18 กรกฎาคม 2555 21:48 น.
คนกรุงศรี
แอบมาออด อ้อนเรา ใจเจ้าเล่ห์
บอกว้าเหว่ อาวรณ์ ทั้งร้อนหนาว
อยู่เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย มาหลายคราว
มีปวดร้าว เป็นเพื่อ คอยเตือนตน
ให้ออกปาก ฝากใจ ส่งให้เขา
ทุกค่ำเช้า เร้าถาม ติดตามผล
แสร้งเฉยอยู่ ดูเหงา เศร้าพิกล
รบเร้าจน ใจพลอย ร่วมคล้อยตาม
ฝากลมพา พัดใจ เหมือนได้ผล
ฟ้าเบื้องบน เป็นใจ ให้ล้นหลาม
พิรุณพรม พร่างพราย พรรณไม้งาม
อยู่ในความ อบอวล ช่างชวนดอม
บอกดวงมาน สานต่อ อย่ารอช้า
เร่งเดินหน้า ก้าวไกล ให้หวานหอม
ฟ้าบันดาน อุ้มสม พรหมยินยอม
ที่ตรมตรอม หม่นเศร้า คงเหงาคลาย
สังเกตใจ ไม่สุข กลับทุกข์หม่น
ว่าเหตุผล กลใด จึงไม่หมาย
นั่งคนเดียว เปลี่ยวอยู่ ดูเดียวดาย
มองดูคล้าย หมดหวัง กำลังใจ
มานบอกมอง เงาตัว ยังกลัวเจ็บ
เคยหนาวเหน็บ เก็บล้น เกินทนไหว
จึงมิอาจ เอื้อนเอ่ย เผยความนัย
เกรงตนไม่ ควรคู่ เรารู้ดี
ขรัวตา
กลุ่มวรรณกวีศรีอยุธยา
3 กรกฎาคม 2555 22:47 น.
คนกรุงศรี
เศรษฐกิจ ผิดเพี้ยน พาเวียนหัว
หันดูตัว ชักแย่ แก้ไม่ไหว
จะจับจ่าย ซื้อของ จงมองไกล
ประหยัดไว้ ให้มาก มิยากจน
ดั่งความคิด ของเรา คงข้าท่า
ค้นตำรา รอแก้ เผื่อแผ่ผล
เป็นตัวอย่าง เยี่ยมแท้ แก่ปวงชน
มีหลายคน เอาอย่าง ท่าทางดี
ของฟุ่มเฟือย ลดได้ ก็ให้ละ
จำเป็นจะ ต้องจ่าย มิหน่ายหนี
มิต้องซื้อ ต้องหา เข้าท่าที
วันนั้นมี เพื่อนมา หาถึงเรือน
ก็คุยกัน นานจน เพื่อนบ่นหิว
หนังท้องกิ่ว ระงม เสียงลมเคลื่อน
เรามองดู รู้ได้ มิให้เตือน
ก็ชวนเพื่อน เข้าครัวมา หาของกิน
เอากระดาษ วาดไก่ย่าง วางตรงหน้า
คดข้าวมา จานใหญ่ ใจถวิล
เปิบกันจน อิ่มเอม เปรมดังจินต์
ก็ได้ยิน คนมา อยู่หน้าครัว
พ่อกลับมา หน้าบึ้ง ตึงเข้าใส่
เห็นรูปไก่ จึงว่า น่าโขกหัว
คราวหลังวาด เพียงแต่ แค่ครึ่งตัว
มิต้องกลัว หรอกเจ้า อิ่มเท่ากัน
16 มิถุนายน 2555 23:32 น.
คนกรุงศรี
วอแจ้งข่าว คราวนี้ มีคนป่วย
ทราบแล้วหน่วย กู้ภัย ไม่รอท่า
คว้ากุญแจ เจ้าโทน โจนออกมา
ขับรถหา จุดหมาย จนได้ความ
มัดบาดแผล คนไข้ ให้เลือดหยุด
เร็วที่สุด เปลใส่ ขึ้นไหล่หาม
ทุกนาที มีค่า พยายาม
อุทิศตน ทำตาม อุดมการณ์
ผู้ป่วยรอด ปลอดภัย กลับไปพัก
แสนเหนื่อยนัก เร็วมา หาอาหาร
เจ้าโทนเตรียม ของจะ รับประทาน
ดูเบิกบาน เพื่อนรวม ร่วมครื้นเครง
ตะโกนเรียก เมียให้ ว่องไวหน่อย
เพื่อนกูคอย เหตุใด ไม่รีบเร่ง
ไปซื้อเหล้า ผักปลา มาทำเอง
เสียงล้งเล้ง ด่าทอ ไม่พอใจ
เมียขายของ กลับมา ท่าเหนื่อยอ่อน
ลูกก็อ้อน เสียจัง นั่งร้องไห้
ตวาดลูก ดังก้อง ร้องทำไม
เดี๋ยวโดนไม้ แน่แน่ พร้อมแม่มึง
ก็เคยเห็น ตบตี มีบ่อยบ่อย
คำพูดพร่อย ดุด่า ท่าขังขึง
กลางตลาด วันวาน มันเอ็ดอึง
ทั้งเมียหนึ่ง เมียสอง เลยต้องลา
คนกรุงศรี ฯ
กลุ่มวรรณกวีศรีอยุธยา
15 มิถุนายน 2555 22:21 น.
คนกรุงศรี
เหมือนโดดเดี่ยว เดียวดาย อยู่ปลายหล้า
อยากมองหา สักคน บนความหวัง
เป็นเพื่อนปลอบ มอบใจ ให้พลัง
แลหน้าหลัง ยังหม่น ทนเอกา
คนเคยชิด เชยใกล้ เขาไกลห่าง
ความอ้างว้าง จับจอง เฝ้าปองหา
ตีสนิท ติดอยู่ คู่กายา
ก็ดีกว่า เพื่อนใจ ไม่ปรานี
อยู่กับเงา เหงาเอ๋ย อย่าเลยจาก
เป็นเพื่อนยาก อย่านะ คิดผละหนี
คงเพียงเจ้า เท่านั้น มั่นคงดี
เลิกหวังมี คนไหน ใครเขามอง
มองนภา ราตรี ที่เวิ้งว้าง
ยลแล้วช่าง เหว่ว้า ยิ่งพาหมอง
ดารามี ดาวเดือน เป็นเพื่อนครอง
เราก็ปอง ผองเพื่อน เหมือนดาวจันทร์
ฝากหัวใจ ผ่านฟ้า ดาราเอ๋ย
อย่าละเลย โปรดด้วย จงช่วยฉัน
นะน้ำใจ เพียงนิด คิดแบ่งปัน
ถ้าใครนั้น เมตตา ช่วยพาที
วอนสายลม ล่องลิ่ว พัดพลิ้วผัน
อย่าเย้ยหยัน เยาะเย้า ตัวเรานี่
แม้แรมร้าง สิ้นไร้ คนใยดี
ก็ยังมี เดียวดาย ช่วยคลายตรม
30 เมษายน 2555 22:30 น.
คนกรุงศรี
ใครคนหนึ่ง ซึ่งคอย จนหงอยเหงา
แอบนั่งเศร้า เฝ้ามอง คอยจ้องหา
มีเพียงหวัง ยังจำ คำวาจา
คงย้อนมา สักวัน ดั่งฉันคอย
คำสั้นสั้น วันนี้ ที่ได้รับ
เหมือนว่าซับ น้ำตา คราเหงาหงอย
ก็บ่อยครั้ง นั่งคิด จิตเหม่อลอย
จนค่อยค่อย เจียมใจ ไม่ลืมตน
อยากจะหัก ห้ามใจ มิให้คิด
รู้ไร้สิทธิ์ แต่ใน ใจสับสน
ใต้สำนึก ของฉัน นั้นกังวล
คิดถึงปน ห่วงใย ให้อาทร