18 เมษายน 2547 08:21 น.

ผม เธอ เขา-คนในสเป็ซเน็ต

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

------------------------------------------------------------------

เว็บบทกวี :เขาใช้โปรแกรมกู่ก้องค้นหาว่ามีกระดานสำหรับเขียนบทกวี
ที่ใดบ้าง 
พบแล้ว มีเยอะมาก คนเขียนก็มีเยอะด้วย 
แต่ไม่มีนักเขียนที่เขารู้จักเลยในนั้น
นักเขียนใช้นามแปลกๆ เต็มไปหมด
 ชื่อแปลกบางชื่อชวนขนหัวลุก - เขานึกถึงผีหัวขาด ชื่อแปลกบางชื่อสะเทือนต่อมอาย  เขานึกถึงผู้หญิงแก้ผ้า 
ชื่อแปลกบางชื่อลงผลงานเป็นแถบ เหมือนจะเหมาเอาคนเดียว-เช่น ก.พ. ,บรรลุพร เป็นต้น 
เขาเห็นแล้วก็คิดไปต่างๆนานา แต่เขาก็ไม่บอกความคิดของเขาแก่ใคร

เขา
หมายถึงผมเอง



ไล่เรียงไปเผินๆ

จะสะดุดดีไหม

สะดุด
บทชื่อ

---------------------------------
คุณฉันไม่คิดถึงคุณ
โดย Y
---------------------------------

(เธอว่า)

ฉันไม่คิดถึงคุณหรอก

ฉันไม่รู้จักคุณ

ฉันรู้จักตัวเองเท่านั้น

คุณก็เหมือนคนอื่น

ใช้ชีวิตไร้ค่า

(อ้าว เริ่มต้นก็ว่าผมเสียแล้ว)

กิน นอน สืบพันธุ์ สะสม

แล้วก็ตายไป

(แล้วเป็นไรล่ะ)

คุณรู้ไหม

คุณใช้ทรัพยากรของโลก

ตอบสนองตัวเองเกินจำเป็น

คุณแย่งคนอื่นเขากินเกินขอบเขต

คนอื่นแทบไม่มีกิน

เพราะคุณโกยเอามาเกือบหมด

(เอ๊า !! ก็ผมมีสิทธิ์)

คุณมีสิทธิ์อะไร

(เออ! เดาทางผมได้อีก)

เพราะคุณเกิดมาในตระกูลสะสม
เพราะคุณเกิดมาในสกุลศักดิ์สิทธิ์
เพราะคุณเกิดมาเป็นชนชั้นนำ
เพราะคุณเกิดมาบนกองทรัพย์ของผู้เกิดก่อน

ใช่ไหม

(เปล่า!)

ฉันจะบอกให
้
(เออก็บอกมา)

คนอื่นเขาก็มีสิทธิ์

แม้เขาจะไม่อยู่ในตระกูลสะสม ศักดิ์สิทธิ์ ชั้นนำ หรือมีทรัพย์กองอยู่ล้นเหลือ
เขามีสิทธิ์ที่จะอยู่บนโลกอย่างเป็นสุข
แต่เมื่อคุณกอบและโกยทุกสิ่งทุกอย่างไปกองไว้กับหน้าตัก

คนอื่นก็อด

คุณไม่ยินดียินร้าย(อุเบกขาใช่ไหม)ต่อคนผู้กำลังดิ้นตายเพราะไส้ขาด
และเลือดออกในท้อง
เพราะอด

คุณเฉยเฉื่อย(เรียกมหึอุเบกขะได้ไหม)
ต่อธรรมชาติที่กำลังวิบัติเพราะพิษของเสีย
ที่คุณสร้างจากโรงงานของคุณ

คุณเฉยชาและเลือดเย็น(เรียกมหัศจอุเบกขะได้ไหม)ต่อคุณธรรมจริยธรรม
ที่กำลังผุกร่อนอย่างถึงที่สุด -พ่อฆ่าลูก -แม่ฆ่าลูก -คนในครอบครัวผสมพันธุ์กัน ค้าขายประเวณี เป็นล่ำเป็นสัน-สื่อขายค้าข่าวในเรื่องเหล่านั้น ฯลฯ

คุณเฉย

และยังเฉย

ฉันจึงไม่คิดถึงคุณ

ไม่ชอบด้วย

คุณไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น

-------------------------------------------

คุณ Y จบงานของเธอลงห้วน ๆ แบบนั้น

ผมลองคลิกเข้าไปโพสต์ความเห็น

ว่า

--------------------------------------------

(ผมก็ไม่คิดถึงคุณ)
(คุณคับแคบ)
(มองโลกด้านเดียว)
(คนทำดีมีอีกมาก)
(ทำไมคุณไม่พูดถึงบ้าง)
(และที่คุณโพ่ง ๆ พ่น ๆๆ น่ะ
คุณได้ทำอะไรแค่ไหน..)



ได้ความ
ไม่ทันถึงวินาทีดี เธอก็ตอบกระทู้



ให้คุณเดาเอาเองครับ
ว่าคำตอบของเธอจะออกมาแบบไหน

จะกระชากต่อมโกรธ
หรือจะสะเทือนต่อมเสียว
ฯลฯ

โลกออนไลน์น่ะครับ


เธอว่า

ฉันก็พูดไปอย่างนั้น ฉันไม่ได้คิดตามที่ฉันพูด



เฮ้อ.นึกว่าจะมีเพื่อนร่วมฝันซักคน ซะแล้ว				
17 เมษายน 2547 13:17 น.

บันทึกหน้าสุดท้ายของสมประสงค์ สกุลพระอินทร์

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

ความคิดความจำนี่เป็นกำลังของสมอง ใช่ไหม

และสมองนี่ก็มาจากพันธุกรรมกับอาหาร ถูกไหม

สมองที่ไม่มีโอกาสโตเต็มที่ เนื่องจากความขาด
ทั้งอาหาร โอกาสในการเรียนรู้ และโรคภัยไข้เจ็บ ของสมประสงค์ สกุลพระอินทร์ ถ้ามันฝ่อลงไปเรื่อย ๆ จากวิถีชีวิตของคนรอบข้างที่บีบให้เขาอยู่อย่างมีขอบเขตจำกัด-แคบ คับ แม้หายใจก็ทำได้อย่างอึดอัด ขับถ่ายมูลหรือก็เป็นอย่างขัดข้อง ควบคุม

สมประสงค์ สกุลพระอินทร์ ควรตัดพ้อโลกหรือสงสารโลก
เมื่อความโง่ของเขาทำให้เขาไม่ต้องตอบคำถามบางคำถาม

ที่ตอบยากยิ่งกว่าถามว่า
สังคมมนุษย์จะดีขึ้นกว่านี้ได้แค่ไหน

จบบันทึกครับ
16 เมษายน 2547				
16 เมษายน 2547 07:10 น.

บันทึกของสมประสงค์ สกุลพระอินทร์

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

ผมยังจำได้

พ่อเล่าว่า

          ก่อนผมเกิดเขาแห่ต้นศรีมหาโพธิ์จากลังกาจะผ่านหน้าหมู่บ้านไป ขบวนแห่ฯหยุดรถหน้าบ้านของยาย   พ่อกับแม่จึงยกน้ำเย็นไปถวายพระสงฆ์ ทั้งร่วมอนุโมทนาและอธิษฐานจิตขอให้มีลูกชายมาเกิดด้วย
พ่อกับแม่สมหวังในไม่นานนักหลังจากที่ขอลูกจากต้นไม้ต้นนั้น
ถ้าเป็นตามที่พ่อว่าและแม่ฝันก็เป็นอันว่า  ผมคือเปรตบนต้นศรีมหาโพธิ์ ที่อ้อนวอนขอมาอยู่กับแม่นั่นเอง


           เมื่อผมเกิดผมได้ชื่อว่า   สมประสงค์  ก็คงซ่อนนัยว่าสิ่งที่พ่อกับแม่ปรารถนา เป็นความจริงขึ้นมาแล้ว
ผมลืมถามพ่อกับแม่ ว่า  อธิษฐานขอให้ลูกฉลาดด้วยไหม   หรือขอให้ได้ลูกเฉย ๆ  ก็พอ
 

         ลูกของพ่อมี 4 คน  ทุกคนมีสติปัญญาดี  ยกเว้นผมคนเดียว
ก็จะไม่ให้ผมคิดว่าตัวเองโง่ได้อย่างไร   เมื่อผมได้ยินคำเรียก
อ้ายควาย ๆ    แทนชื่อจริงของผม  อยู่เสมอ ๆ   จากทั้งครู   เพื่อน   ครูใหญ่  และคนอื่น ๆ ที่มารู้จักผม  หรือผมไปรู้จักเขา
	
           ผมไม่เคยคิดอะไรได้ลึกซึ้ง   หรือซับซ้อน     ทุกครั้งที่ผมพยายามคิดแบบนั้น
จะมีอาการมึนหัวไปทั่วกะโหลก    ยิ่งเวลาที่ผมคิดแล้วคิดไม่ตกมันจะมีดาวดวงเล็ก ๆ เป็นร้อยเป็นพัน   วิ่งไปรอบ ๆ หัวจนผมตาลายจะเป็นลม

	ผมมีอาการความจำเสื่อมตั้งแต่อยู่ ป.1 แล้ว   ลืมโน่นลืมนี่อยู่เป็นประจำ ดินสอ  ไม้บรรทัด  ยางลบเอย  หายเป็นประจำ  จนแม่ต้องเอาเชือกฟางล่ามดินสอ  ยางลบไม้บรรทัดไว้กับที่รูดซิบกระเป๋า

	แต่นั่นแหละความจำบางส่วนก็ยังไม่ลบไปจากหัวของผม  เช่น หน้าตาของเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นลูกของครูใหญ่   กิริยาของเธอได้แม่นยำอยู่ในหัวของผม    จากกันไป 20-30  ปี  ผมก็ยังคิดว่าน่าจะจำได้  ใช่แล้วครับ  ตอนอยู่ ป.1  ผมหลงรักเธอนั่นเอง

	ความรักของผมที่มีต่อเธอตอนนั้น  ก็ ตอนป.1 นั่นแหละ คืออยากเห็นหน้า   พอเห็นเธอแล้วหัวใจก็เต้นตุบๆ แรงๆ  ตื่นเต้นมากๆ   ความเป็นสุข คล้ายเจ็บๆปวดๆ    
ยังไม่จบป.1ดีเธอก็ย้ายตามพ่อของเธอไปอยู่ถิ่นอื่น       ผมก็แปลกใจตรง กับเพื่อนคนอื่น ๆ กลับไม่มีอะไรให้ผมจำได้เลย 

	 อีกอันหนึ่งที่จำได้คือประสบการณ์ที่ครูหวดด้วยไม้เรียว 2 ที  จากความผิดฐานแกล้งเพื่อน
	
	คุณครับนอกนั้นนี่ผมเรียกมันว่าเป็นความลืมทั้งหมดเพราะจำไม่ได้
	
         อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่า    บางสิ่งบางอย่างไม่ใช่ความจำความลืม
         เป็นสำนึก   ที่ติดอยู่ในหัว
         แยกแยะอะไรดีชั่วได้
         อันนี้ผมคิดว่าผมมีค่อนข้างมาก
         แม้ความฉลาดจะมีและเหลืออยู่น้อยนักแล้วก็ตาม

        16  เมษายน 2547				
15 เมษายน 2547 21:21 น.

เมื่ออดีตไล่ต้อนผม-ฉากจบ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

คุณจะกลับ ( ท่าทางรีบหลีกมวยด้วย)

	ขอบคุณมากครับที่แวะมา  ตอนนี้ผมต้องละความสนใจจากแผนโฆษณาของคุณไว้ก่อน   เดี๋ยวผมนัดหมายคุณเอง อีกที    เชิญครับ ระวังไอ้ช้างนั้นด้วย

คนตัวใหญ่สวนเข้ามาในทันที  ที่คนลูกค้าของผมถึงประตู  ที่ผลักเข้าออกได้ทั้งสองบาน

อดีต :  ไง   อ้ายซีอีโอใหญ่    ไม่เจอกันนาน   มะรึงจำกะรูได้
ไหม
	
	คนพูดตรงมาท่าทางจะจับมือแต่เปลี่ยนเป้าเป็นคอเสื้อของคนฟังแต่ช้าไปนิด  ผมหลอกไอ้ช้างว่านุชอยู่ข้างหลัง  มันชะงักและหันไป ผมได้ทีถีบเก้าอี้ติดล้อไปกันมันไว้พอดีกับจังหวะมันหันมาจึงได้จับพนักเก้าอี้นั่งลงแก้เก้อ

ผม : ใจเย็นครับ   คุณย้อนวัน   ผมจำได้ทุกอย่าง   ไม่ลืม  และ
ไม่คิดลืมด้วย

อดีต : แล้วมะรึง   หนีกะรูทำมาย   
	มึงเอาแฟนกูมาแล้ว  ยังจะทำลายบริษัทของกะรูอีกด้วยหรือ
	ไอ้ช้างทุบโต๊ะไม่แรงนัก   คงกลัวเจ็บมือ  โต๊ะไม้มะค่าของรองซีอีโอ ดูขรึมขลังขึ้นมาเป็นกอง   ข่มคนโตนั้นได้ทีเดียว   ถ้าเป็นสำนักงานที่ผมเคยทำงานกับเขา  ป่านนี้โต๊ะบุบเป็นรอยมือไปแล้ว  ตาของเขายังจ้องเขม็ง  แข็งกร้าว ราวจะกินเลือดผม

ผม :  เดี๋ยวก่อน ๆ  ผมทำลายบริษัทของคุณยังไง

อดีต :  มะรึงอย่าแกล้งเซ่อ   ไอ้คุณซีอีโอใหญ่   มะรึงรู้ดีว่าใคร
กว้านซื้อพันธุ์ข้าวของชาวบ้านไปจนหมด  แล้วเอาข้าวแต่งพันธุกรรมไปให้เขาปลูกแทน   แบบนี้บริษัทเล็กๆของกะรูจะไม่เจ๊งได้ยังไง

คนพูดกลืนน้ำลายเอื้อก   ผมยื่นแก้วน้ำทางซ้ายมือไปให้  คนโตไม่ยอมกิน

ไอ้หอยเอ๋ย  มะรึงก็พอรู้  ว่าบริษัทที่ทำข้าวปลอดสารพิษมีกี่บริษัท   กะรูไปขอให้ชาวบ้านปลูกข้าวไม่ใช้ปุ๋ย เขาไม่เอาด้วยซักคน  มะรึงแหละทำ  ตัดหน้ากะรู  ข้าวมะรึงเล่นขายได้แพงอย่างนั้น
มึงอย่าแกล้งโง่   ไอ้วิวรรธน์

ผม :   พูดกันได้   พูดกันได้   

ผมทำใจให้เย็นที่สุด และว่า
	เอ้างี้ไหม    คุณย้อนวัน   มหมิตร  เอาข้าวของผมไปส่งเสริมให้เขาปลูก แบบปลอดสารพิษนั่นแหละ   แล้วผมจะรับต่อจากคุณอีกที  คอมมิชชั่นเท่าไร  ไม่เกี่ยง   เพียงคุณว่ามา

อดีต :  มะรึงหยามกูนี่   ไอ้วิวรรธน์  
	กะรูอยากฆ่ามะรึงให้ตาย   
	ไหน   เมียมะรึงอยู่ไหน
	กะรูจะฆ่ามะรึงให้เธอดู

คนพูดลุกไวจะจับคอเสื้อผมอีก  ช้ากว่าผม  ในลูกไม้เดิม  ผมรู้ว่า  ย้อนวันคิดถึงใครอยู่จริง ๆ  เมื่อผมบอกว่านุชมา เขาก็หันไปอีก   ผมหลบโต๊ะใหญ่ออกทางซ้าย พ้นประตูออกไปเพียงเสี้ยวก้อยก่อนหน้าไอ้ช้างนิดเดียว   ซิกแนลที่ผมบอก รปภ.หน้าเหลี่ยม ( ก็ตระกูลเดียวกับผมนั่นแหละ)ได้ผลทันที  พวกนั้นกรูกันเข้ามาล้อม ชายร่างยักษ์ไว้   เมื่อเห็นว่าปลอดภัยผมก็ย้อนมาหาเขา

ผม : คุณย้อนวันครับ   เมียของผม   หรือคุณนุชของคุณนั่น
แหละ ท้องได้ 8 เดือนแล้ว  ผมพรากเธอมาจากคุณเมื่อ 
5 ปีก่อน  ผมเพิ่งมาสมหวังเอาเมื่อผมเปลี่ยนชื่อเป็น
คุณปีนี้เอง   ที่ผ่านมาเธอบ่นหาแต่คุณ  และไม่ยอมมีลูกให้ผมเลย
	ยกโทษให้ผมได้ไหมครับ  คุณย้อนวัน   ผมยอมไหว้คุณล่ะ   ผมรักนีรนุชจริงๆ  เธอรักคุณมาก   
	จะให้ผมทำอะไรก็ยอม    มาทำบริษัทด้วยกันก็ได้
	สิ่งที่ผมเคยคิด  ว่าจะไม่ยอมใช้หนี้คุณ   ผมเปลี่ยนความคิดแล้ว  ตั้งแต่นุชท้อง   ผมยินดีจะจ่ายคืนเงินต้นพร้อมดอกทุกบาททุกสตางค์  
	ขออย่างเดียว  อย่าพรากนุชไปจากผม
	อย่าพรากผมไปจากเธอเลย
	ผมรักเธอ  ผมรักนุช

นีรนุชยืนอยู่ที่ประตูห้องรองซีอีโอแต่เมื่อไรผมก็ไม่ทันสังเกต

	น้ำตาของคนโตซึมเปื้อนลงมาที่แก้ม แล้วก็เลือนหาย
	เขามีท่าทีอ่อนลงมาก เมื่อหันไปเห็นผู้หญิงท้องแก่ ที่ชื่อนีรชนุช ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

ผม:   ผมหนีอดีตไม่พ้นแล้วครับคุณย้อนวัน
	ต้อนผมให้จนมุมเถิด  
ผมยอม
	เว้นแต่นีรนุชกับลูกเท่านั้น   ผมขอ

------------------------------------------------------				
15 เมษายน 2547 16:48 น.

เมื่ออดีตไล่ต้อนผม

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

อดีตไล่ต้อนผม ตอนที่ 2


       ทีมงานศึกษายีนของข้าวในไหบ้านเชียงเดินทางกลับมาในวันที่ห้าของการวิจัยภาคสนามพร้อมกับตัวอย่างเมล็ดข้าวจำนวน 2 3 เมล็ดเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ แตกไลน์ไปจากสินค้าที่ลงตลาดครั้งแรก คุณยังคงจำได้ใช่ไหมครับว่าสินค้าตัวแรกเราเน้นไปที่กลุ่มคนวัยทำงานและคนชั้นสูงผู้ไม่ต้องการมีใบหน้าเหี่ยวย่นก่อนวัย กลุ่มนี้มีกำลังซื้อที่แน่นอน แต่มันก็ดันไปบูมในกลุ่มวัยรุ่นที่ยังต้องขอเงินพ่อแม่ ไม่มีอะไรผิดปกติหรอกครับมันตรงกับผลการวิจัยตลาดที่ระบุว่ากลุ่มคนที่ตกอยู่ในอิทธิพลการโฆษณามากที่สุดคือเด็กและคนวัยเรียน นี่ถ้าพวกเด็ก ๆ มีปัญหาเรื่องหน้าย่น บริษัทของผมรับรองรวยอื้อแน่ 
( อย่าพิมพ์เป็นรวยเละ เชียวนะครับ ) 

            ในที่ประชุมผู้บริหารแผนก เราจะออกสินค้าตัวใหม่ไม่เกินปักษ์นี้ 

            ผมไม่ปิดคุณหรอกครับ เพราะการบอกคุณก็เท่ากับการโฆษณาอีกแบบหนึ่ง คุณรู้แล้วคุณต้องพูดอยู่ดี ไม่กับตัวเองก็คนข้าง ๆ คุณ นั่นแหละ 

             สินค้าตัวนี้จะตอบสนองคนเกือบทุกคนที่มีปัญหาความจำเสื่อม ใช่แล้วครับ อัลไซเมอร์นั่นแหละ เวลานี้ เซลล์สมองของคนเราถูกทำลายลงทุกนาที จากอาหารที่เรากินเข้าไป จากเครื่องดื่มที่เราดื่ม จากรูปแบบการใช้ชีวิตในบางรูปแบบ 
    จริงอยู่เทคโนโลยีผ่าตัดก้าวหน้าไปไกลมากจนคุณสามารถเปลี่ยนเซลล์สมองของคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรมาให้คุณได้ แต่นั่นก็จะทำให้คุณได้รับยีนที่ไม่เข้าท่าบางอย่างติดมาด้วย 

          ผมไม่แนะนำให้คุณผ่าตัดเปลี่ยนเซลล์สมองหรอกครับ แม้ว่าใครจะยืนยันว่าเซลล์พวกนั้นเป็นของนักคิดเลื่องชื่อของสหัสวรรษคนใดก็ตาม ก็อย่างที่บอก มันกันยีนแย่ ๆ บางตัวออกไปไม่ได้ 

ผมขอแนะนำ BC-II ครับ

BC-II อ่าน บีซี  ทู ครับ

คุณถาม

อย่าเพิ่งถามราคาซีครับ

เราขอค่าความรู้นิดหน่อยเองแหละ ที่เราต้องการจริง ๆ เป็นอุดมคตินะครับ
คือต้องการให้คนมีความจำดีเยี่ยม อย่างนักการเมืองนี่จะไม่ลืมเลยว่าตัวเองพูดอย่างไรกับประชนชน

คุณถามอีก

อ๋อ ปัญหาแค่นั้นเองหรือครับ แบบที่เพลงว่า อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ
เราแก้ได้หมดครับ ส่วนไหนที่อยากลืมก็ทำได้ หรืออยากจำส่วนไหนก็ทำได้ BC-II - 9 ครับ

คุณว่า

ไม่เว่อร์หรอก ไม่เชื่อลองดูซิครับ ตัวนี้ไม่ขายให้นักการเมืองหรอก มันไม่เกี่ยวกับเงินไง มันเป็นอุดมคติ - บอกคุณแล้ว

คุณย้อน

จริงของคุณ ผมพูดถึง BC  I ( อ่านบีซี-วัน ) น้อยไปนิด
เอาย่อ ๆ ก็แล้วกันนะครับ เพราะยังไงก็ติดตลาดไปแล้ว

ตัวนี้ช่วยไม่ให้ผิวหน้า แขนขา หน้าท้องย่น เพียงแต่กินข้าวเหนียวไก่ย่าง ไก่ย่างของห้าดาวก็ได้ ของคนอื่น ๆ ก็ได้ แต่ข้าวเหนียวต้องเป็นของเราเท่านั้นนะครับ

คุณแย้ง

แหม คุณอย่าห่วงเรื่องแพ็คเก็จจิ้งไปเลยครับ ลืมรูปแบบกระติบข้าวในโอทอป อินเตอร์เนชั่นแนลไปได้เลย เราทิ้งรูปแบบแบบนั้นไปไกลแล้ว คุณยังว่าเชยอีกเหรอ งั้นรอดู 48 ชั่วโมงต่อไปซิครับ มันจะออกมาแบบไหน แต่ของเก่าของเราก็ขายได้เลขไหลไม่หยุดหรอกคุณ


คุณหันไปทางคนที่เดินตรงรี่เข้ามา

               อ้าว      คนที่เดินตรงมาทางผม    ผมเคยรู้จักเขานี่
ใช่แล้ว  อ้ายหมอนี่คือ    ย้อนวัน  มหมิตร (อดีต) ที่เคยเถียงกันเอาเป็นเอาตายเรื่อง
พันธุ์ข้าว และจีเอ็มโอส์   ตอนทำงานในองค์กรพัฒนาเอกชนด้วยกันนั่นเอง

คุณขยับหลบ ๆ มันนิดหนึ่งครับ   มันตัวใหญ่ แถมทรงตัวไม่ค่อยดี

(รออ่านต่อตอนสุดท้ายครับ)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์