21 พฤษภาคม 2548 20:31 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
ดวงดาวของผม
อย่าเพิ่งรีบลับขอบฟ้าไปซีครับ
รู้ไหม
ช่วงตะวันลับลา
กับก่อนที่จันทราจะเยือน
ผมมองหาคุณ
ดวงดาวที่กระพริบวิบไหวอยู่เหนือเรือนยอดของไม้ ตรงขอบฟ้าทิศใต้
คุณเหมือนบางคน
ที่แม้ไม่เจิดจ้าดังตะวัน
หรือไม่แจ่มนวลต้องใจผู้คนอย่างจันทร์
คุณก็กระพริบวิบวาวบอกข่าวการเดินทางว่า สิ่งใดก็ไม่ควรหยุดนิ่ง
ผมชอบแสงและทางเดินของคุณ
ดวงดาวของผม
13 พฤษภาคม 2548 22:12 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
เสียงตึงตึง เปรี๊ยะแตก ฟังแปลกใจ
อยู่บนเขา ห่างออกไป มากไม่น้อย
ภูทะมึน เร้นความลับ ยากนับรอย
คนแอบสอย พรหมจรรย์ ป่าอันงาม
เลื่อยยนต์ เลื่อยวงเดือน เหมือนของป่า
แต่กินดง ตรงบังตา จนน่าขาม
จากหนึ่งมุม คุมไม่ได้ ก็ใหญ่ลาม
ป่าเคยงาม ก็โล่งเตียน ดูเปลี่ยนไป
เมื่อฝนตก หกสิบห่า น้ำบ่าซัด
ทะเลซุง พุ่งรอบจัด ซัดตูมใหญ่
ทะลุบ้าน สะท้านเรือน สะเทือนใจ
สายน้ำไหล แดงดัง เลือดคลั่งคลัก
สิบหน พันหน หรือเจ็ดหน
ยังเวียนวน เกิดซ้ำ เหมือนจำหลัก
คำสาบแห่งพงป่าแข็งกล้านัก
คนไม่รัก ป่าพง จงเจอดี .
ตูม
11 พฤษภาคม 2548 01:33 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. เรื่องเล่าเช้านี้
1. ตลาดสดเคลื่อนที่บนสี่ล้อ
เปิดเพลงคลอมาแต่เช้าเข้าหมู่บ้าน
เยือนยามเช้าราวหน้าที่บริการ
สับหมูแบ่งขายปานปันไมตรี
2. ซื้อห้าบาทสิบบาทอาจพออิ่ม
พวกพังผืดหมูต้มจิ้มแจ่วได้นี่
กินกับผักเก็บจากนาประสามี
ต่อชีวียายป้าประสาจน
3. กระเตงลูกกระเตงหลานมาออกัน
เลือกซื้อหมูสามชั้นมันเปลวข้น
พริกกระเทียมเจียมจ่ายอายก็ทน
หลานกับเหลนหลายคนยังรอคอย
4. บ่ได้กินหมากเงาะส้มมังคุด
น้ำลายสอก็ก้มงุดอย่างงั่งง่อย
มีหมากม่วงเปรี้ยวระเบิดก็เลิศลอย
กินกับข้าวเถิดเจ้ากลอยอย่าเกี่ยงงอน
5. เน้นให้อิ่มด้วยคำข้าวนะเจ้าเจียก
พึงสำเนียกในถ้อยคำยายพร่ำสอน
มีกินกันนั่นก็บุญอันสุนทร
กินแล้วนอนหลับตาอย่าเอ่ยกวน
6. พ่อกับแม่แกไปอยู่ในกรุง
ขายแรงงานหามรุ่งหามค่ำถ้วน
บ่พอกินดิ้นรนจนเซซวน
นี่ก็จวนเจียนพ่ายการขายแรง
7. หมูเนื้อเศษแกมเมือกกับมันเปลว
อาจเป็นเนื้อชั้นเลวของบางแหล่ง
กับคนจนแล้วถือว่าราคาแพง
ยามบ่มีใบแดงทุกข์แทงใจ
8. ตลาดสดเคลื่อนที่ห่างไปแล้ว
เสียงหมอลำแจ้วแจ้วจ่ายคำใส
พังผืดหมูต่อชีวันอยู่กันไป
คุณภาพชีวิตใหม่ยังไม่มา
9.-
8 พฤษภาคม 2548 17:23 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. หลั่งลงมาอย่าผ่านเฉยไปเลยฝน
เอื้อคนจนคนเนานาอย่าหน่ายแหนง
ฝนไม่หลากย่อมข้าวยากย่อมหมากแพง
ทุกถิ่นแล้งทุกแห่งร้อนสะท้อนใจ
2. หลั่งลงมาเถิดหนาอย่าหน่ายหนี
เรายินดีที่น้ำหลากมากรู้ไหม
กบเขียดซร้องร้องรัวอยู่ทั่วไป
พวกพฤกษ์ไพรก็ผลิพราวงามราวจันทร์
3. มีน้ำ มีนา มีปลา มีข้าว
มีสุข มีเรื่องราว ไว้กล่าวขวัญ
ขาดน้ำ ขาดนา ต่างจาบัลย์
มีชีวิตก็บีบคั้นอัดอั้นทรวง
4. หลั่งมาเถิดหนาอย่าหน่ายแหนง
ให้ยอดผักฟักแฟงแย่งเอื้อมสรวง
ขอฝน ขอฝน ข้าบนบวง
ฝันเห็นข้าวออกรวงอยู่เรียงราย
5. หลั่งมาเถิดหนาอย่าหน่ายหนี
ฝนบ่มีรู้ไหมคนใจหาย
แห่นางแมวทั่วบางแมวปางตาย
เห็นแต่เมฆเป็นริ้วสายฝนไม่มา
6 พฤษภาคม 2548 04:35 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
รำลึกถึงเพื่อนทั้งผอง
กับพี่น้องที่เคยอยู่พร้อมหน้า
เกือบยี่สิบปีที่ไกลตา
บางคนได้กลับมาเจอกัน
บางคนพลัดหายหาไม่เห็น
เหมือนเป็นเพียงคนในความฝัน
เปิดสมุดบันทึกรำลึกวัน
ภาพในอดีตนั้นก็พรูพราว
มาส่งข่าวบอกคิดถึง
จากเพื่อนคนหนึ่งข้ามคืนหนาว
กับฝากจันทราคณาดาว
เรายังเก็บเรื่องราวไว้ชูใจ