30 พฤศจิกายน 2553 23:23 น.
คนกุลา
๐ คลื่นซัดหาดสาดฝั่งดังค่อยค่อย
หมู่เมฆลอยเลียบฟ้าทะเลฝัน
ม่านภูเขาเทาทาบอาบม่านควัน
ทิวไม้กั้นกำแพงมาแต่งเติม
๐ เรือบางลำลอยไกลคล้ายนิ่งเงียบ
ใจเย็นเฉียบหาใครไหนมาเสริม
ราวนิยายหมายจดด้วยบทเดิม
ตั้งแต่เริ่มจนจบวนทบเวียน
๐ เครื่องบินครางอย่างฟ้าจะถล่ม
ฝืนใจข่มมองไกลคล้ายภาพเขียน
ซากความหลังยังจดเป็นบทเรียน
เจ็บจวนเจียนเกือบตายไยคล้ายจำ
๐ กลับมาเยือนทะเลแม้เหว่ว้า
โชคชะตาพาใจให้ถลำ
เห่ขวัญเอยเคยชอบมาปลอบคำ
บอกงามขำแม้นนานมิผ่านเลย
๐ ใครมาสร้างวิมานทรายที่ชายหาด
ก่อปราสาทสร้างทรายไว้เปิดเผย
มิกลัวคลื่นคืนฝั่งเหมือนดังเคย
ไล่สายเสยกลบหายไร้ร่องรอย
๐ เหมือนฝันคนตนมีตามที่หวัง
ปลุกพลังเพียรก่อมิท้อถอย
มีใครหนอรอฉันร่วมวันคอย
คู่เคียงค่อยก่อใหม่ไม่เลิกรา
............................
คนกุลา
ในเหมันต์
9 พฤศจิกายน 2553 17:09 น.
คนกุลา
๐ ลมหนาว คราวเหมันต์
พัดกล่อมขวัญ โบกโบยผ่าน
สิ้นฤดู หมุนเวียน เปลี่ยนตามกาล
ค่ำคืนหวาน ซ่านใจ ในคำนึง
ยังติดตรึง ซึ้งในทรวง เพราะห่วงกัน
๐ หมดวสันต์ ลงวันไหน
จากคนไกล ที่เฝ้าฝัน
รอคืน ขับกานท์ ทุกวารวัน
ยามห่างนั้น ขวัญเอ๋ย เกินเอ่ยคำ
อยากบอกย้ำ ใจพี่ยา ในคราจร
๐ ห่วงน้องน้อยก็ห่วง
ถึงเจ้าดวง สายสมร
ไหว้พระ คราใด ขอได้พร
หวังบังอร ผ่อนทุกข์ เปี่ยมสุขพลัน
นับอนันต์ แสนเกษม เปรมปรีดา
๐ คราไหน เราได้พบ
ได้ประสบ ได้พบหน้า
จะเฝ้า ชมชิด จนนิทรา
แทนเวลา คราพราก ได้จากนาง
เชยสองปราง ประทับรอย สมคอยคืน..ฯ
คนกุลา
ต้นเหมันต์
..........................