16 พฤศจิกายน 2547 00:06 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. เดือนลาบ่นานก็คืน
เต็มตื้นยืนยลยวงขวัญ
แสงนวลอวลจิตโดยจันทร์
เหนี่ยวถ้อยรำพันมิเพลา
2. เริงจันทร์ ณ คืนวันเพ็ญ
ได้เห็นบรรยากาศเก่า
ที่นี่เคยมีสองเรา
ร้างเศร้าเอื้อใยไมตรี
3. จากคืนเพ็ญจันทร์ค่อยลา
โดยเสี้ยวบาดฟ้าริบหรี่
ดาวล้อมหากเร้นโดยดี
ด้วยมีหวังวารคืนเริง
14 พฤศจิกายน 2547 06:29 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. ธุลีรำพัน
เพ้อพร่ำ
ก่อนเปลี่ยนรูป
2. ธุลีแปลงรูป
สงบเงียบ
รอเวลา
3. ก็หมุนวนอยู่
ก็เวียนวนอีก
ก็เท่านั้น
4. แล้วไหนความวิเศษ
13 พฤศจิกายน 2547 20:48 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
ผมอาจคิดเหมือนคุณ
ผมอาจเห็นคล้ายคุณ
ผมอาจมองแบบคุณ
ผมอาจพบในแบบคุณ
ผมอาจคิดอย่างคุณ
ผมอาจเห็นตามคุณ
ผมอาจนิยมคุณ
ผมอาจอยากเป็นแบบคุณ
ผมไม่ใช่คุณ
ผมต่างจากคุณ
และคุณก็ไม่ใช่ผม
แท้จริงคุณไม่เหมือนใคร
และที่แท้คุณไม่ต้องการให้ใครเทียมคุณ
11 พฤศจิกายน 2547 16:37 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1.เหลียวขวา
บรือ....ขนหัวจะลุก
เห็นซากกองกระดูก ... ดื่นดาษ
2.แลซ้าย
เหวอ..กลัวหัวจะขาด
ใครบ่ยอมเป็นทาส ...ถูกเนรเทศ
3.รากไม้
อืม...ฝนเป็นยาได้
สรรพคุณเอื้อคน... ถ้วนขอบเขต
4.รากแมว
โอ... เมื่อถึงวันลาแล้ว
เห็นแต่ทาสแรงงาน ...เกลื่อนประเทศ
5.-
11 พฤศจิกายน 2547 05:35 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. เหล่ ซ้าย
ประชาชนทั้งหลาย ติดตังในกรงขังแบบผู้ขอ
ก้อนเงิน - แท้เศษทาน ทดการรอ
กี่ทศวรรษ จึงพอจะมีกิน
2. เหลียวขวา
ชนชั้นนำว่า ด้วยถ้อยคำของผู้เสกศิลป์
แปลงทุน - แท้หนุนกี่คนบนแผ่นดิน
อีกกี่ศตวรรษ จึงจะยินคำว่าพอ
3. ทุกรากทั่วหล้า
อยู่ใต้อาณัติข้ากับเหล่าพลหงอยหงอ
งานคือแจกภาษีเพื่อที่จะครองต่อ
ใครเห็นต่าง ใครขวางก็เป็นต้องตาย
4. เหลียวซ้ายแลขวา
เห็นอยู่ก็เห็นอยู่ว่าขวัญจะหาย
คนอีกเท่าไหร่ชนอีกเท่าใดจะดับวาย
สนองตัณหานายคนหนึ่งคนนั้น
5.-