16 พฤษภาคม 2547 01:55 น.

คลิกเชื่อมใจ จดหมายออนไลน์ ฉบับที่ 4

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


(ฉบับที่ 1)  ข้ามไปฉบับที่ 4  เลยก็ได้ครับ ถ้าคุณอ่านฉบับนี้แล้ว

ถ้าเพื่อนเหงาในเช้าไม่ได้ทำงาน
คลิกมานี่มีเรื่องบ้านอ่านแก้เหงา
ฤดูนี้อาจแล้งไปทำใจเอา
แต่บ่เศร้าดอกนายสบายใจ
-------------------------------------
ปีนี้เราได้ข้าวมากเอาการ
และที่บ้านนายใช่ย่อยเป็นร้อยไร่
ข้าวเต็มยุ้ง    หุงหรือจี่ข้ามปีไป
ก็ยังเหลือเชื่อไหมไม่เดือดร้อน

พ่อของนายขายปลาได้ห้าหมื่น
นายอย่าทำตาตื่นขอบอกก่อน
ปลามันชุกดุกกับหมอพอสะออน
แต่ไม่น่าออนซอนเท่าช่อนชุก

ขายหนึ่งบ่อเก็บไว้กินอีกหนึ่งบ่อ
รับรองพอเหลืออีกซีมีความสุข
สวนหมากไม้หมากทันก็ทันยุค
คนที่บุกเบิกหรือก็คือนาย

วัวของนายถึงรอบขายคงได้โข
ตัวโต๊โตชาโลเล่ย์เมื่อเทขาย
เกือบห้าหมื่นต่อตัวชัวร์แน่นาย
กลุ่มโคขุนขุนโคขายเป็นนายเงิน

เพื่อนของนายหลายคนบ่นคิดถึง
จำได้ไหมใครคนหนึ่งซึ่งเป๋อเปิ่น
เดี๋ยวนี้มีสี่พระหน่อเรียกพ่อเพลิน
น่าอิจฉามันเหลือเกินคนมีเมีย

เขาปลูกผักหมากไม้อยู่ใกล้เขา
บัดนี้เปิ่นของเราเขาเป็นเสี่ย
มีโรงงานผลไม้ดองนามซองเทีย
มักชวนเราถองเบียร์เป็นประจำ

ถามถึงนายว่ายาหยีมีกี่คน
เราก็ด้นเดาดะกะอย่างต่ำ
ว่าหนึ่งนั้นแน่แท้แกแฮนซัม
เป็นไงคำเราถูกใกล้ไหมเล่าเกลอ

ส่วนสมศรีคนที่ใจมีให้นาย
ตั้งมากมายนายเคยปลื้มลืมแล้วเหรอ
เพิ่งแต่งงานกลัวจะแก่แต่ใจเธอ
ก็ยังคงอยากพบเจอเพื่อปลอบใจ

นายอยู่เมืองบางกอกก็ออกดี
กันดูข่าวทางทีวีตอนปีใหม่
เศรษฐกิจขาขึ้นรื่นฤทัย
ซื้อแล้วขายหุ้นทำกำไรงาม

เมืองโสภาอ่าโอ่ใหญ่โตขึ้น
แต่กันมึนตรงถนนรถล้นหลาม
ยิ่งฟังข่าวอุบัติเหตุทั่วเขตคาม
ยิ่งกลัวยามอยากเดินทางตอนกลางคืน

กันเคยขี่รถที่ บ.ข.ส.
ฟังคนขับคุยแล้วก็ตกใจตื่น
คนเดียวขับจากเมื่อวานยันมะรืน
เขาแข็งขืนตาขยับปนหลับใน

มิน่าเล่าเมืองเราจึงมีเลข
เป็นหลักร้อยในแบบเบรกหาอยู่ไม่
รณรงค์ตรงจุดหรือตรงใจ
จะพูดไปก็เข้ากรอบอีหรอบเดียว

คือคนเรามักได้มักง่ายด้วย
คนอื่นซ-ย คนอื่นเสียเฮียไม่เกี่ยว
มันประกอบเข้าด้วยกันพันเป็นเกลียว
ปีนี้กันไม่กล้าเที่ยวที่ไหนเลย

ก็ไปทุ่งไปนาไปป่าเขา
ดูเรือกสวนนาเราแหละเกลอเอ๋ย
ดีใจตรงคงไมตรีดีเหมือนเคย
เออขอเปรยไว้เล่นเล่นเป็นแนวทาง

ปีหน้าจะหยุดเหงาอย่างเขาเพื่อน
อยากมีเหย้ามีเรือนเหมือนพวกบ้าง
แล้วจะส่งการ์ดมากับเวปกลาง
พร้อมแนบไฟล์ใบหน้านางเมื่อวางใจ

เอาล่ะนะวันนี้มีแต่ฝอย
วันพรุ่งนี้จึงค่อยพบกันใหม่
แต่อย่าคาดหวังเพิ่นจนเกินไป
มีหัวใจคิดถึงเพี่ยน จึงเขียนมา				
15 พฤษภาคม 2547 14:44 น.

ฝันต่างวัน

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

ถนนทรายกะได้ไม่เกินวา
เหมือนบีบเล็กเข้ามาแคบกว่าเก่า
สองข้างทางเป็นทิวซ้อนไม้ซ่อนเงา
ตะวันจวนลับเหลี่ยมเขาลงมากแล้ว

ยิ่งสาวเท้ายิ่งห่างไกลยิ่งไม่ทัน
ยิ่งร้องลั่นยิ่งทำให้หัวใจแป้ว
ว่าโอ้หนอรอได้ไหมใยรีบแจว
หรือไม่รักลูกแก้วจึงจ้ำไกล

ทางข้างหน้าดูเปลี่ยวเหงาสีเทาทึม
สองข้างทางรกครึ้มพุ่มไม้ไหว
โค้งข้างหน้าตีบแคบแบบบีบใจ
ไม่ก้าวไปคงคลาดกันหวั่นเหลือเกิน


แม่ครับรอด้วย..


ไร้เสียงขานหวั่นไหวหัวใจเหลือ
ยิ่งหวาดเมื่อสืบเท้าตามจะข้ามห้วย
สะพานผุไม้พังลงใจงงงวย
จะตามแม่ข้ามไปด้วยวิธีใด

เหลียวหาแม่ทางไหนก็ไม่เห็น
ห้วยนั้นลึกใช่เล่นทั้งไกลใกล้
ก้าวเท้าออกบอกแต่เท้าไม่ก้าวไป
สายน้ำใดรินจากตาแสนอาดูร


ฝันร้ายนั้นยังสนิทเหมือนติดตา
สิบกว่าปีผ่านมาหาได้สูญ
จากใจไม่ทั้งใจเดิมเหงาเพิ่มพูน
ความน้อยใจครั้งกระนู้นยังเข่นใจ

----------------------------------

ผมไม่เคยบอกความรู้สึกนี้กับแม่เลย

มันค้างคาอยู่ในใจตั้งแต่วัยเยาว์

ผมรู้ชัดแจ้งในใจเสมอ ว่า

แม่ คือผู้หญิงที่ผมรักที่สุด

ผม ห่วงแม่

ผม หวงแม่

นั่นเป็นความรู้สึกที่ระคนกันอยู่ทุกวัน



ในค่ำคืนที่หลับไปกับอารมณ์เหงา

ผมฝันว่าเงยหน้าขึ้นจากโลก

เห็นแม่ก้าวเท้าช้า ๆ และห่างไกลจากผมออกไป

เบื้องหน้านั้นสว่างนวล

และชื่นเย็น

เสียงอ่อนโยนที่ผมได้ยิน

คุ้นเคยเหมือนกระซิบอยู่ใกล้ใกล้


คำของแม่ ช้า ชัด และแจ่มแล้ว
ว่า ลูกจะช้าอยู่นานแค่ไหน
และแม่ก็มิเคยจากลูกไป
เพียงแต่อยู่คนละฝั่งใจที่ใครใครก็ตกจม

สำหรับหัวใจที่โหยหาแต่ความใยดี
และหวังให้มีความอาทรหุ้มห่ม
นั่นเป็นธรรมดาอย่าเคืองขม
ไม่ใช่ของง่ายที่จะปล่อยวาง

ความรักแน่นอนย่อมหวงห่วง
แต่บ่วงนี้ก็ดีอยู่บ้าง
ตรงที่ทำให้รู้จักจุดหมายปลายทาง
ลาก่อนขอให้ลูกก้าวย่างต่อไป


ตื่นมาแล้วยังเป็นสุขอยู่เหงาเหงา
ตลกจริงไอ้เรามันแบบไหน
โตจนป่านนี้ยังอ่อนการทำใจ
หัวเราะขื่นขื่นแล้วเตรียมตัวออกไปทำงาน .				
15 พฤษภาคม 2547 10:41 น.

...ที่สุดในโลก

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


เรียมเหลือทนแล้วนั่นเห็นจันทร์ฉาย
ในเงาแดดเพลางายหมายเริงฉันท์
เรียงวลีซ้อนลีลามากำนัล
เพื่อเติมวันเขลาท้อต่อเดือนดาว

หนาวลมร้อนอ่อนโยนยามราตรี
ดาริกลี้ดวงตะวันอันเหน็บหนาว
เกล็ดน้ำค้างพร่างแพรวจนแวววาว
ยลเยี่ยงดาวพรูกล่นบนเวิ้งดิน

เก็บเยื่อใจใส่ขันหมายปันแบ่ง
ใครหมดแรงเพราะถูกโกงอย่างตงฉิน

เฮ้อ.......




ผมทำไม่ได้หรอกครับ

ผมตั้งใจจะหลอกคุณ				
15 พฤษภาคม 2547 06:13 น.

คุณภาพชีวิตของประชาชน

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ฟ้าสว่างทางตะวันออก
ตะวันถอกออกจากหลืบ
ความฝันเหลือหลายคืบ
ทบความจริงเป็นเงาจาง


ประชาชนเริ่มลืมตา
บางคนล้าอ้าปากค้าง
หาวเดือนหาวดาวบ้าง
ราวอิ่มท้องมาทั้งคืน


เมื่อวานโซแสนโซ
แต่ก็โก้แบบฝืนฝืน
มีกินแบบยั่งยืน
คือภาพฝันอันเหงาเหงา


ภาพในโฆษณา
เหมือนกับว่าประเทศเรา
รวยล้นคนหายเศร้า


ความจริงเรากินข้าวกับเกลือ



น้ำปลาขวดละ  3.50 บาท คืนขวด
ซ๊อสพริกปนมันสำปะหลังขวดละ  12 .00  บาท 
ปลาทูเค็มไส้เปื่อยตัวละ 2.00 บาท
ปลาหมึกกล้วยขนาดเท่าหัวแม่มือตัวละ 1.00 บาท
น้ำมันพืชขวดเล็ก ขวดละ 15.00 บาท
กาแฟกระป๋อง กระป๋องละ 10.00  บาท
ไวน์กระเจี๊ยบซ่า ขวดละ  30 .00 บาท
มือถือ เครื่องละ  3,700 .00 บาท
ค่าบัตรเติมเงิน 300.00 บาท


รายได้ล่ะ

ขายข้าวเอาอีหนู

ข้าว ก.ก.ละทำไม  ( อ้าวไหงถามอย่างนั้น)

เพราะมันถูกเสียจนไม่อยากถามว่าราคาเท่าไหร่


นี่แหละประเทศทัย

ใหญ่ขึ้นมาบักเขือขื่น


......................................................				
14 พฤษภาคม 2547 21:56 น.

ขอเวลาให้ตัวเองบ้าง ภาคเต็ม

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ขอเวลาให้ตนเองบ้าง
หนทางที่ผ่านไปให้แต่เขา
จริงอยู่บางเทื่อก็เพื่อเรา
แต่ครั้นนานเข้า-เราคือใคร

หันหน้าหาวัดซักวัน
หรืออาจนานกว่านั้นก็ได้
ฟังธรรมสงบรำงับจับใจ
ปฏิบัติธรรมทำให้ใจดี

ที่วัดมีลานปูฟาง
ร่มไม้ก็ใหญ่กว้างเต็มที่
ปักกลดกลางป่าช้า-อาเข้าที
สหธรรมิกก็มีพอประมาณ

ขบฉันวันละมือคือวัตร
อยู่สงัดเพื่อกระทำกัมมัฏฐาน
นั่งยืนเดินนอนตามกาล
มีสติเชี่ยวชาญได้การเชียว

สัมผัสรสธรรมฉ่ำใจ
สมาธิ-เชื่อไหมเพิ่มแรงเรี่ยว
ให้ลุยงานสานชีวีดีทีเดียว
บ่ถดถอยบนทางเปลี่ยวเดียวดาย

สิ่งเหล่านี้สัมผัสรู้เฉพาะตน
บางคนสงบเย็นง้ายง่าย
ได้เห็นแล้วก็ชื่นชมเพื่อนหญิงชาย
เข้าวัดแล้วสบาย
อยากให้ลอง . 


------------------------------------

      กลับจากวัดผมคงวัตรบางอย่างไว้
วัตรที่ใจบ่สับสนบ่หม่นหมอง
ทำงานใดใส่ใจกรำตามทำนอง
บ่ร่ำร้องว่าหน่าย-เมื่อย-แกมเฉื่อยชา

       ทำงานมันสุขล้นเห็นผลงาน
งานที่ชอบนั้นหอมหวานเป็นนักหนา
ถึงไม่ชอบก็กอปรการชาญวิชชา
สบายดีธรรมดาไม่ล้าเลย

      งานเสร็จได้พักผ่อนหย่อนกายใจ
ยิ่งสงบขึ้นไปใหญ่นี่ใจเอ๋ย
ธรรมคืองานงานคือธรรมฉ่ำจริงเอย
ใครที่เคยศึกษาธรรม

คงฉ่ำเย็น


ใช่ไหมครับ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์