สุดตระหนก อกสั่น แสนหวั่นไหว
บีบหัวใจ เสียจริง สิ่งทีเห็น
กินรี เล่นน้ำ ที่ฉ่ำเย็น
โอ้นี่เป็น บุญตา หรือว่าไร
มิเคยเห็น ใครงาม เท่าทรามชื่น
นี่เราตื่น แต่เหมือนกับ ว่าหลับใหล
เธอแหวกว่าย สายชล วนเวียนไป
สระน้ำใส ร่างงาม อร่ามตา
ทั้งรูปทรง องเอว ช่างอวบอัด
ได้ส่วนสัด ประเสริฐ เลิศล้ำค่า
เทียบเทวี ที่พบ ประสพมา
สุดจะหา ใครเท่า เจ้าพธู
ใช่สายตา ซุกซน เป็นคนห่าม
แต่ว่าห้าม จิตใจ ไว้มิอยู่
คิดลุ่มลึก เรื่อยไป ไตร่ตรองดู
ใครมิรู้ ความคิด ใจจิตเรา
สุดตระหนก อกสั่น แสนหวั่นไหว
บีบหัวใจ เสียจริง สิ่งทีเห็น
กินรี เล่นน้ำ ที่ฉ่ำเย็น
โอ้นี่เป็น บุญตา หรือว่าไร
มิเคยเห็น ใครงาม เท่าทรามชื่น
นี่เราตื่น แต่เหมือนกับ ว่าหลับใหล
เธอแหวกว่าย สายชล วนเวียนไป
สระน้ำใส ร่างงาม อร่ามตา
ทั้งรูปทรง องเอว ช่างอวบอัด
ได้ส่วนสัด ประเสริฐ เลิศล้ำค่า
เทียบเทวี ที่พบ ประสพมา
สุดจะหา ใครเท่า เจ้าพธู
ใช่สายตา ซุกซน เป็นคนห่าม
แต่ว่าห้าม จิตใจ ไว้มิอยู่
คิดลุ่มลึก เรื่อยไป ไตร่ตรองดู
ใครมิรู้ ความคิด ใจจิตเรา
ตั้งสติ ไตร่ตรอง มองเหตุผล
เราเป็นคน แสนงอน จิตอ่อนไหว
หรือเพราะหวง ห่วงหึง จึงน้อยใจ
นะอภัย อย่าโกรธ ถือโทษกัน
ฤทัยนั้น สั่นคลอน เมื่อก่อนนี้
จึงได้มี แผลเก่า เศร้ามหันต์
เหมือนคมมีด กรีดมาน มานานวัน
ถึงหวาดหวั่น อ่อนไหว กระไรเลย
ตั้งใจมั่น ฟันฝ่า ท้าลิขิต
ประกาศิต ของใคร ไหนเล่าเอ่ย
อยากจะนำ นาวา พาทรามเชย
คนที่เคย ผูกพัน ตามสัญญา
จงมั่นใจ ให้ฉัน นั้นถือท้าย
ดูเรื่องพาย เรื่องคัด คอยจัดหา
เป็นต้นหน คนหนุ่ม คุมเภตรา
จะนำฝ่า มรสุม ปกคุ้มภัย
แม้ว่าหนาว ร้าวใจ มอบไออุ่น
มานอนหนุน อกพี่ นั้นดีไหม
สองแขนอ้อม โอบร่าง มิห่างไกล
อยู่ใกล้ใกล้ พะนอ เคลียคลอนาง
แม้ฝนมา ฟ้าโกรธ พิโรธผ่า
เอาแขนอ้า สวมสอด กอดไม่ห่าง
พอพิรุณ เริ่มเพลา ฝนเบาบาง
ฟ้ากระจ่าง คืนนี้ ชี้ชมดาว
เก็บมะลิ ร้อยมาลัย ตั้งใจมั่น
จะร่วมกัน ลงนาวา ฝ่าคลื่นใหญ่
กุหลาบแดง อีกดอก บอกทรามวัย
จะมอบไว้ ให้แด่ แม่ย่านาง
เป็นต้นหน คนขับ จับหางเสือ
จัดใบเรือ เตรียมพร้อม มิยอมว่าง
ดูแนวช่อง ร่องน้ำ พร้อมนำทาง
กับมีเธอ มิห่าง อยู่ข้างกาย
นำนาวา ฝ่าลม ผสมคลื่น
ไปบนพื้น ชลาลัย ตามใจหมาย
ทะเลคราม ยามนี้ สีเพราพราย
เย็นด้วยสาย ลมฉ่ำ เมื่อค่ำคืน ( ต้องเป็น เมื่อค่ำลง )
ดาราพราว คราวจันทร์ นั้นลาลับ
แลระยับ ตื่นตา พาลุ่มหลง
ตะวันรุ่ง พรุ่งนี้ ที่มั่นคง
จะมุ่งตรง สานฝัน อย่างมั่นใจ
แต่เหงื่อตก อกสั่น สุดหวั่นหวาด
แล้วก็หยาด น้ำตา ก็บ่าไหล
เข่าก็อ่อน ตอนจ้อง เมื่อมองไป
เธอมีใคร ช่่วยงาน การเดินเรือ
หันหลังกลับ หลับตา เหมือนฟ้าแกล้ง
กุหลาบแดง ดูว่า ค่ามิเหลือ
เธอมีคน คอยหนุน ช่วยจุนเจือ
ถือหางเสือ แทนเรา เขาคือใคร
จากวันนั้น ถึงวันนี้ สิบปีผ่าน
ความร้าวราน อ้างว้าง มิจางหาย
มองความหลัง ครั้งเก่า เศร้ามิคลาย
มันดูคล้าย วันวาน ที่ผ่านมา
กุหลาบแดง เคยรับ กับคำรัก
มันแน่นหนัก สมหมาย ดั่งใฝ่หา
แม้จะน้อย ถ้อยคำ จำนรรจา
แต่คุณค่า จิตใจ สิ่งใดปาน
สุขด้วยรัก จริงแท้ แน่ครานั้น
มิเปลี่ยนผัน แม้เวลา จะพาผ่าน
ดอกไม้เก่า เราถนอม ออมอยู่นาน
แต่ด้วยกาล เวลา พาเฉาไป
กุหลาบแดง วันนี้ ไม่มีแล้ว
ยินเสียงแว่ว หลอนกมล จนหมองไหม้
หวนคิดถึง ความหลัง มาครั้งใด
น้ำตาไหล รินหยด รดสองปราง