10 พฤศจิกายน 2550 09:30 น.
คนดง
เหน็ดเหน็ดเหนื่อย เมื่อยเมื่อยล้า พาพาคิด
........ถึงถึงคู่ ชู้ชู้ชิด เราเราสอง
........ให้ให้ชื่น รื่นรื่นรมร์ สมสมปอง
........เหนื่อย เหนื่อยข้อง หมองหมองคลาย ใจใจเปรมดิ์
เว้นเว้นแต่ เครียดเครียดคลุก สุขสุขไม่
แลแลไป ไม่ไม่พบ ทุกข์ทุกข์เข้ม
ลากลากใจ ให้ให้ต่ำ ช้ำช้ำเต็ม
เลาะเลาะเล็ม กร่อนกร่อนกิน สิ้นสิ้นลม......
8 พฤศจิกายน 2550 23:16 น.
คนดง
เคยนับดาว คราวเดือน เลื่อนลาฟ้า
ชี้ชวนว่า นั่นดาว อะไรพี่
เอนกายพิง อิงแอบ แนบฤดี
ต่างชวนชี้ ชมชื่น รื่นดั่งดาว
แต่คืนนี้ มีแต่ เมฆเต็มฟ้า
ข้างกายา ลาร้าง ร่างของเจ้า
เมฆมาบัง นางมาหนี ลี้หลบเรา
โอ้ความเศร้า เร้ารุก ทุกซอกใจ
จะชี้มือ มีแต่เมฆ มาบังบด
จะบอกปด ปลอบยอดชู้ เจ้าอยู่ไหน
มองซ้ายขวา หน้าหลัง ทั้งใกล้ไกล
เจ้าอยู่ไหน ใยทิ้งพี่ อยู่เดียวดาย
ฟ้าก็มืด ทางก็หม่น คนก็หมาง
แสงส่องทาง จากดารา ก็มาหาย
ดั่งตาบอด กอดเกาะ พยุงกาย
ไร้จุดหมาย ไร้วิถี ที่จะจร
8 พฤศจิกายน 2550 23:12 น.
คนดง
ก้าวย่างเดิน เกินย่างด้น ถนนถ้ำ
ทางลึกล้ำ ถ้ำลึกล้น ถนนขาว
รอบแสงพร่าง ร่างแสงพรึก ประกายดาว
โอ้ตัวเรา เอาตัวรัก ที่พักเดิน
จะถอยกลับ จับถอยไกล ถอดใจทิ้ง
ใจประวิง จริงประหวัด หัดระเหิน
เวิ้งฟ้าไกล ไหว้ฟ้ากั้น สุดเอื้อมเกิน
แนวโขดเขิน เนินโขดคั่น ฉันหลงทาง
หลงทางรัก หลักทางรั้ว ล้อมขังรอบ
ขังล้อมกรอบ ขอบล้อมกั้น ผุดพลันสร้าง
วนเวียนว่าย ว่ายเวียนวน ของกลทาง
สุดอ้างว้าง สร้างอ้างว่า หาผู้คน
7 พฤศจิกายน 2550 11:15 น.
คนดง
แสงเทียนส่อง ส่องสาด สีทองเรื่อ
ด้วยน้ำเนื้อ เนื้อเทียน ละลายแท่ง
ประกายไหว ไหวริก ระรัวแรง
เปล่งเรืองแสง แสงส่อง ผ่องอำไพ
แสงเทียนเทียบ เทียบได้ ดุจใจฉัน
แรกเริ่มวัน วันเปล่ง ประกายใส
ประกายรัก รักเริ่ม เปล่งทันใด
ผุดไสว ไหวหวาน ปริ่มหทัย
ฉันไม่อยาก อยากเทียบ น้ำเทียนหยด
คล้ายกับหยด หยดน้ำตา หยาดรินไหล
พอรักเบ่ง เบ่งบาน ก็ผลาญไฟ
เทียนหยดไหล ไหลเช่น น้ำตาคน
7 พฤศจิกายน 2550 11:06 น.
คนดง
มองเพียงเปลือก เลือกเห็น เช่นเพียงเปลือก
แลเหลือบเห็น ให้เลือก เปลือกนอกเห็น
ดั่งจะเป็น เช่นกำหนด ว่าคงเป็น
งามพิไล เฉกเช่น พิลาไล
เนื้อในนวล ใช่แจ่ม อะแหร่มนวล
สะกาวใส ใยชวน ว่างามใส
นอกกับใน ใช่เหมือน ผิวนอกใน
อาจจะกลวง กร่อนให้ เป็นรูกลวง
เหมือนมองคน กลมอง มุมมองคน
ก็ให้ล่วง แลพ้น ทะลุล่วง
รูปร่างลวง หลอกหล่อ ว่าล่อลวง
จึ่งแลใจ ให้เห็นห้วง ของหัวใจ