12 ตุลาคม 2550 17:12 น.

: + : อาจจะคิดถึง : + :

ขนมบนดอย

 
         ก็อาจจะเป็นครั้งหนึ่งของความทรงจำ   ที่ครั้งหนึ่งเราเคยรู้สึกดีดีกับเขา
เพียงเพราะความห่างเหิน  หรือเป็นเพราะความห่างไกลของเราเองกันแน่
สิ่งที่ผ่านมา  ภาพความทรงจำเก่าๆ อาจจะไม่มีทางที่จะลบเลือนเพียงเวลาไม่นาน
แต่ก็ไม่ใช่  จะไม่ลืมเธอเลย  ความพยายามที่เคยข่มใจตัวเองอยู่บ่อยๆ เมื่อเจอ
ความรู้สึกเดียวที่บอกได้  ก็คือ "เจ็บ " กับความเย็นชาเท่านั้นเอง

      ถึงแม้ว่า  ตัวฉันจะเพียงเสี้ยวหนึ่งของหัวใจที่เคยผ่านมาก็ตามที แต่เธอจะรู้
ไหม ว่าเสียงหัวใจที่มันเต้นมาตลอดระยะเวลา  มันห่วงหาเธอมากแค่ไหน...
กับใครต่อใครที่ผ่านเข้ามา   ไม่ใช่ว่าดีไม่พอ  หรือว่าไม่เข้าใจนะ...
แต่ในเมื่อมันไม่ใช่  ยังไงมันก็ไม่ใช่  เท่านั้นเอง...

      ในวันนี้  ฉันอาจจะยังคิดถึงคุณอยู่  แต่ขอสัญญาสักหนึ่งฉันจะยืนหยัดให้ได้
ทั้งๆที่ แรงขามันอาจจเหนื่อยหมดเรี่ยวแรงอยู่ไม่น้อยก็ตาม แต่หวังว่าสิ่งที่ฉัน
พยายาม  คำๆ นี้คงไม่ไกลเกินไป หากสักวันฉันจะแกร่งพอ....เท่านั้นเอง



.......................   "                    " ..................................................................
				
26 กันยายน 2550 17:18 น.

เพราะอะไร ?

ขนมบนดอย

..........คือเรื่องหนึ่งที่อยากจะเอ่ย ถาม ........แต่ก็ไม่กล้าทุกทีไป
เป็นเพราะเราที่ทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง อาจจะทำให้ใครบางคนเกิดความรู้สึกหนึ่ง
การที่เราดึง หรือรั้งใครเขาไว้ โดยที่ความรู้สึกนั้นไม่ได้อยู่กับเราเสมอไป...
คุณเคยรู้สึกเหมือนกันไหม ?.....กับคำถามข้างในใจ...."รัก"

           ห่วงใยในทุกถ้อยคำ  แฝงด้วยอะไรบางอย่าง ก็ (คงจะคิดถึง) รึป่าวนะ
ต้องขอโทษ หากว่าเป็นความรู้สึกของฝ่ายนี้เท่านั้นเอง...ก็คิดถึงน่ะ...
ไม่มีอะไรมาก....บางครั้งที่รู้ตัวเองว่าเกิดความเหงาเข้ามาแทรกซึมภายใน
ก็อยากจะมีใครสักคน เพียงแค่คนเดียวก็พอ  ที่คอยรับฟัง คอยอยู่ข้างๆ กัน
.....ให้ใจได้อุ่นขึ้นสักนิดหนึ่ง ก็เท่านั้น....

            แต่.....ความเป็นจริง มันไม่ใช่ ตอกย้ำกับถ้อยคำอยู่เสมอ ๆ ว่ามันไม่ใช่
ก็เข้าใจ  แล้วก็ต้องเข้าใจ...มีคำถามกับตัวเองอยู่บ่อยครั้ง...ว่าเพราะอะไร ?...
ทำไม ต้องเป็นเขา...? บางครั้งก็เบื่อตัวเอง เบื่อกับคำถาม สรุปแล้ว "น้อยใจ"
เป็นธรรมดาของคนมาทีหลัง...(อย่างตัวเรา)...

         เป็นเรื่องราวอีกวันหนึ่งที่จะข้ามผ่านขอบฟ้าของอาทิตย์อัศดง ค่อย ๆนะ...
แสงอันเรืองรอง กับม่านหมอกบางๆ ลมเย็นๆ พัดมากระทบผิวกายอีกครั้ง....
คิดถึง คุณ จัง จะรู้ไหม ?......

....



				
21 กันยายน 2550 08:15 น.

ใต้แสงอรุณ...

ขนมบนดอย

.
                ...ใต้ขอบฟ้ากว้าง  เรายังคงยืนอ้างว้างเพียงลำพัง....

.......แสงอาทิตย์เริ่มแผ่ขยายวงกว้างโผล่จากขอบขุนเขา น่านฟ้าของไทย
หมอกบางๆ ปกคลุมทั่วทุกทิศ ลมเย็นๆกระทบผิวกายในยามเช้า......
ถึงแม้ว่าวันนีนั้นจะไม่สายฝนพรำเหมือนเช่นวานนี้ก็ตามที แตทว่าสิ่งที่เป็นนั้น
คือความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากเมื่อวาน....เพราะตรงที่เรายืนแล้วมองออกไปนั้น
เป็นแสงสีทองเรืองรอง  ด้วยพลัง และไออุ่นจากแสงอรุณในยามเช้า

       ลมหนาวเริ่มมาแล้วซินะนี่  สังเกตุเห็นต้นไม้ใบหญ้าที่เติบโตตามกาลเวลา
สีเขียวนวลมองแล้วชวนให้สบายตา สบายใจเป็นที่สุด  โชคดีนะที่เราเกิดที่นี่...
ความสงบหายากยิ่ง  แต่ก็ไม่มีที่ไหนสุขเท่าบ้านเรา  ถิ่นที่รักษ์.....เรารักษ์....
ขอบคุณประเทศไทย ขอบคุณเมืองเชียงใหม่ ขอบคุณดินแดนบนยอดดอย

        เสียงเพลงเบาๆยังคงเล่นกล่อมจิตใจให้นิ่งได้ทุกวัน  นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่กับ
ผู้หญิงขี้เหงาคนนนี้มาโดยตลอด  สมุดไดอารี่ ปากกา และเสียงเพลง หากมีของ
สามสิ่งนี้ ให้ผู้หญิงคนนี้อยู่ ณ แห่งหนตำบลใด ก็สามารถอยู่ได้ทั้งนั้น จริงๆ....

      แล้วคุณล่ะ.....สิ่งใดที่อยู่ข้างๆกายคุณ 				
20 กันยายน 2550 08:31 น.

สายฝนพรำกับเช้าวันใหม่

ขนมบนดอย

กับเช้าวันใหม่....ถึงแม้ว่าท้องฟ้าอาจจะดูไม่สดใสสักเท่าไหร่
มีเมฆหมอกหนาปกคลุมอยู่ทั่วทั้งบริเวณ  มีสายฝนพรำๆ เสียงนกกระจิบเล่นร้อง
ลืมตาตื่นรับวันใหม่  ด้วยความรู้สึกเหงาๆ  ภายในห้องสี่เหลี่ยม ที่เดิม..เงียบ....
หลังจากนอนคิดถึงใครอยู่สักพัก ก็ได้เวลาที่ร่างกายพร้อมที่จะดำเนินชีวิตต่อไป

       เก็บผ้าห่มจัดที่นอนให้เข้าที่ตามแบบฉบับ  คลุมด้วยผ้าผืนเดิม ยาวห้าฟุต
มองดูตุ๊กกาหมีตัวใหญ่ที่ให้คอยซุกนอน  คอยให้ไออุ่นทุก ๆ คืน ยิ้มหวานหน่อย
เดินออกจาห้อง  เปิดซีดีเล่นเพลงบรรเลงที่จำติดความรู้สึก หากว่าใครที่ชอบฟัง
ในแนวเดียวกันคงจะพอนึกออก   เป็นเพลงของคุณบอยโกสิยพงษ์ ชุดสอง.....

        เปิดไฟดวงที่อยู่กลางห้องโถง  แล้วเดินไปหยิบเจ้าไดอารี่เล่มเดิมปกดำ
เขียนระบายถึงความรู้สึกที่ผ่านมา ด้วยเนื้อหาคงเดิม ดีกรีคงความเหงาไม่เปลี่ยน
อาจจะดูเรียบง่ายสบาย ๆ ไม่เน้นเรื่องราวทุกข์ร้อนอะไรมากมาย ก็เท่านั้น
ต่อจากนั้นก็เล่นโยคะต่ออีกประมาณ ยี่สิบกว่านาที ได้เหงื่อพอควรแล้ว

         พักหนึ่ง เปิดรินน้ำแอปเปิ้ลหนึ่งแก้วโต  พร้อมด้วยขนมปังอีกสองแผ่น
นั่งทาน  จากเปิดซีดีเพลงก็เปลี่ยนเป็นเปิดทีวี ดูข่าวต่างประเทศทางโมเดิล
กิจวัตรประจำวันเริ่มขยับเรื่อย  จากนั้นก็กวาดบ้าน ถูบ้าน รถน้ำต้นไม้ 
ให้อาหารปลาตัวน้อย  อาบน้ำแต่งตัว ไปทำงาน.......

แล้วชีวิตเช้าวันนี้ของคุณหล่ะ.....บอกเล่าถึงกันมั่งนะ.....

..				
19 กันยายน 2550 10:49 น.

เสียงตามสาย

ขนมบนดอย

ทุกครั้งที่รอคอยใครบางคนจะโทรเข้ามา  นั้นทำให้ใจเราสับสนวุ่นวาย
ทั้งๆที่สิ่งต่างๆรอบตัวเรานั้นมีเรื่องวุ่นวาย ต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึก
ที่เหงา  นั้น จางหายได้เลย .....แม้แต่กาพูดคุยของคนรอบข้าง  ทั้งๆที่ก็น่าจะชิน
กับการอยู่คนเดียวแบบนี้แล้วด้วยซ้ำ..แต่เพราะอะไรล่ะ...ความความคิดถึงรึป่าว

       เสียงโทรศัพท์ดังครั้งนี้  ก็ไม่ต่างกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา  ความรู้สึกแรกนั้นก็
คงจะเป็นดีใจ   ที่เป็นคุณ  แต่ว่าก็ปล่อยให้เสียงเพลงรอสายจากโทรศัพท์ดังขึ้น
นานจนมันหายไป  ทำไมรับ......ทำไมถึงไม่กล้าที่จะรับ...ถามตัวเราเอง
การสร้างกำแพง เพื่ออะไรบางอย่าง เพียงเท่านั้นหรือ ? ที่ทำไป

       เรื่องบางเรื่อง ใช้การตัดสินใจเพียงแค่ง่ายๆ  ในเรื่องที่คิดว่ายากตั้งมากมาย
แต่แล้วทำไม เรื่องที่คิดว่าง่ายที่สุด กลับทำให้ยากแก่การตัดสินใจเป็นที่สุด...
เกิดคำถามตามมากับความรู้สึก ลึกๆ...อยู่เสมอ....คิดถึงฉันไหมเวลาที่เหงา
หากว่ายังเหงา เพราะการคิดถึงกันอยู่เรื่อยไป อยู่แบบนี้...

 ฉันขอโทษ.....				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขนมบนดอย
Lovings  ขนมบนดอย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขนมบนดอย
Lovings  ขนมบนดอย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขนมบนดอย
Lovings  ขนมบนดอย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงขนมบนดอย