15 กุมภาพันธ์ 2551 16:09 น.
ก้าวที่...กล้า
ง่วงจัง
นั่งนั่งสัปหงกตกเก้าอี้
จะตื่นลืมตาแต่ละที
ช่างยากเย็นเหลือที่ ยายขี้เซา
ลุกขึ้น
อย่ามัวมึน งึมงำดูทำเข้า
โอนเอนโอนเอียงมาเกี่ยงเรา
ก็เจ้านั่นหละ เอ๊ะ! อะไร
เร็วสิ
ยังงุงิงุงิสติไขว้
พึมพำทุ่มเถียงจะเกี่ยงใคร
เร็วเร็วไวไว อย่าให้นาน
แบบนั้น
ตั้งมั่นจังหวะแรงประสาน
ลุกขึ้นนั่งให้ตรง แล้วจงวาน-
ทำงานที่ค้างให้อย่างเร็ว
4 กุมภาพันธ์ 2551 12:00 น.
ก้าวที่...กล้า
ฤๅสายฝันวันก่อนจะรอนแล้ว
ระหว่างแนวทางเดินที่เพลินจ้อง
ระหว่างเส้นทางขนานที่หันมอง
ระหว่างที่ใจต้องประคองใจ
เป็นเวลาย่างก้าวที่เท้าย่ำ
ฝากรอยจำซ้ำอยู่เกินรู้ได้
ฝากรอยเจ็บเหน็บหนาวจนร้าวใน
ฝากรอยไว้ให้ช้ำอยู่ค่ำเช้า
เมื่อมรรคาทอดวางไม่ว่างเว้น
ให้ต่างเห็นสีสันในวันเศร้า
ให้ต่างเห็นครอบคลุมสิ่งรุมเร้า
ให้ต่างเฝ้าค้นหาทุกนาที
จะต่างฤๅเส้นทางที่ขวางกั้น
เมื่อผูกพันยิ่งใหญ่เกินใครหนี
เมื่อผูกพันพึ่งพาเหมือนวารี
แม้นไหลรี่ขึ้นลง-อสงไขย
28 มกราคม 2551 11:50 น.
ก้าวที่...กล้า
ค่ำคืนที่นยแสงแสดงคุณอนันต์
สว่างโพยมประโลม ณ ขวัญ ......... ก็สรรค์งาม
แห่งสภาวะจิตลิขิตลุตาม
ผ่องภาพและทราบความ......... คะนึง
หากดวงจันทร์จะสะท้อนเพราะรอนรติ ฤ ถึง
ระหว่างไสวพิสัยจะดึง ......... และตรึงกาล
ช่วงพิลาสภิรมย์ผสมผสาน
เคลื่อนคลายสลายลาญ ......... ลุใจ
หากดวงดาวจะกะพริบละลิบระยะฤทัย
สะท้านอดุลละมุนละไม ......... ก็ไหวยาม-
อันธการสฤษดิ์ประชิดและลาม
หัวใจ ฤ ไขนาม ......... นิภา
ค่ำคืนที่บริบทสะกดลุวิญญาณ์
ผิว์จันทร์และดาวสกาวระดา ......... ณ ฟ้าไกล
ปาฏิหาริย์อุบัติวิวัฒน์พิไล
เผยช่วงเพราะดวงใจ ......... ผจง
21 มกราคม 2551 15:50 น.
ก้าวที่...กล้า
ถึงชีวิตจะสิ้น ........... สูญสลาย
ถึงแผ่นดินละลาย ..... ต่อหน้า
ถึงจันทร์จะดับสาย .... นวลส่อง สิ้นฤๅ
ใจจะยังเจิดจ้า .......... จบด้วยรักเธอ
ถึงโลกแตกสิบครั้งฤารั้งได้
รักจะคงชิดใกล้ทุกใฝ่หา
ไม่มีวันเสื่อมคลายในสายตา
เฉกเช่นฟ้ายืนยงอยู่ตรงนั้น
17 มกราคม 2551 09:41 น.
ก้าวที่...กล้า
แสงแดดแรงร้อน
ผืนดินแตกระแหง แห้งแล้ง อยู่ยาวนาน...'ฉันไม่รู้วันคืน ไม่รู้เวลา
ไม่รู้คุณค่าสิ่งใด ๆ'
วันนั้น...'ซึ่งก็จำไม่ได้หรอกว่าวันไหนและก็ไม่ได้คิดที่จะกลับไปค้นหา'
ฟ้าข้างบนร้องไห้...'น้ำตาฟ้า..ในความเห็นของฉัน'
โปรยปรายหยาดหยดลงมาเม็ดแล้วเม็ดเล่า...'ฉันไม่ได้สนใจอะไรนัก'
ค่อยค่อยซึมซับลงจับเม็ดดิน
วันหนึ่ง
ต้นไม้งอกเงย ผลิใบ ให้ดอก ออกผล...'ฉันมองเห็นความสวยงามของชีวิต'
แสงแดดดูอบอุ่น
ผืนดินดูชุ่มชื้น
ฉันจึงรวบรวมเรียกมันว่า..ความรู้สึก..
เมื่อไรกันที่ความรู้สึกนั้นผ่านเข้ามาและไม่เคยที่จะผ่านออกไป
ฉันจำมันไม่ได้
ฉันจำมันไม่ได้จริง ๆ
.. .. .. .. ..
วันนี้
ทุกครั้งที่นึกถึงน้ำตาฟ้าน้ำตาฉันก็รินไหลออกมา
ทำไม??
ฉันไม่รู้
ฉันไม่รู้จริง ๆ
.. .. .. .. ..
หรือเวลาเพาะบ่มความขมขื่น
ให้น้ำตารินรื่นความขื่นขม
และเวลาก็ยื่นความรื่นรมย์
ให้ชีวิตชื่นชมอย่างกลมกลืน