใช่...แค่ได้ฝัน
ไม่มีหรอกรักชื่นคืนพระจันทร์
คนคนนั้นสำหรับเราเขา...ไม่มี (ตัวตน)
25 ตุลาคม 2555 19:37 น.
คนบางบอน
เห็นฟ้าหม่นคนหมองเหม่อมองฟ้า
ภาพเลือนพร่าพร่างพรายริ้วสายฝน
น้ำตาฟ้าไหลหลั่งฝังกมล
น้ำตาคนเหว่ว้าบ่าไหลริน
ฟ้าเจ็บช้ำเรื่องใดใยครวญคร่ำ
ใครหรือทำช้ำได้ใจช่างหิน
ถามเดือน, ดาว,ก็เฉไฉไม่ได้ยิน
หรือองค์อินทร์แกล้งฟ้าพาขุ่นใจ
จะว่าฟ้าเดียวดายก็ใช่ที่
ก็ฟ้ามีจันทรามาอยู่ใกล้
ต่างจากเราที่วันนี้ไม่มีใคร
จึงคร่ำครวญหวนไห้ใจร้าวราน
มีชีวิตเดียวดายใต้ฟ้ากว้าง
อยู่กับความอ้างว้างทุกทางผ่าน
ขาดคนคู่เคียงใจมาเนิ่นนาน
ไร้ความหวานหล่อเลี้ยงชโลมใจ
น้ำตาฟ้าหยุดไหลเหือดหายแล้ว
เหลือไว้เพียงเกล็ดแก้วหยดน้ำใส
น้ำตาคนเหว่ว้าหลั่งอาลัย
ตรมกับความปราชัยของตัวเอง...
4 ตุลาคม 2555 10:27 น.
คนบางบอน
ระงมฟ้า เมื่อฝนพรำ
เหมือนเสียงร่ำ ระกำใจ
น้ำตา ที่บ่าไหล
ระทมใน ฤทัยตรม
หยาดเหงื่อ และแรงกาย
ก็หวังหมาย ได้ชื่นชม
ฝนฟ้า ทำนาล่ม
ขมขื่นใจ ในชะตา
ข้าวแก่ เกือบได้เกี่ยว
อีกนิดเดียว จะเห็นค่า
หมดแล้ว หมดแรงล้า
หมดปัญญา จะกู้คืน
ธรรมชาติ ไม่เป็นใจ
ชาวนาไห้..อกสะอื้น
สู้ทน...ทน กล้ำกลืน
หวังพลิกฟื้น ชะตากรรม
เดือนนี้ เมื่อปีก่อน
ก็ร้าวรอน นี่..ย้อนย้ำ
เยียวยา อันชอบธรรม
ก็อ้ำอึ้ง ทึ้ง ถ่าย เท
เช่นนี้ หากหนีน้ำ
ทิ้งนาซ้ำ ห่างหันเห
ผู้เฒ่า...ลูกในเปล
จักร่อนเร่ ดินแดนใด
กัดฟัน กำเคียวก้ม
ถึงข้าวจม งมเกี่ยวไว้
อาจเหลือ พอยาไส้
ต่อชีพไป ให้หยัดยืน
หนี้สิน ที่ถมทับ
จำยอมรับ อย่างสุดฝืน
ปีหน้า ถ้าไม่ฟื้น
ให้ผืนนา กลบหน้าไป
ฝนพรำ น้ำตาริน
แทบดาวดิ้น แทบสิ้นใจ
โอ้หนอ...ชาวนาไทย
ในยุคนี้...เช่นนี้เอง...