24 กรกฎาคม 2554 11:13 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๖**

คนกุลา

ตำนานเจนละ
๖)

๐ ภววรมันสืบด้าว................แดนดิน
ลงแหล่งหลักธานินทร์...........ท่านสร้าง
ดูแลหมู่หากิน........................ขยายเขตุ
เจนละจนใหญ่กว้าง..............จวบสิ้นรัชสมัย๚ะ๛

๐ ภววรมัน
กับความฝันอันเกรียงไกร
เลื่องชื่อระบือไกล
จากตระกูลแห่งป่าดง

๐ สะสมกำลังคน
อีกไพร่พลแสนมั่นคง
ด้วยสัจจ์วัตรซื่อตรง
และกล้าหาญการสงคราม

๐ ดูแลการทำกิน
หาทรัพย์สินพยายาม
พัฒนาทั่วเขตุคาม
ห้วยละหารธารนองเนือง

๐ สิ่งสร้างนับนานา
จึงพงป่ากลายเป็นเมือง
ชุมชนหนุนนับเนื่อง
เข้าร่วมเหล่าเป็นเผ่าพันธ์

๐ เมื่อสิ้นท้าวท่านแล้ว
ดั่งดวงแก้วดับลงพลัน
หวังเอยเคยร่วมฝัน
ต่อแต่นี้มีใครแทน๚ะ๛

.....................คน กุลา ๒๔  กรกฎ  ๕๔

(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)				
23 กรกฎาคม 2554 18:42 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๕**

คนกุลา


ตำนานเจนละ
๕)

๐ ประโยชน์เกลือมากล้น............นับอนันต์
ถลุงเหล็กมาเสกสรร...................มีดพร้า
อีกทวนดาบหอกอัน....................ประกอบส่วน
รวมก่อกองทัพกล้า......................เก่งสู่กลางสมร..ฯ


.................................


๐ หลังผ่านการศึกษา
เฝ้าค้นคว้ามายืนยัน
เกลือเดิมค่าอนันต์
ใช้ในถลุงโลหะการ

๐ ได้เหล็กและสัมฤทธิ์
มาผลิตช่วยทำงาน
เครื่องมือในเรือนชาน
จนศาสตราอาวุธคม

๐ จอบไถใช้ทำนา
ดาบมีดพร้าใช้นานนม
ถางป่าฝ่าแดดลม
บุกเบิกทุ่งที่ทำกิน

๐ ข้าศึกมาบีฑา
หอกดาบมาป้องชีวิน
มุ่งรักษาทรัพย์สิน
จนกระทั่งสั่งสมพล

๐ เมื่อพร้อมสรรพกำลัง
ก็จึงหวังสร้างเผ่าตน
ชยายทัพขยับจน
“เจนละ”ปักเป็นหลักชัย๚ะ๛

.....................คน กุลา ๒๓  กรกฎ  ๕๔

(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)
 				
22 กรกฎาคม 2554 22:27 น.

**จ้าวไพร**

คนกุลา



๐ มีคนกล่าวเล่าขานตำนานเขา
เป็นเรื่องเก่าเก็บไว้มิได้เขียน
ภาพประทับกลับฝังจึงยังเวียน
คือบทเรียนร้อยร่ำจะจำนรรจ์

๐ เห็นเฝ้าอยู่ดูแลฉันแม่ลูก
มักจะถูกไถ่ถามถ้อยหยามหยัน
แต่ทุกคราวชาวบ้านมีงานกัน
พวกเขานั้นหนุนช่วยบุญด้วยแรง

๐ ร่างดำแกร็นแขนขาดูกล้ากร้าน
ช่วยทุกงานท่านใช้ไม่หน่ายแหนง
แม่เก็บงำทำครัวยกคั่วแกง
ลูกจัดแจงจังก้าคอยผ่าฟืน

๐ ในหมู่บ้านย่านไหนดูไร้ค่า
หากอยู่ป่าเป็นใหญ่หาใครฝีน
ทัพกระท่อมกลางไพรไม้ใหญ่ยืน
แรมวันคืนเขารู้เพียงผู้เดียว

๐ กับฝูงควายหลายร้อยต้องคอยเลี้ยง
ปลดปล่อยเคียงคงป่าพนาเขียว
แลกเงินตราค่าจ้างหว่างทางเทียว
ผืนใหญ่เปลี่ยวเพิงผา-พม่า-ไทย

๐ หลายหมื่นไร่ใจหวาดไม่อาจนึก
เพราะตรองตรึกตามติดที่คิดใฝ่
ในเนื้อความนิยามเราไม่เข้าใจ
เพียง”จ้าวไพร”คนนั้นคล้ายมั่นคง

๐ มีเพื่อนเขาเล่าเรืองในเมืองหลวง
ท่ามแสงลวงเลิศวามชวนหวามหลง
แต่กับผู้อยู่ไหนจับใจดง
หมายเจาะจงตรงต้าวแดนดาวเรียง

๐ ลองลงไปได้งานหลายร้านถิ่น
น้ำตารินร่ำตรมหากข่มเสียง
สะอื้นไห้ได้ย้ำส่งสำเนียง
หมายคืนเพียงฟากฝันพร่างพรรณราย

๐ กลับมาสู่อู่ไอแห่งไพรพฤกษ์
กับรู้สึกลึกล้ำเกินย้ำหมาย
มั่นแว้นแคว้นแดนฝันจนวันวาย
ใจมิคลายครวญหาฟ้าอาบจันทร์

๐ วันนั้นฝนหล่นมาเหมือนฟ้ารั่ว
เมฆมืดมัวหม่นดำราวคำหยัน
แต่ย่านพงดงเถื่อนมิเหมือนกัน
เพราะคือวันหวังรับคอยกลับคืน

๐ กลับมาสู่สถานพิมานทิพย์
ดาวระยิบยิ้มร่าใต้ฟ้าผืน
กลางกระท่อมหอมกลิ่นไอดินกลืน
ปะทุฟืนฟ่อนเก่ายังเฝ้ารอ

๐ ปานแม่ทัพกลับฐานในม่านฝน
พลางกล่อมมนต์ดลให้อย่าได้ท้อ
ฟังหริ่งหรีดกรีดเร้าเฝ้าพนอ
มาเคลียคลอเคียงเคล้ากล่อม"จ้าวไพร"๚ะ๛

............คน กุลา ๒๑ กรกฎ ๕๔
 				
22 กรกฎาคม 2554 20:19 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๔**

คนกุลา



ตำนานเจนละ
๔)

๐ ทุ่งกุลาคราก่อนนั้น.........ดงเกลือ
ปลาเมื่อมีเหลือเฟือ.............หมักไว้
เสบียงกรังเริ่มจุนเจือ..........สะสมเก็บ
เตรียมไพร่พลคอยใช้.........ทแกล้วทวยหาญ๚ะ๛

...........................


๐ เริ่มย่านทุ่งกุลา
เลาะเรื่อยมาตามริมมูล
แหล่งเกลือใช้เกื้อกูล
หมักปลาไว้อยู่ได้นาน

๐ ที่ราบลุ่มรับน้ำ
อุดมล้ำคราถึงกาล
หน้าแล้งแห้งกันดาร
ยามฝนมากน้ำหลากพลัน

๐ ปูปลาสมบูรณ์จัง
จับกักขังย่าง,หมักกัน
ใส่ไหกินนานวัน
ร่วมหล่อเลี้ยงเสบียงพล

๐ มีข้าวเต็มยุ้งฉาง
ปลาหมัก,ย่างมีทุกหน
มีดพร้าหาครบคน
ทั้งหอกดาบปราบริปู

๐ อาณาประชาราษฎร์
จึงรวมชาติชนเชิดชู
เจนละก็เฟื่องฟู
เสริมสร้างสมระดมพลัง ๚ะ๛


.....................คน กุลา ๒๒  กรกฎ  ๕๔

(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)
				
21 กรกฎาคม 2554 19:04 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๓**

คนกุลา



ตำนานเจนละ
๓)

๐ ปัญญารู้จักใช้..............ชลประทาน
ทุกแหล่งห้วยละหาร.........ทดน้ำ
ประโยชน์ก่อผลงาน.........นาไร่
ดึงดูดมนุษย์ถ้ำ...............ร่วมด้าวแดนสรวง..ฯ


..................... 


๐ รู้ถลุงเหล็กสัมฤทธิ์
ทั้งผลิตเกลือกินใช้
ขุดคูคลองนอกใน
แก้ผองภัยแล้งกันดาร

๐ เพาะปลูกและลี้ยงสัตว์
อีกทั้งจัดชลประทาน
กั้นคันนาไถหว่าน
ปลูกข้าวกินเลี้ยงชุมชน

๐ ปั้นถ้วยหม้อชามไห
แม้นยามใดไม่ขัดสน
จึงดึงดูดผู้คน
ค่อยทยอยมาร่วมคาม

๐ พัฒนาวัฒนธรรม
ให้จดจำและทำตาม
ศิวลึงค์กลึงหินงาม
สร้างอารามให้บูชา

๐ กตัญญูบรรพบุรุษ
ในหมู่บุตรแลธิดา
ปลงศพทำสองครา
สืบต่อมาเท่าปัจจุบัน๚ะ๛


.....................คน กุลา ๒๐  กรกฎ  ๕๔

(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)

 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกุลา