30 สิงหาคม 2547 07:43 น.

เพลงเศร้าสักเพลง-ไกลแล้ว

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

ไกลแล้ว

  (เพลง โดยก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์)

      มาบอกกับฉัน      ว่าเธอถึงวันต้องไป

ฉันสุดจะเหงา        เมื่อยามที่เราต้องไกล

เธอลาจากฉัน        ทิ้งคืนวันเดิมเดิมไว้

รอยยิ้มที่พิมพ์ซึ้ง     ขอคิดถึงบ้างได้ไหม

       มาบอกกับฉัน        ว่าวันนี้เธอมีใคร

ที่ดีกว่าฉัน              และคงมีวันที่ดีใหม่

เธอลาจากฉัน       ทิ้งคืนวันเดิมเดิมไว้

ความรักที่เคยซึ้ง    ขอคิดถึงบ้างได้ไหม

 

                    แล้วฉันจึงนั่งลงทบทวน

หวนถึงความหลัง  เห็นความพลาดพลั้งครั้งใหญ่

ยามที่ฉันมีเธอ       ฉันก ็ยังเผลอไปมีใคร

ก็สมควรจะถูกทิ้ง       คนไม่มีความจริงใจ

 

                      และวันนี้ฉัน   ก็เหลือเพียงวันว่างเปล่า

ร้อนเจ็บเหน็บหนาว   ไม่มีข่าวคราวทางไกล

ทุกคนล้วนจากลา       ฉันจึงรู้ว่าเจ็บข้างใน

 

ฉันไม่ดีเอง     ฉันไม่ดีพอ       โปรดอภัย    ..หากความคิดถึงของฉัน นั้นรบกวนหัวใจเธอ				
28 สิงหาคม 2547 23:41 น.

เยือนมิตร(มาเขียนต่อให้จบ)

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

เยือนมิตร 
------------
เพีย กล้า เพื่อนร่วมสถาบัน เพียทำงานสำนักพิมพ์
กล้าลาออกจากงานในกรุงเทพฯมาทำสวนทำนาที่บ้าน
นุช แฟนของเพีย เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์
เรน นักศึกษา น้องของมัท
อิน จัน นักศึกษา เพื่อนของเรน
คุณพายุ เจ้าของธูรกิจส่วนตัว เพื่อนของมัท
พุด ฟรีแลนซ์ เพื่อนของนุช
แพง สาวชาวบ้าน ภรรยาของกล้า

-----------------------------------------------


เห็นภูเขาทรงโต๊ะรูปหัวใจ
เชื่อว่าไม่หลงแน่แล้วแกเอ๋ย
ทางเส้นใหม่แม้แปลกใจไม่คุ้นเคย
ก็บ่เลยหลงทางกลางพนา

เราอ้อมเขาเข้าหลังภูสู่บ้านเพื่อน
ได้เอ่ยเอื้อนว่านี่ไงที่ใฝ่หา
เรือนยอดไม้ยังเขียวใสเต็มนัยน์ตา
หมอกบางพาเพลินใจในห้วงวัน

เย็นลมป่าพัดมาต้องผิวกาย
ได้ผ่อนคลายเติมใจเติมไฟฝัน
หอมไม้ป่าถวิลหามานานครัน
อยากยลจันทร์อาบใจเหลือใจแล้ว

จำไม่เลือนมาเยือนนายหนก่อนนี้
ภาพพงพีพิมพ์ทรวงรัตน์ชัดแจ่มแจ๋ว
ถวิลคืนมาเยือนกันเติมฝันแพรว
จำใดพิมพ์จิตแล้วบ่ยอมจาง

บ้านของนายงามง่ายสบายมาก
นอนพื้นฟากหลับง่ายไม่หมองหมาง
ตื่นเต็มตาร่าเริงแลเวิ้งบาง
ที่อยู่กลางดงไกลใกล้ตีนภู

เสียงน้ำตกจากเขาฟังเอาเพื่อน
กี่ปีเดือนน้ำตกเย็นยังไหลอยู่
มาหนนั้นเพื่อนหญิงชายได้เที่ยวดู
ดำว่ายรู้เย็นซึ้งสนานนาน

--------------------

โน่นไงเพื่อนออกมารับที่ปากทาง
พากันเดินไปกลางพงไพศาล
ลัดเลาะผาพาเพลินเดินสำราญ
สมกับนานบ่น้อยค่อยย้อนเยือน

ดีใจได้เจอกับเกลอเก่า
รักของเราบ่ซ่อนภัยบ่ไว้เงื่อน
ตรงและคงรักแท้บ่แชเชือน
ไมตรีเตือนคงตามคุณความดี

ย้อนกลับมาหนใหม่คืนไพรพฤกษ์
ขอซึมลึกเถิดเพื่อนกับเถื่อนที่
คนมาด้วยก็มุ่งหวังวาดชีวี
เกษมศรีเสมอรสเสมอธรรม

คู่รักนายเป็นไงบ้างอยู่ข้างนาย
ลูกกี่รายคงน่าชมพ่อคมขำ
กันตัวเตี้ยม่อต้อพ่อตัวดำ
ลูกคมคล้ำก็ว่าดีสีนี้แรง

อยากมาอยู่กับเพื่อนก็ห่วงเพิ่น
จะเหนื่อยเกินยามหนีจากสีแสง
เธอคุ้นชินป่าปูนกับผาแปลง
เธอคือแรงใจกันเคียงปานเงา

ยังมิใช่ฮันนี่ฯแต่มีมูล
มาเยือนไพรเพิ่มพูนฝันวันเก่า
มาต่อรักภักดีเรามีเรา
มาลบเศร้าจากใจผ่อนคลายลง

---------------------------------------------

มิตรภาพหล่อเลี้ยงหทัยสหาย
ให้หยัดยืนฝืนกายคลายความหลง
ร้าวเมื่อผ่อนร้อนเมื่อเบาได้เนาคง
ในธรรมเย็นสมประสงค์ประสบธรรม

มาเยือนนายหนนี้หนที่สอง
ชวนพี่น้องมากหน้ามาชื่นฉ่ำ
ฝนปีนี้ก็หวังนักอยากปักดำ
ชวนมาทำนาด้วยมาช่วยนาย

มวลมิตรหลายคนหนนี้นะ
ผองเพื่อนน่ะบอกไว้ว่าใจหมาย
จะเติมฝันเพื่อข้ามวันอันเปล่าดาย
เป็นหญิงชายค้นหาคุณค่าตน

นุชนารถ เนื่องธรรม จำได้ไหม
เพื่อนรุ่นน้องของแกไงใยสับสน
ใช่แล้วนายในภาคฯมีไม่กี่คน
อย่าเล่นกลแกล้งอำทำยียวน

กันแอบจีบน้องคณะฯนายน่ะกัน
กีดอยู่นั่นกันอยู่เรื่อยเมื่อยทำสวน
ให้ขุดแปลงปลูกมะระเป็นกระบวน
ก่อนจะม้วนท่ากานด้วยงานดิน

กันบ่ละกันบ่ลดเรี่ยวแรงรัก
กรำงานหนักดุ่มหน้าเหมือนบ้าบิ่น
ชนะใจตนมาจนชาชิน
ชนะนายได้ยุพินมาบูชา


ก็เคียงใจเคียงกันจวบวันนี้
บ่ห่างหนีไปไหนให้ห่วงหา
อาจอยู่ห่างกันบ้างบางเวลา
ยังกลับมาต่อวันเติมฝันงาม

ทวนวันทวนใจหน่อยไหมเพื่อน
อดีตเลือนแล้วไหมไม่ต้องถาม
วันเก่าเก่านึกทุกคราวยังวาววาม
ยังเห็นความเป็นมาประสามิตร

นุชนารถหวานบ่จืดเรียนพืชสวน
ภาควิชานี้ล้วนชวนชื่นจิต
สวยบวกแกร่งมีแรงกล้ามมีความคิด
มีชีวิตมีชีวาน่าชื่นชม

นายกับกันแม้ต่างภาคต่างวิชา
ยังกลายมาเป็นมิตรสนิทสนม
ชอบดนตรีกวีศิลป์ถิ่นนิยม
ชอบลับคมคิดชาญเชิงการเมือง

นุชนารถน้องน้อยเจ้ากลอยเงียบ
ความคิดเฉียบพูดเมื่อไหร่ก็ได้เรื่อง
เป็นสาราณียกรส่อแววเรือง
จุลสารชื่อประเทืองปัญญาไทย

กันเขียนกลอนอ่อนเขลาเอาไปส่ง
เธอบ่ลงแถมว่าล้าสมัย
เลยเขียนจีบบีบอารมณ์สาสมใจ
ผลเป็นไงนายก็เห็นเป็นเช่นนั้น

เรียนจบแล้วนุชก็ทำสำนักพิมพ์
เพื่อนของนายขมองอิ่มอวยสวรรค์
เป็นบอ.กอ.สอ.นอ.พอ.เพลงพระจันทร์
นุชจ้างเรารายวันปั่นคำนำ

พิมพ์หนังสือรายสะดวกก็ไหลดี
แต่บ่รวยสักทีพี่อย่าขำ
ได้ซีไรต์หน่อยเถิดเถิกจะเลิกอำ
ว่าลำนำเล่มใดใครเขียนแทน

ก็คิดถึงนายล่ะนักกวี
นายน่ะมีคลังคำหลากส่ำแสน
เคยดวลกลอนต่อหน้าประดาแฟน
นายยิ้มแป้นรับโล่เราโหลโรย

นายยังเขียนกาพย์ฉันท์ไหมวันนี้
กันสิมีแต่หิวและหวิวโหย
ในรสโคลงกาพย์ฉันท์อันบีบโบย
เขียนและอ่านอยู่โดยตัวคนเดียว

มาเยือนนายหลายวันช่วยกันที
ขอนอนเขียนบทกวีบนเรือนเสี่ยว
ที่อยู่ใกล้น้ำตกนั่นเลยเชียว
ได้บทกวีบทเดียวก็ดีใจ

งานเก่าเก่าของนายหายหรือยัง
กันยืมอ่านอีกครั้งจะได้ไหม
ถ้ายินดีให้ตีพิมพ์พิมพ์หทัย
ขอพิมพ์ส่งซีไรต์ได้ไหมเกลอ

-------------------------------

อาฮะ จะเอางั้นหรือ
ฟังดู ครือครือเพ้อเผลอ
นายเพีย นายไปไกลเน่อ
นายกว้าง นะเออเกลอกัน

นายกล้า น่ะบ่มิเลือน
เดิมเดิม ยังเหมือนหลับฝัน
จมใจ ในอาทิตย์จันทร์
สืบวัน เนาดงพงพี

เคยบุก เคยเบิกเถิกเอย
บ่เคย คิดพ่ายใจหนี
แต่เบื่อ มากบ้างบางที
จึงลา น้องพี่เนาไพร

หัวหก ก้นขวิดกันมา
หัวเราะ ทั้งน้ำตาไหล
อดอด อิ่มอิ่มยิ้มไห้
ผ่านไป ใครควรหลงลืม

กันทิ้ง งานใหญ่ในเมือง
มาเปลือง แรงแย่แต่ปลื้ม
งานงาม เริ่มออกผลอืม..
อิ่มเอม อกอื้มอวดอาย

หากอยู่หลายวันกันคง
พาเพื่อนชมดงได้หลาย
น้ำตกตาดผานาทราย
สวนไม้เรือกป่าน่าเยือน

มีมิตรมาต่อเติมไฟ
คงมีแรงใหม่ดอกเพื่อน
เหนื่อยหน่อยนะก่อนเนาเรือน
น้องนุชของเพื่อนแกร่งจริง

ไม่พูดไม่คุยดุ่ยดุ่ม
ลัดเลาะเหวลุ่มดุ่มนิ่ง
กล้าเองเหนื่อยนะประวิง
หวั่นชิงท้อที่กลางทาง

โน่นไงหลังคาหมู่บ้าน
แลเห็นเรือนชานได้บ้าง
เสียงตำข้าวเบาเลือนบาง
แล้วหนักขึ้นอย่างน่าฟัง

เคยตำข้าวไหมนงนุช
ตอนออกค่ายฯกุดผักปลั่ง
ตอนนั้นปี 2 กระมัง
ยังได้กินข้าวซ้อมมือ

ตำข้าวฝัดข้าวได้ข้าว-
ปลายข้าวรำอ่อนอีกอื้อ
เหนื่อยอ่อนโรยล้าตาปรือ
ก่อนถือถังข้าวคืนเรือน

นุชลืมแต่ผมจำแม่น
นายเพียมีแผนอำเพื่อน
นุชเพียเปรียบราวดาวเดือน
บ่เลือนแต่คราวเยาว์วัย

ค่ายฯของเหล่าชาวนิสิต
คิดแล้วก็ทึ่งวัยใส
เรียนรู้จากเหล่าชาวไพร
รักประชาไทยเป็นทุน

เพลงค่ายฯยังตรึงกมล
ทุกคนที่คบอบอุ่น
ร้องเพลงดอกไม้ให้คุณ-
กับแสงดาวแห่งศรัทธา

ห่างกันไปยี่สิบปี
เพลงนี้แน่นหนักนักหนา
ดีไหมพร้อมหน้าพร้อมตา
เรามาย้อนวันย้อนเพลง

ให้นุชเป็นนักร้องนำ
เพีย-กล้า คนทำเป็นเก่ง
เล่นคอร์ดเอาความครื้นเครง
บรรเลงอยู่รอบกองไฟ

เรือนเราอยู่ไร่ริมน้ำ
คงรับเพื่อนฉ่ำใจได้
ที่ฟังว่ามาว่าจะใด
พอใจโปรดยิ้มแย้มพลัน

-------------------------------

อยากยิ้มอยากยั่วแย้มโยงขัน
นุชบ่ลืมคืนวัน..แต่น้อย
มิตรภาพอิ่มราวจันทร์..พราวผ่อง
จันทร์ส่องวาวบ่พร้อย.พร่างฟ้าพาเขษม

เอมใจเอมอิ่มซึ้ง.ทรวงขวัญ
เยือนถิ่นอยากชมจันทร์สร่างเศร้า
ชื่นชมพี่นานครัน..คราวก่อน พี่เอย
สองพี่พาเอ่ยเว้า.ออดซึ้งคำนึงนาน

----------------------------------------

แต่ว แดว แด่ว แต่ว แดว แด่วมือถือร้อง
โทรศัพท์เพื่อนพ้องเรียกจากบ้าน
ว่านุชจ๋ามัทโทรหาอย่ารำคาญ
ตอนนี้ถึงดงดานกันหรือยัง

เสร็จธุระมัทจะบึ่งมาซึ้งด้วย
เพื่อพักกายให้หายป่วยหัวใจมั่ง
เหนื่อยและท้อต่อวันคืนขมขื่นจัง
อยากมาฟังเสียงไพรผ่อนใจพัก

เรนคนดีก็อยู่นี่ด้วยนะคะ
รายนี้น่ะตื่นเต้นเป็นเอาหนัก
ไม่น้อยกว่ามัทหรอกเห็นออกคัก
กำลังมีความรักอีกด้วยดิ

กะจะเอาเชอโรกีขี่ไป
ยังขับไหวแถมมีใจรักด้วยสิ
รักไต่ภูรักดูไพรใครพาริ
นุชเพียกล้าอิอิพามัทเป็น

------------------------------------

เย็นอยู่เถิด!!หมี่แก้ว..ก็องก็อย
รอก่อกรอใจคอย...บ่าวเอื้อม
หรือใครก่อรูปรอย แก่จิต อยู่นา
จึงปล่อยเกลอเกริ่นเฟื้อมฟั่นเฟื้อน เฟือนฟัง

ยังคอยมัทเพื่อค้างกลางไพร
เพียเอ่ยบอกบ่ไกล...ดอกจ้า
เชิญเยือนถิ่นชูใจ.นี่เถิด แม่เอย
มาเลยโปรดอย่าช้า...พี่น้อง ครองคอย

------------------------------------

จะมาแจมหรอกน่าคุณนงนุช
เพราะรักเพื่อนที่สุดอยากหยุดหงอย
นุชมีเพีย-มัทมีใครเฮ้อ!ใจลอย
ละล้าละลังเกินร้อยแล้วหนอเรา ฯ

-------------------------------------

ว่าไงจ๊ะมัทโทรหาว่าจะได๋
จะมาถึงเมื่อไหร่ศุกร์หรือเสาร์
บอกอย่าเปลี่ยนใจนะยอดกระเพรา
อยากพบเพื่อนพ้องเรา อย่างพร้อมเพรียง

พร้อมเพรียงเรียงหน้าช่วยยาใจ
ยื่นมือให้ ถือกุม ให้สุ้มเสียง
ท้อก็คลาย หน่ายก็ซา ถ้าเธอเคียง
มีแรงเรียงร้อยพจน์เป็นบทกลอน

----------------------------

นงนุชยื่นมือถือให้คนถาม
ก็ได้ยินถ้อยความตามคลื่นอ้อน
จากมัท,เรนว่าเย็นนี้ถึงแน่นอน
อย่าตัดรอนไมตรีเคยมีมา

ตื่นเต้นอยากเห็นเขาลำเนาไพร
ดีใจจะได้พักในป่า
อยากจะยลหมู่ดาวอันพราวตา
ฟังเรไรร้องหาความอาทร

มีเพื่อนใหม่ติดรถมาด้วยแหละ
คุณพายุนั้นจะแวะรับเพื่อนก่อน
ที่สถานีรถไฟฯในนคร
ก่อนออกจรมาตามความผูกพัน

ทวนดู เที่ยวนี้มีใครมั่ง
คุณพายุ , น้องเรนจัง , มัทช่างฝัน
เพื่อนของเรนอีกสองอินกับจัน
พุดพัดชาอีกรวมกันเป็นหกคน

มัทฝากบอกคุณกล้าว่าคิดถึง
ขอลิ้มแจ่วลวกตำลึงอีกซักหน
อาหารป่ายังพิมพ์ใจต้องกมล
น้ำใจคนบ้านไพรต้องใจแท้

-----------------------------------

ครับผมรับทราบแล้วรับทราบแล้ว

-----------------------------------

ไปกันเถิดเกลอแก้วและพิมพ์แข
ขอบคุณมากที่ยังคอยไม่ลอยแพ
ใกล้จะถึงแล้วแน่แน่ไร่เรือนนาย

----------------------------------

ถึงหมู่บ้านของกล้าก็บ่ายคล้อย
เรือนชาวบ้านใหญ่น้อยมีหลากหลาย
บางหลังอยู่ใกล้เคียงเห็นเรียงราย
ห่างออกไปอีกมากมายมีไม้บัง

เสียงตำข้าวด้วยครกกระดกกระเดื่อง
ก็ได้คิดถึงเรื่องราวเก่าหลัง
ยินเสียงน้ำตาดผาซู่ซ่าดัง
ก็ได้นั่งทบทวนอดีตตน

ยินเสียงไก่เป็ดหมูและม้าหมา
ก็นึกย้อนเวลาอันสับสน
ยินเสียงคนเป่าแคนกล่อมผู้คน
ก็เห็นวันอันผ่านพ้นไปนานวัน

ไปลำบากตรากตรำทำงานเมือง
จนซีดเหลืองโรยหล่าดูน่าขัน
อากาศเจือพิษจมก็ดมกัน
น้ำเน่าเหม็นก็สูดมันเสียหมดเมือง

แย่งกันอยู่แย่งกันกินแย่งกันขาย
ก่อปัญหาหยากยายไว้หลายเรื่อง
โฉมภายนอกเปล่งปลั่งมะลังมะเลือง
เนื้อในเน่าหนองเนืองมีหนอนนอง

แต่ก็ทนกันอยู่ทนกันอยู่
เพราะไพเฟื้องเฟื่องฟูจนฟู่ฟ่อง
ก็มันเฟ้อเกร่อเกินทั้งเงินทอง
คนจึงกองกันโกยโดยจำทน

เหนื่อยเหลือแล้วแจวมาคลายล้าร้าว
ขอซบกายกับดินด้าวแดนไพรสน
ขอยินเสียงแดนดงเวิ้งวงตน
พักกมลพินิจดาวคราวราตรี

ขอร้องเพลงกล่อมเพื่อนกล่อมพวกพ้อง
เพื่อให้ใจผุดผ่องนะน้องพี่
จันทร์วันเพ็ญเห็นคราวใดก็ใจดี
อยากให้ค่ำคืนนี้เรามีเรา

-------------------------------


พายุ มัท อิน จัน เรนและพุด
ค่ำ - ถึงจุดนัดหมายใกล้เนินเขา
เมื่อเห็นเพื่อนชื่อกล้ามารับเอา
ก็ให้เบาใจบ้างคลายกังวล

หกมิตรบนโฟว์วีลคู่ขวัญ
ไต่ผาชันตามสองล้อโดยบ่บ่น
มิตรเคียงมิตรร่วมเส้นทางต่างตำบล
เหนื่อยก็ทนหากบ่ท้อเลยต่อทาง

อุ่นใจ เบาใจ บวกเชื่อใจ
ปลอดภัยพ้นเข็ญขุกได้ทุกอย่าง
ถึงเรือนกล้าความหวาดขามก็คลายจาง
จันทร์กล่อมบางใจกล่อมใจสมใจมิตร

---------------------------------

ภูทรงโต๊ะรูปหัวใจสูงได้แหงน
ชื่อของภูหมู่แฟนแสนสนิท
เคยปีนภูดูเมฆไหวโดยใกล้ชิด
เคยพินิจสวนสนบนหลังภู

มาหนนี้ไม่ปีนเขาขอเนาบ้าน
มาสลัดความเหนื่อยคร้านที่อูดอู้-
ในกมลสันดานนานพอดู
มาเพื่อชูชีวันขอปันแรง

ขอหน่อยขอพลังจากเธอหน่อย
ไม่ขอบ่อยหรอกน่าอย่านึกแหยง
มาขออาบน้ำเย็นยามค่ำแลง
มาขอกินฟักแฟงจากแหล่งไพร

มาขอชมดาววาบมาอาบหมอก
มาขอฟอกปอดคล้ำให้คืนใส
มาขอซบไอดินเก็บกลิ่นไอ
มาเติมไฟต่อฟืนคืนกำลัง

-----------------------------------

มิตรผู้มาจากทางไกล
จอดโฟว์วีลคันใหญ่ไว้ด้านหลัง
ของเรือนฟากไม้ไผ่ ใต้เงาบัง
ของกอไผ่ทรงฉัตรรั้งม่านราตรี

กล้าปลูกเรือนไม้ไผ่ไว้หลายเรือน
ก็เพื่อเพื่อนเพื่อพ้องเพื่อน้องพี่
ยามมาเยือนเถื่อนไพรจะได้มี-
ความสบายชีวี-มีที่พัก

ลานโล่งตรงกลางกว้างยาว
เผื่อเพื่อนอยากชมดาว-ดาราจักร
นอนผิงไฟกองใหญ่อุ่นใจนัก
ได้ผิงดาวร้องเพลงรักอันอาทร

--------------------------

พักใจเถิดสหาย
คงผ่อนคลายได้พักผ่อน

เรือนเราคือเรือนเพื่อน
ไมตรีเหมือนกับบทกลอน

ที่ร้อยเรียงโยงเป็นใย
ด้วยคำใสสวยสลอน

เยื่อใยในน้ำมิตร
ร้อยดวงจิตเคยคว้างจร

ให้เนาและแนบนาน
ในดวงมาลย์ละมุนอ่อน

คืนนี้ขอเคียงขวัญ
ร้องเพลงกัน-ภราดร

-------------------

นุชและแพงทำแกงยอดผัก
รสจัดนักซดซ่านดาลร้อน

กล้ากับเพียอ่อมเพี้ยหมูป่า
สับเนื้อปลาทำปลากั้งก้อน

ปูภูเขาหวานเร้าลิ้นเรา
ย่างหรือเผาเอาไฟอ่อนอ่อน

สุกอวลหอมยั่วน้ำลายเปรี้ยว
กินครั้งเดียวเดี๋ยวอยากให้สอน

เอาไปทำกินเองที่บ้าน
บางทีอยู่นี่นานได้งานครัวสะออน

---------------------

รสจากป่ากลมกล่อมด้วยเมรัย
รินแจกไปอย่างกันเองไม่เร่งร้อน
เสวนาออกรสทุกบททุกตอน
แนมเพลงอ้อนด้วยบ้างเป็นบางครา

---------------------

(แดดอ่อนอ่อนในตอนเช้า
ให้เงายาวทอดทาบนา
น้ำขังเจิ่งสะท้อนฟ้า
ดาลอุราอ่อนไหว

เพราะฝนตกเมื่อคืนนี้
ปลามากมีคงดีใจ
ได้ว่ายแหวกในน้ำใส
ได้ออกไข่ได้ลูกปลา

แสงแดดอุ่นนี้คุ้นนัก
เหมือนความรักของคุณ
ตักนิ่มอ่อนเคยนอนหนุน
ผมรักคุณหนักหนา

ยามเมื่ออยู่เคียงใจ
ผมไม่เคยคิดลา
ผมรักคุณเท่าท้องฟ้า
ถามปลาดูก็ได้

ผม รักแต่คุณ
คุณ คุ้นหัวใจ
อ้อมกอดก็อุ้นอุ่น
ยิ้มของคุณยิ่งคุ้นใหญ่

ดาลใจดลหัวใจ
ให้ผมยิ้มให้โลก)

--------------------------

ลา... ลัน ลัน ลา
หา... หา หา ฮา

ดู... ดู่ ดี้ ดา
มา... เรามายิ้มด้วยกัน

----------------------------

กองไฟกองนี้อุ่นหลาย
ผิงอุ่นซำบายสุขขวัญ
ฟังเพียและเพื่อนขับกล่อม
ถนอมไมตรีซึ้งวัน

ซึ้งคืนยามคืนมาซึ้ง
ขอจำคืนหนึ่งนี้นั้น
ไปถึงวันหน้าโน้นเทียว
ที่อาจเปล่าเปลี่ยวอ่อนเพลีย

--------------------------

มัท เรนจะเป็นนักร้อง
มาเถิดเพื่อนผองมาเชียร์

คุณพุดจะเป็นลูกคู่
คุยพายุอยู่ไหนเสีย

อ๋อหลับหรือเพลินนับดาว
เพลียก็หลับยาวเถิดเฮีย

นอนฟังน้องมัทจะกล่อม
ด้วยเสียงใสออมอ้อนเคลียร์

------------------

(เยี้ย เยี้ย เยีย
ฮื้อ ฮื้อ ฮือ

คนคนนี้ใช่ไหม
ที่เธอมีใจคอยดูแล
แต่คนคนนี้สิดูไม่แคร์ไม่ใส่ใจ

คอยปลอบอย่างนี้
คอยปลอบอย่างนั้นให้มั่นใจ
แต่คนคนนี้ใช่ไหม
ที่ทำให้ใจเธอร้าวราน

ฉันซึ้งแก่ใจ
ในความรักความห่วงใย
ที่เธอมีต่อฉัน

ฉันซึ้งแก่ใจ
ในความรักความห่วงใย

แต่อยากทำไปอย่างนั้น

ฮื้อ.ฮื้อฮื้อ ฮือ
ฮื้อ.ฮื้อฮื้อ ฮือ

โลกของใคร
ทำไมเล่าจึงดูต่างกัน
และโลกของฉันทำไมเล่ามันเริ่มสั่นไหว
อยากอยู่ลำพังคนเดียวคนเดียวแม้เปลี่ยวใจ

ฉันไม่อยากให้ใครต่อใครเห็นขบขัน

ฉันซึ้งแก่ใจ
ในความรักความห่วงใย

ที่เธอมีต่อฉัน

ฉันซึ้งแก่ใจ
ในความรักความห่วงใย
ที่เธอมีใจให้กัน

เย้ เย้ เย
ฮื้อฮื้อ ฮือ

-------------------------

คุณพายุลืมหลับขยับเชียร์
คุณมัดหมี่จึงหายเพลียได้อีกอื้อ
แต่เพื่อนเรนเหนื่อยล้าจนตาปรือ
เรนแกล้งเพื่อนโดยดื้อคือดีดคาง

---------------------------

จะหลบหลับในหนีหรือนี่นาย-
อินและจันจะฝันร้ายรู้ไว้บ้าง
ตื่นตื่นตื่นฟื้นขึ้นมาอย่าอำพราง
นี่กาแฟแกเอาถ่างตาก่อนซี

-----------------------------

วายดูไอเลิ้ฟยูโซ โอโนโน่
ว่าโอ๋โอ้เรนใจร้ายกะไรนี่
ตอนขามาแกล้งอย่างกะอะไรดี
หรือเห็นว่ามักจี่แกล้งบี้ใจ

ตื่นก็ได้ไม่ยากนักหรอกเนาะ
แต่ขอเพลงที่ไม่เพราะหน่อยได้ไหม
ให้จังหวะมันกระชับกะชูใจ
พี่กล้าใส่เบสสลับสับด้วยมือ

ส่วนพี่เพียลงคอร์ดฉับฉับส่ง
ใช่เลยแหละผมคงฮำหื่อฮื้อ
คอยดูเถอะถ้าเรนมาทำตาปรือ
จะดีดคางบ้างถือว่าตอบแทน

-----------------

แทม แทม แทม แทม แถ้ม แถ่ม

แดว แดว แดว แดว แด๋ว แด่น

รัก.. รัก รัก รัก บ้างเถอะ

เธอ เธอ เธอ จะรักใคร

บอก บอกเขาที

ว่าคุณมีใครในใจ

แดว แดว แดว แด่วแด๋ว แด่ว

แดว แดว แดว แด่วแด๋ว แด่ว

บอก บอกเขาที

กินแห้วมี อนามัย ?


---------------------


ร้องเพลงกล่อมจันทรนอนอาบจันทร์
ราตรีนั้นสุขซึ้งทหัยใส
มิตรกล่อมมิตรด้วยไมตรีไม่มีภัย
ใจกล่อมใจเคียงกันนอนฝันดี

ดึกมากไอหมอกก็ออกคลุม
กล้าชวนเพื่อนทั้งกลุ่มเปลี่ยนที่
จากที่โล่งขึ้นนอนเรือนที่เพื่อนมี-
ไว้รับรองน้องพี่โดยเพียงพอ

เรน กับมัท นุช พุด นอนเรือนกลาง
อินกับจันนอนเรือนห่างออกไปต่อ
เพียกางกลดนอนเย็นเป็นร.ป.ภ.
คุณพายุรูปหล่อขอนอนเปล

-----------------------------------

กล่อมเพื่อนข้าเถิดเรไร
กล่อมใจไม่ให้หันเห

กล่อมคนมีศรัทธามั่นคง
กล่อมคนตรงบ่ซ่อนเล่ห์

ให้เพื่อนหลับและหายห่วง
อย่าให้ใจแม้สักดวงพังเพ

-------------------------------------

เรไรกล่อมเพื่อนแล้วเรไร
ลมอ่อนหอบหมอกไพร...แผ่วพลิ้ว
หอมเย็นกลิ่นดอกใดอวยอ่อน แม่เอย
หอมอยู่ราวโบกริ้วช่อล้อ ลมไหว

ในผ้านวมห่มคุ้น...คลายหนาว
เกลอเหล่าใดหลับราวเหนื่อยล้า
มิตรใดอยู่โดยดาว.แวมส่อง 
คืนสุขผ่านเนิบช้า..อุ่นซึ้ง อรุณสวย

--------------------------------------

กล้าลุกมาแต่เช้า
เพื่อนเขาก็ตื่นขึ้นแล้วด้วย

นุชมัทพุดตื่นก่อนอีก
อินจันนั้นปลีกไปห้วย

คุณพายุยังงัวเงีย
มีอาการเพลียเพลียคล้ายป่วย

ความจริงคือโล่งใจ
อยากนอนพักอุ่นใต้ผืนผวย

เปลนอนไม่มีคนไกว
ก็จะเป็นไรไปเนาะแพงพวย

เช้าวันใหม่นี้ดีแท้แท้
รายรอบมีแต่รักรุ่มรวย

น้องเรนไปไหนล่ะ
รายนี้เธอน่ะบ่เขินขวย

ไปบ้านของชาวบ้าน
ออกแรงช่วยงานชาวบ้านด้วย

ตำข้าวช่วยตำข้าว
ทำเป็นเรื่องเป็นราวเลยน้องหมวย

หยิบจับกระด้งฝัด
ดูทะแมงทะมัดราวนักมวย

ยายยิ้มเรนก็ยิ้ม
ครกกระเดื่องเป็นภาพพิมพ์ชูช่วย

ชูชื่นคือชูใจ
เรนรักประชาไทยได้เอื้ออวย				
28 สิงหาคม 2547 04:46 น.

คิดถึง

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

ก็ยังอยู่ก็ยังอยู่
แม้หดหู่ก็ยังยิ้มแหยแหย
ก็ยังทนก็ยังทน
แม้ทุกข์ท้นก็ยังคอยตามแจ
ตามหายังตามหา
เพื่อรู้ว่ายังมีมิตรภาพแน่แท้
เพื่อเติมวัยเพื่อเติมใจ
ในประเทศประทัยที่คนส่วนใหญ่ยังยากจนนี้แล

------------------------------

ไม่ได้เข้ามานานเลยครับ
คราวนี้คงได้แวะเข้ามาบ่อย
คิดถึงมวลมิตรครับ
ทั้งคุณtiki คุณrain คุณพุด คุณอัลมิตรา
คุณชัยชนะ คุณมัท คุณหนึ่ง คุณผู้หญิงไร้เงา
และอีกหลายๆท่าน
ยังสบายดีกันอยู่ใช่ไหมครับ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์