2 กรกฎาคม 2547 06:08 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
ถึงหมู่บ้านของกล้าก็บ่ายคล้อย
เรือนชาวบ้านใหญ่น้อยมีหลากหลาย
บางหลังอยู่ใกล้เคียงเห็นเรียงราย
ห่างออกไปอีกมากมายมีไม้บัง
เสียงตำข้าวด้วยครกกระดกกระเดื่อง
ก็ได้คิดถึงเรื่องราวเก่าหลัง
ยินเสียงน้ำตาดผาซู่ซ่าดัง
ก็ได้นั่งทบทวนอดีตตน
ยินเสียงไก่เป็ดหมูและม้าหมา
ก็นึกย้อนเวลาอันสับสน
ยินเสียงคนเป่าแคนกล่อมผู้คน
ก็เห็นวันอันผ่านพ้นไปนานวัน
ไปลำบากตรากตรำทำงานเมือง
จนซีดเหลืองโรยหล่าดูน่าขัน
อากาศเจือพิษจมก็ดมกัน
น้ำเน่าเหม็นก็สูดมันเสียหมดเมือง
แย่งกันอยู่แย่งกันกินแย่งกันขาย
ก่อปัญหาหยากยายไว้หลายเรื่อง
โฉมภายนอกเปล่งปลั่งมะลังมะเลือง
เนื้อในเน่าหนองเนืองมีหนอนนอง
แต่ก็ทนกันอยู่ทนกันอยู่
เพราะไพเฟื้องเฟื่องฟูจนฟู่ฟ่อง
ก็มันเฟ้อเกร่อเกินทั้งเงินทอง
คนจึงกองกันโกยโดยจำทน
เหนื่อยเหลือแล้วแจวมาคลายล้าร้าว
ขอซบกายกับดินด้าวแดนไพรสน
ขอยินเสียงแดนดงเวิ้งวงตน
พักกมลพินิจดาวคราวราตรี
ขอร้องเพลงกล่อมเพื่อนกล่อมพวกพ้อง
เพื่อให้ใจผุดผ่องนะน้องพี่
จันทร์วันเพ็ญเห็นคราวใดก็ใจดี
อยากให้ค่ำคืนนี้เรามีเรา
to be continue