10 พฤษภาคม 2548 13:49 น.
ขาว-กรมท่า
ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันรักนั้นเป็นฉันใด
ทว่าไฉนไซร้ แลกชีพมากคณณา
พิราบขาวโบยบินโดยลำพัง จากประจิมเฉียงสู่บูรพา
หวังได้พบแสงสุขสว่างจ้า สู่ฟากฟ้าฤดูใบไม้ผลิ
กลับหวนรังหวังเจอคู่รักเก่า หวังเคียงเคล้ารื่นเริงร่วมหรรษา
บริวารน้อยใหญ่ก็ตามมา สุขอุราทว่าอาจแค่ฝัน
ตอนนี้เล่าต่อให้ฟ้าสลัว โลกมืดมัวไร้แสงทุกทุกวัน
หรือวิหคสหายบินข้างกัน เดี๋ยวเผลอพลั้นพวกเขาก็ลาไป
แม้นว่ายฟ้าท่องเที่ยวทัศนา จรภูผาแดนดินเมฆธารา
ฝ่าพายุมรสุมทั่วใต้หล้า ยังท้ากล้าบ้าบินคงอยู่ได้
หากจักรู้ต้องบินคู่เหงาตน จะทนในชาตินี้ซักแค่ไหน
โดยไร้ซึ่งคู่หมั้นที่ลาไป จะดำรงอยู่ได้อย่างไรเอย
30 มีนาคม 2548 13:27 น.
ขาว-กรมท่า
วันเกิดได้กินเค้ก อันตัวเลขเปลี่ยนตามปี
ญาติสหายร่วมยินดี ล้วนมีสุขในวันนั้น
ส่งพรทาวาที การ์ดก็มีพัลวัน
แถมมีมอบของขวัญ ต่างสนุกบ้างเฮฮา
ฉลองให้หรูเริด สุดเถิดเทิงมากหรรษา
ยินดีจนแทบบ้า หารู้ไม่มีคนเศร้า
หน้าเธออาจยิ้มแย้ม แต่แฝงแกมด้วยความเศร้า
หญิงนั้นให้คุณเจ้า รู้สึกบ้างจะได้ไหม
ก่อนคลอดรอเก้าเดือน ให้เราเยือนมีชีวา
เลี้ยงเราไร้โศกา โรคาทุกข์เธอช่วยปัด
ใครกันแบ่งน้ำนม และอุ้มชูด้วยแรงหัตถ์
คนนั้นไม่ใช่สัตว์ ป้อนสำรับและให้เงิน
บางคราเธอกล้าด่า เล่นเหมือนว่าให้เราเยิน
ทำไปแบบไม่เขิน เพราะเธอทำแฝงคุณค่า
ชักนำสู่ทางถูก แม้นต้องผูกเพื่อแก้วตา
อบรมแบ่งปัญญา ให้เราสู่แสงจ้าใหญ่
เธอดุจอรหันต์ เห็นทุกวันอย่าสงสัย
อยู่ใกล้ซึ่งไม่ไกล จงกราบไหว้แทนคุณท่าน
ตั้งแต่วันนี้ไป เธออาจไม่อยู่อีกนาน
เฉลยจึงตอบขาน คนนั้นเรียกว่า แม่ เอย
รีบทำเสียงบัดนี้ อย่ารอรีอย่าปล่อยเลย
เลี้ยงท่านอย่าเฉยเมย เหมือนท่านเคยทำให้มา
หล่อนเดินตามเวลา ให้สุขท่านแม้ชรา
กุศลจะตามมา ทำเต็มใจเสียเถิดเอย
20 มีนาคม 2548 09:50 น.
ขาว-กรมท่า
ยามก่อนนู้นผมมาพิงที่นี้ แต่ก่อนมีคราจากต้องจำใจ
แต่ช่วงนี้แสนว่างสุขฤทัย เรียนจนได้ช่วงว่างสบายจิต
อันครานี้ไม่จากไปอีกแล้ว เหมือนก่อตึกยัดอัดด้วยแรงอิฐ
หากเยือนมาจะคอยเฝ้าพินิจ ว่าตัวจิตอย่าลืมพิมพ์ลงกลอน
28 ธันวาคม 2547 12:21 น.
ขาว-กรมท่า
ฟ้าทั่วหล้าไฉนโหมบ้าบิ่น มารุกถิ่นไทยเราช่างโหดร้าย
หลากชีวิตต่างแดนก็พลอยตาย ไม่ขาดสายที่พบผู้ต้องภัย
ซูนามิมารร้ายคลื่นพิโรธ ช่างสุดโหดมล้างมากสิ่งได้
ทั้งยังซ้ำลดท้อปวงชนไทย สูญเสียไซร้คุณพุ่ม เจนเซ่นเอง
นักท่องเที่ยวอยากพักจึงได้มา แต่ทว่าหนักใจยิ่งกลัวเกรง
ทรัพยืเสียหายแสนล้างเท่านั้นเอง จากละเลงอาโปโคตรวิบัติ
ณพังงาภูเก็ตและกระบี่ ก็ยังมีระนองเกิดอาบัติ
ตรังสตูลและอื่นก็ยังซัด สูญเสียสัตว์ร่วมโลกคณณา
ถ้าเดาเนื่องมาจากเหตุเก่าก่อน ให้อาวรณ์จนเข้าหูเทวา
สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นา มันก่อท้ากบฏแดนดินแม่
เทพจึงสร้างคลื่นบุญในเขตขัณต์ จึงลงฑัณฑ์พวกเขาเป็นแน้แท้
แต่ทำไมคนอื่นต้องพลอยแย่ สายเกินแก้ไม่รู้ไม่ตั้งตัว
หรือเกิดจากผีร้ายอมนุษย์ ที่ก่อสุดชั่วช้าให้โลกกลัว
ให้ฟ้าบ้าก็เริ่มก็เริ่มให้สลัว กระทำชั่วทำไมไม่เกรงใจ
หากยึดหลักวิชาวิทยาศาสตร์ ผลจากร่างก่อเกิดแผ่นดินไหว
ให้โลกหล้าระทมประสบภัย ดวงฤทัยแต่ร้าวไม่รวมดี
ขอผู้ดับสุ่แดนสุขคติ ก็อย่ามิเวราต่อสิ่งนี้
จงเป็นสุขทั้งใจดวงชีวี ตัวข้านี้จะแผ่กุศลให้
อาลัยยิ่งต่อแดนทั่วใต้ฟ้า อาวรณ์หนาสลดหดหู่ใจ
ขออย่าเกิดซ้ำซ้อนตอนต่อไป ด้วยแรงใจศรัทธาขอส่งผล
3 ตุลาคม 2547 13:33 น.
ขาว-กรมท่า
ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักคือฉันใด
แล้วเนื่องไฉนไซร้ แลกชีพมากคณณา
พลัดพรากจากคนรัก ซึ่งจักเปรียบเทียบภูผา
เลือดนองพสุธา อันตัวข้าเจ้บกายใจ
ร่างเจ็บเพราะการรบ ทุกข์เศร้ากลบสถิตไว้
แม้นเจ็บสักเพียงใด ยอมพลิกฟ้าตามหาเจอ
ฝ่าหินดินป่าเขา ในยามเหงาได้เผลอเพ้อ
คราวนอนยังละเมอ ฝันว่าเธอมาเคียงกัน
นึกถึงคำวาจา ที่ก่อนลาสัญญามั่น
เมื่อฉันกลับมาทัน จากการหมั้นสู่วิวาห์
เธออยู่หนแห่งใด เมื่อกลับไปหายจากตา
กายเเธอสิ้นชีวา หรือทว่าเธอหนีไป
หากถูกอริจัก ฉันยอมรับนี้ไม่ได้
เธออยู่ใกล้ไกลไหน จะยอมไปตามถามหา
เสียโลหิตยามศึก ก็ยังคึกเพื่อหมายหน้า
แม้สุดหูสุดตา ขอให้จิตสื่อขวัญใจ
เมื่อได้เจอะเมื่อใด จะขอให้คำสัตย์ใหม่
จะรักเธอต่อไป จนโลกาสิ้นมลาย