26 มีนาคม 2559 21:52 น.

ร้อนร้อน

คนกรุงศรี

สุริยัน วันนี้ ดูทีท่า
คล้ายดังว่า เคืองใคร จากไหนเล่า
ส่งลำแสง ส่องปราด สาดพวกเรา
ฤๅจะเผา โลกให้ ไหม้เป็นจุล
เมื่อร้อนกาย หน่ายนัก อยากพักร่ม
รอสายลม จากไหน ก็วายวุ่น
แม้พืชพง ป่าไพร มิให้คุณ
ปฐพี มีฝุ่น พาขุ่นใจ
ทั้งแม่น้ำ บึงหนอง คลองเหือดแห้ง
ดินระแหง เริ่มแยก แตกกันใหญ่
กอหญ้าเขียว เหี่ยวเฉา ดุดเถ้าไฟ
มองไปไกล ให้เห็น แดดเป็นตัว
พอบ่ายคล้อย ค่อยผ่อน กว่าตอนเที่ยง
ตะวันเลี่ยง เขาบัง ค่อยยังชั่ว
ลัดชายทุ่ง มุ่งมา หาบึงบัว
ช่างหน้ากลัว น้ำแล้ง กอแห้งตาย
ตะวันลับ เหลี่ยมเขา ก็เบาร้อน
สายลมอ่อน ผ่อนอ้าว ให้เบาหาย
พอค่ำลง คงจะ เย็นพระพาย
ชอบนั่งปลาย ชายนา เมื่อคราเย็น
ตะวันค่ำ ขับแสง แดงส่องฟ้า
หมู่นกกา กลับรัง ยังพอเห็น
ขลุ่ยใครเป่า เศร้าจัง ฟังลำเค็ญ
ที่นี่เป็น บ้านไพร .....ใช่ในกรุง
9 มีนาคม 2559 21:45 น.

รอ รอ รอ

คนกรุงศรี

แม้จะเพรียก เรียกใคร ก็ไม่ขาน
ลืมตำนาน กาลเก่า พวกเราหรือ
สิ้นไฟฝัน ลับลาง จึงวางมือ
ทุกอย่างคือ ความหลัง ไม่ยั่งยืน
วรรณศิลป์ สิ้นสาย ลายอักษร
นักเลงกลอน นอนเปล่า เศร้าสะอื้น
เฝ้ารอรอ รอวัน นั้นหวนคืน
ปลุกให้ตื่น นักกลอน ที่นอนซม
จะเด็ดเดี่ยว เดียวดาย มิหมายละ
ไร้วันจะ ท้อแท้ แม้้ขื่นขม
เก็บดินสอ แท่งเก่า เหลาให้คม
ค่อยผสม ผสาน งานร้อยกรอง
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี