29 สิงหาคม 2547 18:25 น.
ขลุ่ยหลิบ
พี่บุญน้อยพลอยช้ำระกำจิต
พรหมลิขิตช่างบันดาลช่างสร้างสรร
ให้ตัวเธอและพี่มาพบกัน
แต่เธอนั้นศักดิ์สูงเปรียบยูงทอง
สุดจะเอื้อมดอกฟ้าสุดคว้าไขว่
จำหักใจด้วยจนจึงทนหมอง
เหมือนกระต่ายหมายจันทรามาแนบครอง
เฝ้าแต่มองจันทราทุกราตรี
ลาก่อนหนาดอกฟ้าขอลาก่อน
อย่าอาวรณ์ให้เหงาเศร้าหมองศรี
อย่าอาลัยให้ระบมตรมชีวี
บุญพี่มีไม่พอจึงขอลา
26 สิงหาคม 2547 13:16 น.
ขลุ่ยหลิบ
เฝ้ามองดูหมู่ดาวที่พราวฟ้า
เหมือนดังหยาดชลนาดาราไหล
ฟ้าลืมเลือนห่วงจันทรากว่าหรือไร
เจ้าพราวใสแต่ไร้ความรื่นรมย์
หยาดชลหลั่งลงมาพาชื่นฉ่ำ
ในยามค่ำราวกับยื่นความขื่นขม
เจ้าช้ำจิตดุจอุราของข้าตรม
เขาชิดชมแล้วเหตุใดใยกลับเมิน
แสนสุขใจได้ชมน้ำโลมหล้า
หยาดน้ำฟ้าหลั่งมาเพียงผิวเผิน
ยินหรีดหริ่งเรไรพาให้เพลิน
เหมือนเขาเมินตัวเราเฝ้ารำพัน
โอ้อกเราเมื่อคราวจะต้องช้ำ
แสนระกำในดวงจิตคิดโศกศัลย์
เขาจากไปใจข้าเฝ้าจาบัลย์
โอ้ใครกันจะรับซับน้ำตา
26 สิงหาคม 2547 12:07 น.
ขลุ่ยหลิบ
เมื่อรักฉันไม่ได้ก็อย่ารัก
อย่าสมัครหมายมาดปรารถนา
จงลบรอยอาลัยในอุรา
จะนำพาเหตุใดไม่สมควร
จะรักฉันทำไมเมื่อไม่รัก
จะถามทักทำไมเมื่อไม่หวง
จะพบกันทำไมให้ช้ำทรวง
จะเหนี่ยวหน่วงฉันไว้ทำไมกัน
25 สิงหาคม 2547 12:24 น.
ขลุ่ยหลิบ
พับ..........ความทุกข์ซุกไว้ที่ใต้หมอน
เอา............ทุกข์ซ่อนบังไว้มิให้เห็น
ความ.........สุขทำขึ้นมาให้หน้าเป็น
ทุกข์...........ลำเค็ญเก็บไว้ก่อนแม้ตรอมใจ
ซุก.............ใบหน้าลงกับหมอนนอนสะอื้น
ไว้..............เมื่อตื่นฟื้นขึ้นมาอย่าร้องไห้
ใต้..............หมอนนั้นขังน้ำตายามอาลัย
หมอน.........อาจให้ความสุขคลายทุกข์เอย
22 สิงหาคม 2547 16:49 น.
ขลุ่ยหลิบ
ยามที่ต้องจากไกลใจอย่าท้อ
จงเฝ้ารอนับวันหวนทวนกลับหลัง
ที่จำจิตจากมาใช่ว่าชัง
ใจฉันยังมีเธอครองทุกห้องใจ
จะส่งความคิดถึงข้ามขอบฟ้า
ฝากสายลมพัดพามาอยู่ใกล้
จะส่งผ่านความหวงความห่วงใย
ฝากจันทราไปให้ทุกค่ำคืน
หากเธอเหงาจงมองดาวบนฟากฟ้า
รักฉันอยู่ในดาราที่ดาษดื่น
คอยเคียงคู่อยู่ข้างอย่างยั่งยืน
ขอทรามชื่นจงตระหนักประจักษ์ใจ