27 มิถุนายน 2549 22:27 น.

::คำของกวีเยียวยาหัวใจข้าพเจ้า::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



1.  ผมรู้ว่า..หัวใจของผมโหว่แหว่งมาแต่เด็ก
     หลายคน เช่น แม่  พี่  เพื่อน และคนอื่น   พยายามเติมบางสิ่งลงไป
     แม้ตัวผมเองก็พยายาม เติมบางอย่างลงไป
     ทั้งหมดนั้น   ดูเหมือนมันไหลเรี่ย  หาขังอยู่ในใจไม่


2.   วันหนึ่ง ผมได้พบหนังสือรวมกวีนิพนธ์
      ผมอ่านทวนซ้ำอยู่ ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
      คำของกวีนี่ช่างงามและมีพลังแท้
      และแบบของฉันทลักษณ์ที่กวีใช้ก็ช่างเรียบง่ายหากวิเศษเสียจริงๆ

      
      อา..
      ถ้อยคำของกวีนี่เอง
      ที่เยียวยาหัวใจของผม
      ให้สามารถเติมความสุขสงบอิ่มเต็มได้

      ไม่เรี่ยไหลหล่นทิ้งอย่างแต่ก่อน



      


      นับแต่นั้นเป็นต้นมา
      ผมมักใช้เวลาค้นหาหนังสือรวมกวีนิพนธ์ตามแผง
      และตามชั้นหนังสือในร้านหนังสือทุกครั้งที่แวะเข้าเมือง


       แต่หนังสือกวีนิพนธ์นี่หายากจริงแท้


       เล่มใหม่ ๆ  แทบไม่มีให้หยิบเอาเสียเลย

       
       หรือว่าทุกวันนี้
       กวีหันไปทำอย่างอื่นกันหมดแล้ว



      
      				
25 มิถุนายน 2549 06:39 น.

::จักจั่นขยับปีกเสียงอี๊กกรีด::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ยินเสียงเธอขยับปีกอี๊กอี๊กหวีด
ฟังเสียงกรีดมโนนึกรู้สึกหงอย
ค่ำนี้ร้อนรุมรมถมเลื่อนลอย
ใครบ้างคอยฝนมาละล้าละลัง

จะปักดำทำนาไหนฟ้าฝน
จะวิดน้ำก็หาหนห่อนเห็นหลัง
ชะโงกไหนชะแง้หน้าพะว้าพะวัง
นึกนึกก็หน่ายชังโชคชาตา

หวีดเข้าไปเจ้าหวีดกรีดเสียงข่ม
ปีที่แล้วนาล่มบ่เป็นท่า
เลี้ยงไว้ก็ไม่อยู่เลยปูปลา
ปีนี้น้ำทำนาหาบมี

ก็เอาเลยบ่ต้องปลูกบ่ต้องกิน
เพียงเรามีที่ดินเสียภาษี
ประเทศเราก็โตใหญ่ไปได้ดี
ดูตัวเลขจีดีพีคงเพลิดเพลิน

ฟังเสียงเธอขยับปีกอี๊กอี๊กหวีด
ฟังเสียงกรีดมโนนึกรู้สึกเขิน
ประเทศเราก้าวล้ำเห็นจำเริญ
แต่ประชาโซเดินทั่วดินแดน
				
23 มิถุนายน 2549 22:54 น.

::แหม..เรไร::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



เร้นพง  ดงตื้อ  ฤาเรไร
จึงบ่กล่อม   หัวใจ  ใครคนเหงา
ก่อนนี้ทุกข์   แม้กระชั้น  ก็บรรเทา
เพราะเพลงเจ้า  ปลอบปลุก  ประโลมทรวง

ค่ำนี้  มืดดำ   จริงเรไร
นู่นไหน  หนแห่ง  วาวแสงสรวง
ก็นี่นั่น  หลากแหล่ง  แสงล่อลวง
คอยหลอนดวงแดด่าวระดาษดิน

ร้องเพลง  กล่อมเพื่อน  หน่อยได้ไหม
เฉไฉ   เพื่อนจะหา  ว่าเหี้ยมหิน
เพลงทุกข์  เพลงล้า  เพลงชาชิน
บ่ใช่อัน  อยากยิน  ดอกเรไร

เพื่อนร้อง   เราจะเล่น  ดนตรีรับ
แคนขลุ่ย   จะขยับ  ด้วยลายไหล
พิณซอ   ออเออ  เพ้อคลอไป
กล่อมใจ   มิให้ล้า  คราวราตรี


ดาริก   เคยราย   ก็กลายเลือน
เสี้ยวเดือน   เคยฉาย ก็หายหนี
เมฆหม่นปิดฟ้า  คลุมธานี
บ่มี อันหมาย  อันเคยมอง


จะแกล้ง กระไร  เล่าเรไร
โน่นเพื่อน  ร่ำไห้หัวใจหมอง
อ้อมแขน  ว่ายากหามาตะกอง
ง่ายกว่าขอ   เรไรร้อง  คืนร้าวราน

				
10 มิถุนายน 2549 22:55 น.

::ไผ่ออดกอ::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  ฟ้าขาวแจ้ง

     เรียมคลายหม่นทรวงหมอง

     เริงลำพองทรวงหลาย

     บ่หน่ายฟังลมอ้อน


2.  แสนสะออนเดือนเอื้อ

     ให้ฝันเฟือฟากฝั่ง

     คะนึงหลังก่อนก้ำ

     ฟังคำเจ้าจ่ายผญา


3.  ในอุราริกร่วน

     ซอไผ่ผวนคร่าวคำ    ( ค่ำ )

     ปานลำนำออดน้อง

     อยากโอบเน้น บ หนี


4.   เรียมภักดีบ่กระด้าง
   
      เพราะรักนางนั่นแน  (แน่)
  
      หัวใจเรียมสิทุกข์แท้

      หากนวลน้องหน่ายแหนง

5.   แสงจันทร์จ้า

      แยงหลังคาบ้านเพิน   ( เพิ่น )

      ฝากซอไผ่ไปเอ่ยเอิ้น

      นามน้อง  อ้ายคิดนำ


      แท้เดอ..

     
      

     				
3 มิถุนายน 2549 21:49 น.

::คลื่น..เขื่อง::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



      ครืนคลื่นครืนคลั่งเค้น..........ทรวงเขลา
      เคลื่อนขู่ดุจดูเบา............เพื่อนพ้อง
      โครมโครมข่มลำเนา.....แนวถิ่น  เนืองแล
      ยินอยู่ดาลพี่ร้อง....ว่าคล้ายคะเนงแหนง

       ครืนแรงคำช่างคล้าย............นำขม
       ยินยิ่งระทมตรม.............เหนี่ยวไข้
       กระตุกต่อมอารมณ์......พาขื่น   
       ชนหมื่นยินหม่นไห้....ห่อนเอื้ออันหา

                    
      ฯ

      				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์