3 กรกฎาคม 2551 15:42 น.
ขุนศรี
ฝอยฝนหล่นจากฟากฟ้าพาสดใส
มวลแมกไม้ชุ่มฉ่ำกันพันธุ์พฤกษา
เริงระบำรำฟ้อนอ่อนกายา
พงพนาชื่นชมอารมณ์ปอง
ชูกิ่งก้านบานใบได้น้ำฝน
ทุกแห่งหนพึงพอใจไม่หม่นหมอง
ทั่วทิวป่าวนาลีสีน่ามอง
ใจจดจ้องเหม่อมองฝนหล่นโลมดิน
ใบล่ะอ่อนอรชรอ่อนนวยนาด
ดั่งนักวาดแต่งแต้มไว้ใจถวิล
สายลมฝนเอื่อยอ่ายส่ายรวยริน
ประกอบกลิ่นดอกเถาวัลย์นั้นลอยมา
ฝูงนกน้อยคอยหลบฝนทนสู้หนาว
เมื่อครั้งคราวลมฝนแรงแข็งใจหนา
จำทนทุกข์รุกเร้าเจ้าสกุณา
เวทนาปักษาน้อยคอยกังวน
ต้นไผ่ป่าเริงร่าร้องหวีดหวิว
ใบปลิดปลิวล่ะลิวปลิวสับสน
ท้องฟ้าปิดสนิทดำคล้ำเบื้องบน
นภดลมืดมัวสลัวกาฬ
เสียงฟ้าร้องก้องไกลไฟแสงสี
ปฐพีหวั่นไหวแผ่ไพศาล
พอฝนซ่า...ฟ้าอำไพใจสำราญ
ดั่งเหตุการณ์ความชั่วดีที่ใจคน
นายทองม้วน สิงห์ทองห้าว โรงเรียนบุแกรงวิทยาคม
ตำบลบุแกรง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ๓๒๑๘๐
1 กรกฎาคม 2551 16:24 น.
ขุนศรี
มองทุ่งนา...คราหน้าฝนหญ้าเอนไหว
ครั้งคราใดระเริงร่าน่าสุขสม
หมู่หญ้าแพรกฝนแรกพลิ้วตามลม
ใบแหลมคมลอยเหนือน้ำทำชูคอ
เจ้าปูนาพาเพื่อนเที่ยวเที่ยวสุขสันต์
เดินตามกันเคียงคู่น่าดูหนอ
ตัวสีม่วงควงคู่หอยลอยรั้งรอ
คลับคล้ายขอไถ่ถามตามท่าที
เจ้าหอยโข่งลงสำรวจอวดหอยขม
ออกจากตมทำอวดเก่งเบ่งศักดิ์ศรี
ลอยล่ะล่องท่องเที่ยวเกี้ยววารี
ระริกรี้กระดี่ปลาดูหน้าตา
เจ้าเขียดน้อยลอยน้ำฝนพ่นผุดโผล่
ทำเป็นโก้อวดปูหอยลอยมาหา
ตะเบ็งร้องกึกก้องทั่วทุ่งนา
ระเริงร่าวางท่าว่าอวดตน
แมงดานาขายาวก้าวกกไข่
ฝากเอาไว้บนใบหญ้าพาฉงน
กกกอดไข่อุ่นไอหายกังวน
ต้องทุกข์ทนเย็นเช้าเฝ้าห่วงใย
ยะยามเย็นกบเต้นร้องก้องทิศศา
เพลงทุ่งนาเริ่มบรรเลงเพลงอ่อนไหว
กล่อมทุ่งนาพาเพลิดเพลินจำเริญใจ
หิ่งห้อยไฟมีแสงสีความดีตน
นายทองม้วน สิงห์ทองห้าว โรงเรียนบุแกรงวิทยาคม
ตำบลบุแกรง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ๒๓๑๘๐