13 มีนาคม 2546 17:33 น.
ข้าวปล้อง
สวัสดี...ความเอ๋ย..ความเหงา
ดูเหมือนว่า..ช่วงนี้เรา..จะพบเจอ..กันบ่อยครั้ง
เมื่อก่อนฉัน..รู้จักเธอ..จากคำพูด..ที่เพื่อน..เล่าให้ฟัง
ไม่เคยมี..เลยสักครั้ง..ที่จะพบ..เจอตัวจริง
และแล้ว...ในวันนี้
เธอก็เข้า..มาทายทัก..หัวใจ..ที่กำลัง..ถูกทอดทิ้ง
เธอเข้ามา..แนะนำตัว - - บอกนี่หล่ะ..คือตัวจริง
ไม่ใช่สิ่ง..ที่เกิดขึ้น..จากคำกล่าว..บอกเล่า..ของใคร ใคร
คงต้องบอก...ยินดี...ที่รู้จัก
เชิญนั่งพัก..ให้หายเหนื่อย..อย่าเพิ่งรีบไปไหน
อยู่เป็นเพื่อน..คุยสักเดี๋ยว..แล้วเธอ..ค่อยจากไป
ตอนนี้ฉัน..แค่รู้สึก..อยากมีใคร..สักคน..เคียงข้างกาย
ขอบคุณเธอ...มากนะ...ในวันนี้
สำหรับความ..เป็นเพื่อน..ที่เข้าใจ...ไม่ห่างหาย
ว่างเมื่อไร..อย่าลืมแวะ..มาเยี่ยมเยียน..มาทักทาย
ตอนนี้ฉัน..คงต้องบอก..ว่า บ๊าย บาย - - วันหน้าค่อยพบกัน
12 มีนาคม 2546 15:20 น.
ข้าวปล้อง
ภายในห้องสี่เหลี่ยม สีขาวหม่น
ฉันมองเห็นคนแปลกหน้า สวมชุดเขียว
แต่ละคนหน้าเคร่งเครียดแท้จริงเชียว
ดูปราดเปรียว เร่งรีบกันเสียจริง
นั่นผู้ชายคนหนึ่งยื่นมือมา
ผู้หญิงคว้ามีดด้ามเล็กกับอะไรอีกบางสิ่ง
เธอซับเหงื่อให้กับเขาเป็นระยะ น่าแปลกจริง
แต่ละคนทำหน้านิ่ง เหมือนกำลังกลุ้มใจสิ่งใดกัน
แหงนหน้ามอง เห็นดวงไฟสว่างจ้า
ตาเริ่มพร่า ความรู้สึกเหมือนล่องลอยในความฝัน
หน้าประตู คนมากมายเค้ามายืนจ้องมองอะไรกัน
แล้วดูนั่นแม่ของฉันก็กำลังร้องไห้กับเค้าไปอีกคน
แผ่วยินเสียงติ๊ด ติ๊ด 3 ครั้งติด
เส้นชีวิตของหัวใจเริ่มเข้าสู่ภาวะรวนเรนั้นอีกหน
ร่างสั่นไหว กายกระตุกด้วยไฟฟ้ากำลังวิ่งเข้าชน
ความสับสน หวาดกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจให้เยียบเย็น
แล้วความมืดก็เข้ามาเยี่ยมเยียนฉันอีกครั้ง
เหมือนว่ามันกำลังรอบางสิ่งในความเงียบที่ซ่อนเร้น
เพิ่งเข้าใจถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ในสิ่งที่ฉันเป็น
ก็ต่อเมื่อฉันมองเห็นใครคนหนึ่งเดินนำหน้าพาฉันไป
11 มีนาคม 2546 15:09 น.
ข้าวปล้อง
บอกกับใจ - - ตัวเองทุก ๆ ครั้ง
อย่าไปฟังในสิ่งที่หัวใจนั้นเรียกหา
เพราะสิ่งนั้นอาจทำให้บางคนเสียน้ำตา
และจะหาคุณค่าอะไรจากสิ่งนั้นไม่ได้เลย
บอกกับเธอ - - ว่าเราเป็นแค่เพื่อน
จงลืมเลือนเรื่องของเราทำเฉย เฉย
โปรดอย่าให้คนของเธอได้รู้สิ่งใดเลย
ทำเหมือนเรานั้นไม่เคยพบเจอรู้จักกัน
คิดเสียว่าเรื่องราวที่ผ่านมา
นั้นเป็นเพียงภาพลวงตา แค่ความฝัน
แค่บังเอิญเส้นชีวิตของเราบรรจบกัน
แค่เราสองมาพบกัน - - เพื่อเรียนรู้อีกบทนึงของชีวิตเท่านั้นเอง !
19 กันยายน 2545 15:25 น.
ข้าวปล้อง
ผ่านมาแล้วหลายล้านวินาที
กับวันที่ฉันไม่มีเธอเคียงข้าง
กับช่วงนึงของชีวิตที่เคยมีเธอร่วมทาง
วันนี้ฉันอยู่กับความอ้างว้างเพราะคิดถึงเธอ
หากคนเราสามารถย้อนเวลากลับไปได้
ฉันจะย้อนกลับไปแก้ความผิดพลาดที่ผลั้งเผลอ
ฉันจะใช้เวลาทั้งหมดเพื่ออยู่เป็นแรงใจข้าง ๆ เธอ
จะไม่เผลอปล่อยให้เธอเดียวดายเพียงลำพัง
แต่คนของเวลานั้นใจร้าย
ไม่เคยให้โอกาสฉันได้ทำในสิ่งที่คิดหวัง
หมุนเวลาเพียงเพื่อให้ผ่านพ้น โดยไม่เคยจะรับฟัง
ว่าคนแห่งความหลังจะเศร้าโศกเสียใจสักเพียงใด
หากว่าคนบนฟ้า จะเข้าใจจิตใจของฉันบ้าง
ขอได้โปรดช่วยนำทางดาวดวงน้อยที่พราวใส
ดาวดวงเด่นที่นำพาความรู้สึกว่ารักและห่วงใย
ฝากบอกข่าวถึงคนไกล ว่าฉันคิดถึงเขาเหลือเกิน
ถามด้วยว่า เขาสบายดีหรือเปล่า
อยู่บนนั้นเหงาและเศร้าบ้างไหมกับสิ่งที่เผชิญ
ฝากบอกเค้าว่าสองเราจะพบกันไม่นานเกิน
ฉันจะเดินไปหาเขา - - เมื่อเวลาที่คนบนฟ้าให้มานั้นหมดลง
16 กันยายน 2545 23:18 น.
ข้าวปล้อง
เธอถามว่าฉันมีความรักไหม
เธอนี่ไงคนที่อยู่ตรงหน้าฉัน
เธอคนนี้ที่เห็นหน้าทุกคืนวัน
คนสำคัญที่ฉันรักตลอดมา
เธอได้ยินคำตอบฉันรึเปล่า
เสียงเศร้าๆ ของใจคนเหว่ว้า
เสียงสั่นไหวที่ระรื้นด้วยน้ำตา
เสียงกระซิบที่บอกว่าฉันรักเธอ
เพียงแค่เธอใช้หัวใจฟังสักนิด
เธอจะยินเสียงความคิดใจคนเพ้อ
เธอจะรู้ถึงคำตอบที่มีนั่นคือเธอ
ที่สามารถพบเจอและสัมผัสด้วยหัวใจ
แต่เธอยังนิ่งเงียบรอฟังอยู่
ไม่ต้องบอกฉันก็รู้ว่าเธอยังสงสัย
เธอไม่เคยอ่านออกเลยถึงความนัย
ที่ส่งผ่านจากหัวใจบอกเธอด้วยสายตา
ยิ่งตอนนี้เห็นหน้าเธอยิ่งเจ็บปวด
เหมือนมีกรวดทิ่มแทงใจจนอ่อนล้า
ระบายยิ้ม เก็บความจริง ซ่อนน้ำตา
ฝืนตัวเองกลั้นใจตอบไปว่า - - ฉันรักใครไม่เป็น.