2 พฤศจิกายน 2546 14:14 น.
ก้อนหินละเมอ
....อันนามนี้ที่พบเห็นเป็นไฉน.............อยากจะถามถึงความไถ่ในที่เห็น
นามที่ตั้งได้จากใดในที่เป็น..................อยากจะเห็นถึงที่มาถ้าเป็นไป
เพราะเราเคยได้ประสบพบมาก่อน........ใช่ซุกซ่อนอย่างที่เห็นเป็นไฉน
จากหนังสือใช้อ่านเล่นเป็นของไทย........คือขายหัวเราะ นั่นไงที่ได้เจอ
...หมึกมรกต คือเรื่องราวครั้งเก่าก่อน..มีบังอรอยู่หนึ่งนางอ้างเสมอ
เป็นจิตรกรชื่อกระฉ่อนวอนพบเจอ.........ถึงคู่ครองของตัวเธอที่เพ้อไป
แต่ตัวนางมีหนึ่งบุตรสุดสวาท..................แต่ตัวดำแสนอุจาดหวาดใจหาย
มีฝีมือเชิงกีฬาท้าผู้ใด.............................ไร้ผู้เทียมเทียบใครใครไร้คนปาน
2 พฤศจิกายน 2546 00:23 น.
ก้อนหินละเมอ
... สกุณาบินเบิกฟ้านภาแจ้ง.........แสงส่องแรงแยงขึ้นฟ้านภาใส
ตะวันฉายจากขอบฟ้านภาไกล.....เริ่มวันใหม่ใจเบิกฟ้านภาครัน
สดใสนักหากมองไปในฟากฟ้า.....ใสสดนักปานนภาพาสุขสันต์
สดใสนักหากมองไปไร้ทุกข์พลัน...ใสสดนักนึกถึงวันมีฉันเธอ
2 พฤศจิกายน 2546 00:15 น.
ก้อนหินละเมอ
...ย้อนคิดถึงคืนและวันที่สันต์สุข...............แม้มีทุกข์ยังมีเธอละเมอฝัน
ถึงทุกข์มากหรือทุกข์น้อยคอยโรมรัน.........ยังมีเธอคอยปลอบขวัญทุกวันคืน
แต่วันนี้ไม่มีเธอฉันเพ้อพก.........................คิดวนวกถึงดวงใจไร้แรงฝืน
ความทุกข์มาพาใจเศร้าเรากล้ำกลืน............ไร้เธอยืนคอยปลอบใจให้คลายเอย
2 พฤศจิกายน 2546 00:06 น.
ก้อนหินละเมอ
... แม้ท้องฟ้านภาดำช้ำมืดมิด..............ก็ยังมีแสงน้อยนิดพาจิตผัน
แม้เมฆหมอกคลุมครอบฟ้านภาครัน....ยังมีวันเปิดฟ้าแจ้งแรงฤทธิ์ตา
คล้ายชีวิตจิตคนเราเคล้าสุขทุกข์..........แม้ล้มลุกยังมีวันผันขึ้นหนา
ถึงทุกข์โศกเสียใจเศร้าเคล้าน้ำตา.......ยังมีวันจิตเบิกฟ้าหน้าเบิกบาน
1 พฤศจิกายน 2546 21:25 น.
ก้อนหินละเมอ
...สกุณามาไร้คู่ดูแล้วเศร้า................. เหมือนตัวเราไร้สุดาพาใจหาย
แม้นรักน้องรักที่ใจใช่เพียงกาย........ แต่มิวายต้องพลัดพรากจากกันพลัน
อันความรักรักเพียงน้องปองเพียงจิต.. ไฉนคิดจะตีห่างจางความฝัน
อยากเห็นหน้าขวัญสุดามาทุกวัน......... แต่เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้นเอย