29 สิงหาคม 2555 22:01 น.
คนกรุงศรี
แม้คราหลับ กลับผวา เบิกตากว้าง
หลากหลายอย่าง เวียนว่าย ในสมอง
พรุ่งนี้เรา รอดไหม นอนไตร่ตรอง
หรือจะต้อง หลบลี้ หนีให้ไกล
เพราะเหตุร้าย รายวัน มันมิหยุด
จะต้องมุด คุดคู้ อยู่ที่ไหน
หวังพึ่งคน ปกป้อง คุ้มผองภัย
แล้วมีไหม ใครหนอ ขอช่วยที
ก็กี่ร้อย กี่ราย ต้องตายดิ้น
หรือคนใต้ ต้องสิ้น จะถิ่นนี่
แล้วพวกท่าน อยู่ที่ไหน มิไยดี
หรือมิมี ปัญญา มาแก้กัน
ทำอะไร สักอย่าง อย่าวางเฉย
หยุดละเลย พวกเรา ยังเฝ้าฝัน
จะอยู่เหนือ กลางใต้ ไทยเหมือนกัน
สิ่งสำคัญ พ้นตาย หรือไม่เรา
ด้วยอยากมี ชีวิต ขอสิทธิ์ใช้
เป็นคนไทย ให้เป็น เหมือนเช่นเขา
แต่ด้ามขวาน วันนี้ เป็นสีเทา
พรุ่งนี้เล่า ใครรู้ อยู่หรือตาย
ถ้าอย่างแย่ แก้มิได้ อย่าอายนะ
ยอมสละ ปฐพี ตามที่หมาย
ก่อนลูกหลาน พวกเรา เขามลาย
ท่านทั้งหลาย คิดเห็น เป็นเช่นไร
18 สิงหาคม 2555 22:12 น.
คนกรุงศรี
คำสัญญา ยังมั่น อย่าหวั่นไหว
ถอดจากใจ มิลวง อย่างห่วงหา
แม้ร้อนหนาว เท่าใด ไม่โรยรา
มิอาจพา หรือพราก เราจากกัน
บอกเดือนดาว พราวฟ้า ว่าเรานี้
สองชีวี ซื่อตรง อย่างคงมั่น
มาร่วมสาน คำว่า สัจจาบรรณ
ตราบชีวัน มิพราก เราจากไกล
1 สิงหาคม 2555 22:59 น.
คนกรุงศรี
ชะแง้คอ รอคอย จันทร์ลอยเคลื่อน
หวังเป็นเพื่อน คราเรา ครั้งเศร้าหมอง
คนหนึ่งใคร เปลี่ยวเปล่า ที่เฝ้ามอง
รอแสงทอง ของเจ้า จนเหงาใจ
หมายฝากจันทร์ นำใจ ไปไกลลิบ
ช่วยกระซิบ ถามเขา ว่าเหงาไหม
บอกหน้ามล คนหนึ่ง ซึ่งอยู่ไกล
เป็นห่วงใย กับคะนึง คิดถึงจัง
นั่นจันทรา มาแล้ว เพื่อนแก้วเอ๋ย
หวังจะเชย แสงทอง ดั่งปองหวัง
แต่สีเจ้า กลับหม่น ปนเงาบัง
แม้เจ้ายัง หม่นไหม้ เหมือนใจเรา
จันทร์เหมือนข้า ครานี้ ที่สุดฝืน
ต้องกล้ำกลืน อยู่กับ ความอับเฉา
หลบสักนิด เมฆา อย่างบังเงา
ให้จันทร์เจ้า สื่อถ้อย ข้าลอยลม
หวังอาศัย แสงจันทร์ อันสดใส
นำหัวใจ เรานี้ ที่ขื่นขม
ผ่านฟากฟ้า บอกเขา เจ้าเอวกลม
คนช้ำตรม ฝากใจ มาให้กัน
แต่จันทร์มี สีหม่น เหมือนคนนี้
ทั่วราตรี ดูเหงา เศร้าโศกศัลย์
แล้วจะได้ ใครหรือ สื่อสัมพันธ์
บอกเธอนั้น ว่าข้า สุดอาดูร