15 เมษายน 2547 00:01 น.

ลูกยา

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


หลับเถิดลูกยาในราตรี
เจ้าเหนื่อยล้ากับหน้าที่ดูทุกข์เศร้า
พ่อเห็นลูกเหนื่อยท้อบ่บรรเทา
ได้แต่เอาใจช่วยด้วยหัวใจ

พ่อเรียนต่ำทำนาประสายาก
แม้ลำบากบ่บ่นพ่อทนได้
อยากให้ลูกเล่าเรียนแล้วเป็นไท
เติบโตมีชีวิตใหม่ไม่โง่งัว

แสวงหาภูมิปัญญาบรรดามี
ก่อกรรมดีบ่ตกต่ำลงทำชั่ว
ครองชีวิตชาญฉลาดบ่ขลาดกลัว
มีความคิดเป็นของตัวบ่มัวตรม

ลูกอดทนบากบั่นในวันนี้
ย่อมจะมีวันหัวเราะอย่างเหมาะสม
มิใช่หนอนอย่าหลงว่ายฟายอาจม
เป็นมนุษย์ควรชื่นชมคุณความดี

หลับเสียเถิดลูกแก้วแล้วค่อยลุก
เอาบทเรียนชีวิตปลุกตนทุกที่
รู้จักโลกแจ่มกระจ่างสร้างชีวี
พ่อต่ำต้อยคนนี้เป็นแรงใจ .				
14 เมษายน 2547 06:48 น.

รัฐมนเอก

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



มาจะกล่าวบทไป
มีเด็กน้อยหัวใสเกิดในป่า
กะโหลกหัวของเขาเท่ากะลา
แต่ก้นลีบเหมือนหางปลาก็บ่ปาน

น้องชายชื่อสะกดชัดรัฐมนโท
อ้ายจึงมีชื่อโก้กว่าชาวบ้าน
ทั้งคู่ช่วยพ่อประจำคือทำงาน
ในท้องนาบ่ยั่นความยากเย็น

นาสิบไร่ได้ข้าวซาวกระบุง
ต้มและหุงนึ่งจี่เท่าที่เห็น
ฉีกปลาแดกแนมพริกแดงเพิ่มแรงเอ็น
ไว้ขุดก่นขนเลนเอาค่าเรียน

ใครเรียกจ้างทำอะไรก็ไม่ขัด
กินประหยัดแบ่งเจียดกระเบียดกระเสียร
กางเกงขาดตาบดากใจพากเพียร
บางคราวครูแวะเวียนมาเยียนนา

รัฐมนเอกเป็นอะไรจึงหายต๋อม
เพื่อทั้งห้องมาห้อมล้อมอยู่พร้อมหน้า
พอครูรู้ว่าหนูไข้ไม่มียา
ครูก็แจ้นหาพารามาช่วยเยียว

เห็นบ้านหลังซอมซ่อครูก็อึ้ง
แมลงวันบินหึ่งหัวแดงเขียว
หม้อก้นบุบจานเบี้ยวบิดข้าวนิดเดียว
ปลาร้าแห้งกะแด้งเหลียวเหมือนดินดำ

พ่อของรัฐมนโทว่าโตมัน (โต=ตัว)
ไปวิดปลาทั้งวันใกล้น้ำก่ำ
ได้ปลาซิวปลาแปบแมงละงำ
กับผักบุ้งอีกกำเอาทำแกง

ตกค่ำมาเป็นไข้ทั้งไอฮาก
มานอนซมบ่นปากราวกับแกล้ง
ถ้อยคำมันที่เพ้อพกตลกแรง
ลองฟังเถิดจะแสลงในหัวใจ

มันว่ามันเรียนจบจากฮาวาร์ด
ฉันล่ะงงแกมประหลาดขี้จะไหล
มันบอกมันเก่งล้นกว่าคนใด
มันมีไอคิวดีสิบสี่ซาว

ดูสีหน้าท่าทีถูกผีสิง
ตาของมันกลอกกลิ้งเดี๋ยวดำขาว
แปลกที่มันเพ้อพร่ำเป็นคำยาว
ฟังดูเถิดเรื่องราวมันพ่นไฟ

นี่นะฉันจะบอกให้ไอ้เหี่ยวเอ๋ย
จะพากันทำเฉยไปถึงไหน
จะแร้นแค้นจนเขลาไปเท่าใด
จึงลืมตาขึ้นได้ชีวิตดี

ขยับมาใกล้ใกล้ข้าจะบอก
ข้าไม่กัดเจ้าดอกบ่แม่นผี
แต่เจ้าโง่บอกไปก็ไม่มี
ทางที่เจ้าจะได้ดีขึ้นกว่าเดิม..

เพื่อนที่รายรอบเสื่อแต่เมื่อเช้า
ได้ยินคำของเขาหาฮึกเหิม-
ไม่ ตลกมันตลกลกซกเลิมเซิม
ไอ้เอกมันไม่เหมือนเดิมได้เสียแล้ว

ครูและเพื่อนฝากของกับน้องเขา
สีหน้าเศร้าคิดไปหัวใจแป้ว
เอกมันเป็นคนดีเคยมีแวว
จากนี้ไปใครจะแซวแล้วแหย่เย้า

รัฐมนเอกให้น้องชายไปเอาสอ
กับสมุด สปช.ในซอกเสา
ข้าจะเขียนโรดแม็ปอย่าดูเบา
เสร็จแล้วเองจงเอาไปล็อคอิน

ให้ถึงมือนายกรัฐมนตรี
พัฒนาประเทศนี้ปลดหนี้สิน
ให้คนจนข้นแค้นทั่วแดนดิน
ได้ลืมตาอ้าปากกินถ้วนหน้ากัน

น้องเอาสอกับสมุดมายื่นให้
เอกก็หยิบมาถือไว้ช่วงสั้นสั้น
แล้วเหวี่ยงวืดออกไปโทใจสั่น
พี่จะทำอะไรกันฉันตกใจ

เอกว่าถึงส่งไปก็ไลฟ์บอย
คนรอบข้างท่านน้อยเสียที่ไหน
จะดูเบาว่าเขาป่าเขียนมาใย
คงรุมทึ้งไม่ถึงไหนใช่แน่เชียว

งั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน
เจ็ดวันอาบน้ำหนเดียว
สาวสาวก็ไม่แลเหลียว
อาบน้ำหนเดียวอยู่ได้เจ็ดวัน

ก็สมมุติว่าข้าเป็นนายก
ข้าจะออกพอรอบกให้สะบั้น
กระจายหุ้นให้กับชนทุกชั้น
ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นใคร

ใครมีปากมีตูดให้รูดการ์ด
เป็นหุ้นส่วนแห่งชาติให้จงได้
กระจายการบริโภคให้ลึกไป
ถึงรากหญ้าหรือลึกใหญ่ยิ่งกว่านั้น

ผลกำไรจากการค้ามหาชน
เอาออกแบ่งปันผลบ่ผกผัน
แผ่นดินรกร้างเปล่าจะเอาปัน
ให้ผู้คนทุกชั้นได้ทำกิน

ทำกินใช้ดินแต่ส่วนน้อย
ที่ดินเหลือเป็นร้อยในทุกถิ่น
ผลิตสินค้าขายในแดนดิน
คนผลิต-คนขาย-กินคือคนเดียว

อ้ายหนูกินข้าวเถิด นี่เที่ยงแล้ว
กินซักคำจ้ำแจ่วแล้วแรงเรี่ยว-
จะกลับมามัวชักช้าจะซีดเซียว
มัวแต่เพ้ออยู่คนเดียวเดี๋ยวขาดใจ

อะไรกันทั่นพ่อ ใยล้อเล่น
พ่อก็เห็นลูกไม่ดื้อหรือไม่ใช่
หากกินข้าวแล้วความคิดหรือจะไป
อา..ทางด่วนประเทศไทยอยู่นี่แล้ว

เมื่อคาดหวังไม่ได้ก็สายหัว
เรียกโทมาเช็ดตัวให้พี่แก้ว
พ่อของเอกลงบ้านเสาะมันแกว
ขุดหัวกลอยตามแนวของดอนดง

ครูของเอกสอนเลขและอังกฤษ
รู้จักดีว่าศิษย์ขี้ลืมหลง
มีอาการบ๊องบ๊องบวกช่างงง
บางครั้งคิดเชื่อมโยงสุดยอกย้อน

เอกไม่ค่อยออกไปกินข้าวเที่ยง
แอบหลบหลบเลี่ยงเลี่ยงเป็นเยี่ยงหนอน
อ่านหนังสือดะได้ไม่ง่วงนอน
คิดขึ้นมาอาทรครูร้อนใจ

เธอคิดว่าลูกศิษย์ประสาทกลับ
หากกินยานอนหลับแล้วตื่นใหม่
อาจเป็นเอกคนดีดังเดิมไว
คิดหลายข้ออีกต่อไปก็ปล่อยวาง

เขาเกิดมาเป็นคนโง่จนเจ็บ
โดนบีบขมับทับเล็บโดนหลายอย่าง
จากมืออื่นที่ยื่นมือมาทุกทาง
ไม่โบยตีก็ฉีกร่างกินตับไต

ประชาชนจนโซโงหัวไม่ขึ้น
แค่คิดจะขัดขืนก็บ้าใบ้
อยากเอาเปรียบก็อ้างเฝือเพื่อชาติไทย
ครั้นได้เปรียบก็ปล่อยไปตามเวรกรรม

รัฐมนเอกกับรัฐมนโท
ถึงแม้นคิดใหญ่โตก็ดูต่ำ
ธาตุชื่อเห็นแก่ตัวมันครอบงำ
หัวใจส่วนลึกล้ำของคนแล้ว

โรดแม็ปฉบับรัฐมนเอก
เมื่อได้ฟังวังเวงวิเวกแหวว
คลื่นหัวใจเด็กบ้านป่าถึงคราแจว
ไข้ฉี่หนูได้ดับแววเด็กฮาร์ดวา .


&				
13 เมษายน 2547 18:08 น.

:::คำขอของกิ้งกือ:::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ขอคำกรองสดใสหลายหลายบท
ที่คุณจรดออกจากหัวใจใส
วลีอันคล้องจองขอคล้องใจ
เป็นมาลัยแด่บรรดาประชาชน

ที่ร้องขอก็เพราะความอัตคัด
โลกเราเคลื่อนเร็วจัดเหวี่ยงทุกข์ข้น
ใส่ผองเพื่อนทุกหมู่ทุกผู้คน
เห็นแต่ความร้อนรนบ่ผ่อนคลาย

กว่าความคิดของคนจะตกผลึก
เป็นแก้วงามตามนึกมิใช่ง่าย
กรวดเม็ดกร้าวกระด้างกระดากมีมากมาย
ในทะเลน้ำลายอันเกรอะกรัง

คำของฉันโหลโหล่โคกระบือ
แม้หัวใจใส่ซื่อไม่งกงั่ง
ก็ไม่อาจเด่นดีมีกำลัง
จึงร้องขอเพื่อต่อตั้งพลังใจ

หมายสืบเท้ามั่นคงคงความเชื่อ
มีความฝันเหลือเฟือเพื่อวันใหม่
เห็นปลายทางทอดยาวพร้อมก้าวไป
กล้าเผชิญความแร้นไร้ในเมืองคน

ดูเถิดแววตาฉันกล้าคม
แม้ผ่านการลุกล้มมาหลากหน
ด้วยถ้อยคำของกวีมีแรงดล
ฉันจึงกลายเป็นคนมีแรงใจ

ขอบทกวีสดใสหลายหลายบท
ที่คุณจรดจารจากหัวใจใส
ร้อยวลีคล้องจองไปคล้องใจ
เป็นมาลัยเชื่อมศรัทธามหาชน				
13 เมษายน 2547 00:03 น.

อาอีอาอือ กะลำชวาญ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


อาอีอาอือ   กะลำชวาญ
นักเลงกะหล่ำ  เมืองสามหมอก
---------------------------------------
	 ต้องหยุดรถลงกลางไร่กะหล่ำ
เพราะควันทำ แทบสำลักโอยหนักหัว
ถ้าไม่หยุดเห็นท่าจะน่ากลัว
อุณหภูมิชี้ตัวเลขสีแดง

	คนขับรถรีบแจ ดูแลรถ
บางคนหมดลายเฉยเคยกำแหง
ใบหน้าเซียวเหลียวดูดินเหมือนสิ้นแรง
ไม่ใช่แกล้งที่เราเห็นคือเป็นลม


	แต่อีกกลิ่น ก็แรงจากแปลงผัก
แน่ใจนักก็กะหล่ำมันงามสม
นี่นั่นโน่นร้อยเข่งเขาเร่งพรม
สารเคมี หมักหมม แบบงมงาย

	คุณอาอี    แกชำนาญ   ในการสวน
ยาฉีดล้วน    แบบแรง   เซลล์ฯแบ่งขาย
อาอีอีก     ซื้อยา    มามากมาย
ผสมยา   บ่กลัวตาย  มือฟายเอา

	คุณอาอือ    เก็บเกี่ยว  กะหล่ำกอง
จ้างพ่อแม่   พี่น้อง     มาอีกเก้า
มายกเข่ง  ขนไป   เป็นคิวยาว
สดกับขาว ฟอร์มาลิน-พรมกินดี!!!?

	หยุดรถ  ลงกลาง  ไร่กะหล่ำ
เห็นถังยา  คลาคล่ำ   ทุกเถื่อนที่
กะโหลกไขว้ปลิ้นตา   ออกท่าที
ว่าอาอี  เกินผี   แล้วครึ่งตัว

	อีอยากเอ่ย  ถ้อยคำ  ก็อ้ำอึ้ง
อัมพาต   มาถึง    เกือบครึ่งหัว
คงไม่พ้น   คืนค่ำ   อันดำมัว
อาอือ-อั๊ว  อง..ององ.. องอ้องอาย
---------------------------------------------------

	เมื่อหม้อน้ำรถเย็นเห็นทางจร
หลายคนบอกจงไปก่อนที่จะหน่าย
คำอาอือยังติดหูบ่รู้วาย
ปลูกก็ตายกินก็ม่องลองพิฯณา .

	
เย่  !!!!				
12 เมษายน 2547 16:46 น.

ก้องสยาม สิทธิราช

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

(อย่าน้อยใจเลย)

เช็ดน้ำตาเถิดน้องอย่าร้องไห้
เขาจากไปดีแล้วล่ะแก้วขวัญ
เขามาต่อเติมใจให้คืนวัน
เราได้ยิ้มสุขกันวันเขายัง

	แม้มาจากน้ำครำอันต่ำต้อย
จากดงด้อยคนด่าว่าล้าหลัง
แม้สกุลรุนชาติขาดธนัง
คนเขาชังด่าทอราวขอทาน

	เขาไม่เคยฉ้อฉกโกหกโลก
แม้สุดโศกแสบไส้-ใจสะอ้าน
กินเห็ดหอยปูปลามานมนาน
บ่กินเหล็กปูนปานพวกชาญโกง

	 เขาไม่เคย มักได้ กระหายกาม
รักศีล ข้อสาม เกือบสุดโต่ง
ศีลธรรม ครองตัว ทุกชั่วโมง
ธรรมโยง ครองศรัทธา ทุกนาที

	เช็ดน้ำตาเถิดน้องหยุดร้องไห้
เขาจากไปเราโศกหมองทั้งน้องพี่
เทิดศรัทธา  นบคุณงาม  กราบคุณความดี
อันเขามี   ต่อโลกหล้า อย่าน้อยใจ .

-----------------------------------------------------
รำลึก  ก้องสยาม   สิทธิราช    
           ทุกคนรักเธอ
ครูเพิ่งรู้ว่า เธอจากพวกเราไป
----------------------------------------------------				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์