26 กรกฎาคม 2554 00:25 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๗**

คนกุลา


ตำนานเจนละ
๗)

๐  บัลลังก์ราชแว่นแคว้น.............สืบกัน
หลัง”ภววรมัน”............................สิ้นแล้ว
“จิตรเสน”สืบวงศ์พลัน................ยอยศ
เคยช่วยคุมทแกล้ว...................รบด้วยเชษฐา๚ะ๛

๐ ยุคภวราเชนทร์
“จิตรเสน”นำทัพกล้า
กรำศึกเคียงกันมา
สลายอำนาจชาติฟูนัน

๐ ในสมัยองค์เชษฐา
พระอนุชาผู้มุ่งมั่น
ถูกมอบให้ป้องกัน
ครองเมือง”อังกอบอเลย”

๐ ครั้นท่านพี่สวรรคต
ผู้น้องยอยศผ่าเผย
เป็นตามเห็นเช่นเคย
หามีใครเอ่ยท้วงติง

๐ เฉลิมฉลองครรลองสร้าง
ทุกทางจัดงานใหญ่ยิ่ง
เสริมสร้างพลังใจจริง
เป็นสิ่งสืบสานนานเนา

๐  เมื่อปรับเปลี่ยนรัชสมัย
หวังชนใกล้ไกลหายเศร้า
หมายทุกข์ได้บรรเทา
ถือเอาจิตรเสนเป็นธง๚ะ๛


.....................คน  กุลา  ๒๔  กรกฎ  ๕๔

(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)
 				
25 กรกฎาคม 2554 12:51 น.

**ฮอตก..เพราะเหตุใด..??**

คนกุลา



๐ ขอเสียใจในอาดูรท่านสูญเสีย
แก่ลูกเมียแม่พ่อเฝ้ารอหวัง
ความเศร้าสร้อยคอยหาเหนื่อยล้าจัง
รู้พลาดพลั้งพลิกฟื้นข่าวยืนยัน

๐ ถึงที่สุดหลุดข่าวเล่ามาว่า
ทหารกล้าชีวิตถูกปลิดผัน
โอ้อาลัยไหนเอยเคยห่วงกัน
มากลับพลันพลัดหายตายเป็นเบือ

๐ ติดตามข่าวราวเรื่องในเบื้องต้น
ฉอกอด้นรักษาทัพพระยาเสือ
คอยป้องกันเกื้อหนุนและจุนเจือ
มุ่งหมายเพื่อปกปักรักษ์พงพี

๐ เป้าหมายคือคนกลุ่มน้อยคอยบุกรุก
ช่างมีชุกชุมเขาตะนาวศรี
เหตุเกิดแก่งกระจานย่านเพชรบุรี
ประเด็นเด็ดเจ็ดสีก็ร่วมทาง

๐ เสร็จภารกิจจับกะหร่างผู้ถางป่า
เมฆหมอกมามืดมิดปิดฟ้ากว้าง
ฮอจึงลงไม่ได้ให้รอพลาง
ติดอยู่กลางป่าไม้ได้สี่วัน

๐ จนถึงวันที่ห้าเริ่มฟ้าเปิด
แสนประเสริฐค่ายสุรสีห์ขมีขมัน
ส่งเครื่องฮอฮิวอี้ยินดีครัน
สองเที่ยวนั้นออกได้จากสายดง

๐ เที่ยวที่สามแสนประหลาดฮอพลาดพลั้ง
ระเบิดฟังว่ายุ่ยเป็นผุยผง
ผอบอพลสนใจได้เจาะจง
ด้วยพะวงลูกน้องท่านต้องไป

๐ ขึ้นเครื่องบินแบล็คฮอร์คออกคำสั่ง
นำกำลังรับร่างอย่างยิ่งใหญ่
เกิดผิดพลาดคาดหมายไม่เป็นใจ
ตกครั้งใหม่อีกครั้งยังงงงัน

๐ จนสุดท้ายใช้เบลล์ตระเวนช่วย
มาตกด้วยรวมสามเหมือนความฝัน
เสียงคนเริ่มกล่าวโทษพร้อมโจษจัน
เหตุใดกันตกสามครั้งชั่งแปลกจริง

๐ เสียชีวิตเบ็ดเสร็จสิบเจ็ดศพ
ลือไม่จบว่าอาถรรพ์ป่านั้นสิง
หรือเครื่องเก่าเราร้างใช้อ้างอิง
ที่พึ่งพิงคุณไสยไม่เข้าการ

๐ เครื่องฮิวอี้สี่สิบปีที่นานเนิ่น
เบลล์ไม่เกินกับฮิวอี้มีหลักฐาน
ส่วนแบล็คฮอร์คดีหน่อยค่อยใช้งาน
เพียงประมาณสิบปีที่ทราบกัน

๐ เครื่องบินเก่าปานใดมีใครคิด
เพ่งพินิจความปลอดภัย~ ใครจัดสรร
ยิ่งมีข่าวการซื้อขายเหมือนคล้ายยัน
ว่าโปรงใสไหมนั้นช่วยกันตรอง

๐ เอาน้ำตาปร่าปรางมาสร้างเสริม
เอาชีวิตเพิ่มเติมนักรบผอง
สอนบทเรียนเลือดเนื้อไหลเรื่อนอง
เปลี่ยนมุมมองคราร้ายให้เกิดคุณ

๐ หากไม่ใช้มูลเหตุอาเพศนี้
ยังจะมีกี่ครั้งนั่งหัวหมุน
เอาชีวิตจิตใจไทยเป็นทุน
ก่อนจะวุ่นครั้งหน้าท่าสายเกิน

๐ ขอวิงวอนว่าให้โปรดได้คิด
หวังพินิจร่วมกันใคร่สรรเสริญ
เพราะความเศร้าคราวนี้มีมากเกิน
จึงขอเชิญชาวไทยร่วมใคร่ครวญ

๐ ค้นให้พบต้นธารเหตุการณ์ร้าย
ก่อนวอดวายวนมาพาไห้หวล
สาวความจริงยิ่งยากอยากเชิญชวน
คิดทบทวนต่อไปจะได้จำ.๚ะ๛


.............................คน  กุลา ๒๕  กรกฎ  ๕๔

 				
24 กรกฎาคม 2554 11:13 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๖**

คนกุลา

ตำนานเจนละ
๖)

๐ ภววรมันสืบด้าว................แดนดิน
ลงแหล่งหลักธานินทร์...........ท่านสร้าง
ดูแลหมู่หากิน........................ขยายเขตุ
เจนละจนใหญ่กว้าง..............จวบสิ้นรัชสมัย๚ะ๛

๐ ภววรมัน
กับความฝันอันเกรียงไกร
เลื่องชื่อระบือไกล
จากตระกูลแห่งป่าดง

๐ สะสมกำลังคน
อีกไพร่พลแสนมั่นคง
ด้วยสัจจ์วัตรซื่อตรง
และกล้าหาญการสงคราม

๐ ดูแลการทำกิน
หาทรัพย์สินพยายาม
พัฒนาทั่วเขตุคาม
ห้วยละหารธารนองเนือง

๐ สิ่งสร้างนับนานา
จึงพงป่ากลายเป็นเมือง
ชุมชนหนุนนับเนื่อง
เข้าร่วมเหล่าเป็นเผ่าพันธ์

๐ เมื่อสิ้นท้าวท่านแล้ว
ดั่งดวงแก้วดับลงพลัน
หวังเอยเคยร่วมฝัน
ต่อแต่นี้มีใครแทน๚ะ๛

.....................คน กุลา ๒๔  กรกฎ  ๕๔

(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)				
23 กรกฎาคม 2554 18:42 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๕**

คนกุลา


ตำนานเจนละ
๕)

๐ ประโยชน์เกลือมากล้น............นับอนันต์
ถลุงเหล็กมาเสกสรร...................มีดพร้า
อีกทวนดาบหอกอัน....................ประกอบส่วน
รวมก่อกองทัพกล้า......................เก่งสู่กลางสมร..ฯ


.................................


๐ หลังผ่านการศึกษา
เฝ้าค้นคว้ามายืนยัน
เกลือเดิมค่าอนันต์
ใช้ในถลุงโลหะการ

๐ ได้เหล็กและสัมฤทธิ์
มาผลิตช่วยทำงาน
เครื่องมือในเรือนชาน
จนศาสตราอาวุธคม

๐ จอบไถใช้ทำนา
ดาบมีดพร้าใช้นานนม
ถางป่าฝ่าแดดลม
บุกเบิกทุ่งที่ทำกิน

๐ ข้าศึกมาบีฑา
หอกดาบมาป้องชีวิน
มุ่งรักษาทรัพย์สิน
จนกระทั่งสั่งสมพล

๐ เมื่อพร้อมสรรพกำลัง
ก็จึงหวังสร้างเผ่าตน
ชยายทัพขยับจน
“เจนละ”ปักเป็นหลักชัย๚ะ๛

.....................คน กุลา ๒๓  กรกฎ  ๕๔

(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)
 				
22 กรกฎาคม 2554 22:27 น.

**จ้าวไพร**

คนกุลา



๐ มีคนกล่าวเล่าขานตำนานเขา
เป็นเรื่องเก่าเก็บไว้มิได้เขียน
ภาพประทับกลับฝังจึงยังเวียน
คือบทเรียนร้อยร่ำจะจำนรรจ์

๐ เห็นเฝ้าอยู่ดูแลฉันแม่ลูก
มักจะถูกไถ่ถามถ้อยหยามหยัน
แต่ทุกคราวชาวบ้านมีงานกัน
พวกเขานั้นหนุนช่วยบุญด้วยแรง

๐ ร่างดำแกร็นแขนขาดูกล้ากร้าน
ช่วยทุกงานท่านใช้ไม่หน่ายแหนง
แม่เก็บงำทำครัวยกคั่วแกง
ลูกจัดแจงจังก้าคอยผ่าฟืน

๐ ในหมู่บ้านย่านไหนดูไร้ค่า
หากอยู่ป่าเป็นใหญ่หาใครฝีน
ทัพกระท่อมกลางไพรไม้ใหญ่ยืน
แรมวันคืนเขารู้เพียงผู้เดียว

๐ กับฝูงควายหลายร้อยต้องคอยเลี้ยง
ปลดปล่อยเคียงคงป่าพนาเขียว
แลกเงินตราค่าจ้างหว่างทางเทียว
ผืนใหญ่เปลี่ยวเพิงผา-พม่า-ไทย

๐ หลายหมื่นไร่ใจหวาดไม่อาจนึก
เพราะตรองตรึกตามติดที่คิดใฝ่
ในเนื้อความนิยามเราไม่เข้าใจ
เพียง”จ้าวไพร”คนนั้นคล้ายมั่นคง

๐ มีเพื่อนเขาเล่าเรืองในเมืองหลวง
ท่ามแสงลวงเลิศวามชวนหวามหลง
แต่กับผู้อยู่ไหนจับใจดง
หมายเจาะจงตรงต้าวแดนดาวเรียง

๐ ลองลงไปได้งานหลายร้านถิ่น
น้ำตารินร่ำตรมหากข่มเสียง
สะอื้นไห้ได้ย้ำส่งสำเนียง
หมายคืนเพียงฟากฝันพร่างพรรณราย

๐ กลับมาสู่อู่ไอแห่งไพรพฤกษ์
กับรู้สึกลึกล้ำเกินย้ำหมาย
มั่นแว้นแคว้นแดนฝันจนวันวาย
ใจมิคลายครวญหาฟ้าอาบจันทร์

๐ วันนั้นฝนหล่นมาเหมือนฟ้ารั่ว
เมฆมืดมัวหม่นดำราวคำหยัน
แต่ย่านพงดงเถื่อนมิเหมือนกัน
เพราะคือวันหวังรับคอยกลับคืน

๐ กลับมาสู่สถานพิมานทิพย์
ดาวระยิบยิ้มร่าใต้ฟ้าผืน
กลางกระท่อมหอมกลิ่นไอดินกลืน
ปะทุฟืนฟ่อนเก่ายังเฝ้ารอ

๐ ปานแม่ทัพกลับฐานในม่านฝน
พลางกล่อมมนต์ดลให้อย่าได้ท้อ
ฟังหริ่งหรีดกรีดเร้าเฝ้าพนอ
มาเคลียคลอเคียงเคล้ากล่อม"จ้าวไพร"๚ะ๛

............คน กุลา ๒๑ กรกฎ ๕๔
 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกุลา