18 มิถุนายน 2547 05:38 น.

เยือนมิตร -ต่อ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์




เห็นภูเขาทรงโต๊ะรูปหัวใจ
เชื่อว่าไม่หลงแน่แล้วแกเอ๋ย
ทางเส้นใหม่แม้แปลกใจไม่คุ้นเคย
ก็บ่เลยหลงทางกลางพนา

	เราอ้อมเขาเข้าหลังภูสู่บ้านเพื่อน
ได้เอ่ยเอื้อนว่านี่ไงที่ใฝ่หา
เรือนยอดไม้ยังเขียวใสเต็มนัยน์ตา
หมอกบางพาเพลินใจในห้วงวัน

	เย็นลมป่าพัดมาต้องผิวกาย
ได้ผ่อนคลายเติมใจเติมไฟฝัน
หอมไม้ป่าถวิลหามานานครัน
อยากยลจันทร์อาบใจเหลือใจแล้ว

	จำไม่เลือนมาเยือนนายหนก่อนนี้
ภาพพงพีพิมพ์ทรวงรัตน์ชัดแจ่มแจ๋ว
ถวิลคืนมาเยือนกันเติมฝันแพรว
จำใดพิมพ์จิตแล้วบ่ยอมจาง

	บ้านของนายงามง่ายสบายมาก
นอนพื้นฟากหลับง่ายไม่หมองหมาง
ตื่นเต็มตาร่าเริงแลเวิ้งบาง
ที่อยู่กลางดงไกลใกล้ตีนภู

	เสียงน้ำตกจากเขาฟังเอาเพื่อน
กี่ปีเดือนน้ำตกเย็นยังไหลอยู่
มาหนนั้นเพื่อนหญิงชายได้เที่ยวดู
ดำว่ายรู้เย็นซึ้งสนานนาน

-------------------

	โน่นไงเพื่อนออกมารับที่ปากทาง
พากันเดินไปกลางพงไพศาล
ลัดเลาะผาพาเพลินเดินสำราญ
สมกับนานบ่น้อยค่อยย้อนเยือน

	ดีใจได้เจอกับเกลอเก่า
รักของเราบ่ซ่อนภัยบ่ไว้เงื่อน
ตรงและคงรักแท้บ่แชเชือน
ไมตรีเตือนคงตามคุณความดี

	ย้อนกลับมาหนใหม่คืนไพรพฤกษ์
ขอซึมลึกเถิดเพื่อนกับเถื่อนที่
คนมาด้วยก็มุ่งหวังวาดชีวี
เกษมศรีเสมอรสเสมอธรรม

	คู่รักนายเป็นไงบ้างอยู่ข้างนาย
ลูกกี่รายคงน่าชมพ่อคมขำ
กันตัวเตี้ยม่อต้อพ่อตัวดำ
ลูกคมคล้ำก็ว่าดีสีนี้แรง

	อยากมาอยู่กับเพื่อนก็ห่วงเพิ่น
จะเหนื่อยเกินยามหนีจากสีแสง
เธอคุ้นชินป่าปูนกับผาแปลง
เธอคือแรงใจกันเคียงปานเงา

	ยังมิใช่ฮันนี่ฯแต่มีมูล
มาเยือนไพรเพิ่มพูนฝันวันเก่า
มาต่อรักภักดีเรามีเรา
มาลบเศร้าจากใจผ่อนคลายลง
	
---------------------------------------------

	มิตรภาพหล่อเลี้ยงหทัยสหาย
ให้หยัดยืนฝืนกายคลายความหลง
ร้าวเมื่อผ่อนร้อนเมื่อเบาได้เนาคง
ในธรรมเย็นสมประสงค์ประสบธรรม

	มาเยือนนายหนนี้หนที่สอง
ชวนพี่น้องมากหน้ามาชื่นฉ่ำ
ฝนปีนี้ก็หวังนักอยากปักดำ
ชวนมาทำนาด้วยมาช่วยนาย

	มวลมิตรหลายคนหนนี้นะ
ผองเพื่อนน่ะบอกไว้ว่าใจหมาย
จะเติมฝันเพื่อข้ามวันอันเปล่าดาย
เป็นหญิงชายค้นหาคุณค่าตน

	นุชนารถ  เนื่องธรรม จำได้ไหม
เพื่อนรุ่นน้องของแกไงใยสับสน
ใช่แล้วนายในภาคฯมีไม่กี่คน
อย่าเล่นกลแกล้งอำทำยียวน

	กันแอบจีบน้องคณะฯนายน่ะกัน
กีดอยู่นั่นกันอยู่เรื่อยเมื่อยทำสวน
ให้ขุดแปลงปลูกมะระเป็นกระบวน
ก่อนจะม้วนท่ากานด้วยงานดิน

	กันบ่ละกันบ่ลดเรี่ยวแรงรัก
กรำงานหนักดุ่มหน้าเหมือนบ้าบิ่น
ชนะใจตนมาจนชาชิน
ชนะนายได้ยุพินมาบูชา


------------------------------------

to be continue				
14 มิถุนายน 2547 06:24 น.

เยือนมิตร

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

( งานยาวชิ้นใหม่ของ ก่อพงษ์)



เห็นภูเขาทรงโต๊ะรูปหัวใจ
เชื่อว่าไม่หลงแน่แล้วแกเอ๋ย
ทางเส้นใหม่แม้แปลกใจไม่คุ้นเคย
ก็บ่เลยหลงทางกลางพนา

	เราอ้อมเขาเข้าหลังภูสู่บ้านเพื่อน
ได้เอ่ยเอื้อนว่านี่ไงที่ใฝ่หา
เรือนยอดไม้ยังเขียวใสเต็มนัยน์ตา
หมอกบางพาเพลินใจในห้วงวัน

	เย็นลมป่าพัดมาต้องผิวกาย
ได้ผ่อนคลายเติมใจเติมไฟฝัน
หอมไม้ป่าถวิลหามานานครัน
อยากยลจันทร์อาบใจเหลือใจแล้ว

	จำไม่เลือนมาเยือนนายหนก่อนนี้
ภาพพงพีพิมพ์ทรวงรัตน์ชัดแจ่มแจ๋ว
ถวิลคืนมาเยือนกันเติมฝันแพรว
จำใดพิมพ์จิตแล้วบ่ยอมจาง

	บ้านของนายงามง่ายสบายมาก
นอนพื้นฟากหลับง่ายไม่หมองหมาง
ตื่นเต็มตาร่าเริงแลเวิ้งบาง
ที่อยู่กลางดงไกลใกล้ตีนภู

	เสียงน้ำตกจากเขาฟังเอาเพื่อน
กี่ปีเดือนน้ำตกเย็นยังไหลอยู่
มาหนนั้นเพื่อนหญิงชายได้เที่ยวดู
ดำว่ายรู้เย็นซึ้งสนานนาน

--------------------

	โน่นไงเพื่อนออกมารับที่ปากทาง
พากันเดินไปกลางพงไพศาล
ลัดเลาะผาพาเพลินเดินสำราญ
สมกับนานบ่น้อยค่อยย้อนเยือน

	ดีใจได้เจอกับเกลอเก่า
รักของเราบ่ซ่อนภัยบ่ไว้เงื่อน
ตรงและคงรักแท้บ่แชเชือน
ไมตรีเตือนคงตามคุณความดี

	ย้อนกลับมาหนใหม่คืนไพรพฤกษ์
ขอซึมลึกเถิดเพื่อนกับเถื่อนที่
คนมาด้วยก็มุ่งหวังวาดชีวี
เกษมศรีเสมอรสเสมอธรรม

	คู่รักนายเป็นไงบ้างอยู่ข้างนาย
ลูกกี่รายคงน่าชมพ่อคมขำ
กันตัวเตี้ยม่อต้อพ่อตัวดำ
ลูกคมคล้ำก็ว่าดีสีนี้แรง

	อยากมาอยู่กับเพื่อนก็ห่วงเพิ่น
จะเหนื่อยเกินยามหนีจากสีแสง
เธอคุ้นชินป่าปูนกับผาแปลง
เธอคือแรงใจกันเคียงปานเงา

	ยังมิใช่ฮันนี่ฯแต่มีมูล
มาเยือนไพรเพิ่มพูนฝันวันเก่า
มาต่อรักต่อชีวีเรามีเรา
มาลบเศร้าจากใจผ่อนคลายลง
	

To be  continue

ตัวละคร  
1.เพีย   คนพาแฟนไปเยี่ยมเพื่อน
2.นุช     แฟนของเพียเป็นเพื่อนรุ่นน้องต่างคณะ
3.กล้า    เพื่อนของเพีย  อยู่บ้านป่าฟากตะวันตกเฉียงเหนือของภูกระดึง จ.เลย
เคยเรียนในสถาบันเดียวกันกับเพียด้วย
4.แพง   สาวชาวบ้าน ภรรยาของกล้า
5.มัท  เพื่อนของนุช
6.พุด   เพื่อนของเพีย
7.เรน   น้องของมัท
8.ก้อง    เพื่อนของเรน
9.ต่อ      เพื่อนของเรน
10.ทิพย์  เพื่อนของพุดพี่ของเรน

ขอยืมชื่อหน่อยนะครับ
ไม่เอาไปใช้ทางเสียหายหรอก
เอามาเขียนให้กำลังใจคนวัยแสวงหา


ผมรู้สึกมันที่จะเขียนต่อครับในรูปแบบร้อยกรองนี่แหละ

โปรดติดตาม				
12 มิถุนายน 2547 01:29 น.

มิตรภาพ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

EEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEE

มอบแด่มิตร  คุณพุดพัดชา สาวบ้านนาคนเก่ง


EEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEE


1. 


ที่ดงดานบ้านไกลไฟแสงสี
ยังพอมีแสงใสของไฟฉาย
ไว้ส่องกบเขียดปลาในนาทราย
ไว้ส่องทางย่างกลายไปเยือนกัน


กับมีเดือนมีดาวพราวพริ้ง
มีน้ำใสใจจริงเป็นมิ่งขวัญ
มีศรัทธาโชนกล้ากว่าตะวัน
แบ่งกันเอื้ออวยแล้วด้วยดี


ผมมีข้าวคุณมีปลาผลาผัก
แบ่งด้วยรักด้วยครรลองของน้องพี่
ผมมีเกวียนคุณมีวัวตัวอ้วนพี
ก็ยืมเทียมเกวียนขี่ไปถ้วนทาง


น้ำเอยน้ำใจ
ของใครให้มา
เหมือนการพึ่งพา
ภาษาความเข้าใจ. (ส่วนหนึ่งของเพลงอัสนีและวสันต์  โชติกุล-ขอบคุณครับ)


หากต่างฝ่าย      ต่างใฝ่และต่างฝอด
คงต่างทาง         กันตลอดถึงต่างข้าง
ใกล้แค่เอื้อม         ไม่เชื่อมมือคือต่างบาง
อาจต่างคว้าง         ต่างเคว้งต่างเพลงร้อง


แต่นี่เรา        เอาใจมาใยดี
ก็อาจต่อ      ไมตรีไม่มีหมอง
มีดอกไม้บริสุทธิ์   หอมพุดกรอง
ก็ฝากกันฉันท์พี่น้องผู้เนื่องธรรม


	2.   


                  ฉันมีความรักมาให้
		ฉันมีดอกไม้มาฝาก..  (ส่วนหนึ่งของเพลงที่คุณจรัล มโนเพ็ชร
		และคุณสุนทรี  เวชานนท์ ขับร้อง-ถ้าสะกดชื่อผิดโปรดอภัย)


		เส้นทาง                   หลากทางที่ย่างผ่าน
		เหยียบหนาม             เจ็บนานจนราญช้ำ
		บ่มหนอง        ร้องอ๊อก       เกินบอกคำ
		ต่อผู้ไม่ใฝ่จำหรือสนใจ


		ปวดเจ็บ   เก็บงำ   ซ่อนสำนึก
		รู้สึก       ว่านี่ข้า         จะไปไหน
		เหลียวหลัง      แลหน้า     ล้ากระไร
		เหมือนไม่มีผู้ใดเข้าใจเรา


		ก้มหน้า               ทำงานไปเงียบเงียบ
		เย็นเยียบ                จนนึกคร้ามหวาดความเขลา
		จะเกาะกินห้วงฝัน              ไม่บรรเทา
		เหลือเพียงเงา               เปล่าดายแล้วตายลง


		แอบเรียงถ้อย               ถักพจน์เป็นบทกลอน
		ซุกซ่อน                บทนิยามความประสงค์
		ซ่อนซุก             ทุกคำถามพูดตามตรง
		คือยังคง                หวาดในใจผู้คน


		ที่โฉดฉ้อ         ฉลชาญ          เชี่ยวการฉวย
		เอาจากเพื่อน   โดยดื้อด้วย        การฉกปล้น
		ราวกับเกลอ      นี้ไม่ใช่เพื่อนตน
		เกมกล            กลิ้งกลอกเขาออกลาย


		บ่ไว้ใจใครจึงต้องเหว่ว้า
		ก็ยอมรับ       ที่ผ่านมาเหมือนบ้าหลาย
		ถึงเดือนร้อน              สับสนทุรนทุราย
		บ่แพร่งพราย                   อ้ำอึ้งอยู่หนึ่งเดียว


          3.       


          ก็อยากเปิดหัวใจให้เพื่อนรู้
         ว่านานแล้ว               ที่หลงอยู่แบบคว้างเปลี่ยว
	  ไม่เปิดใจ               ก็ตายเปล่าไปแท้เทียว
	   มีเพื่อนดี             แค่คนเดียวก็อุ่นทรวง


	   ถ้ามีใจ             ใยดีโปรดยื่นมือ
	   มาให้ถือ              อย่างเชื่อมั่นเถิดขวัญสรวง
	   เพื่อนจะภักดีด้วยใจทั้งดวง
	   ทำความดีทั้งปวงตอบแทนใจ





		ด้วยใจครับคุณ พุดพัดชา
                ก่อพงษ์				
11 มิถุนายน 2547 06:05 น.

ก่อนวันนี้-หลังวันนั้น

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



 ก่อนจะหลับก็ลองนับลมหายใจ

ลมเข้าไปลมออกมาหลับตาฝัน

ชีวิตเราเห็นได้ชัดอัศจรรย์

ได้คืนวันได้เวลามานานนม



ได้สิ่งของโน่นนี่ล้วนดีมาก

บางอย่างยากยิ่งล่ะอยากสะสม

รอมาจนค่อนชีวิตเกือบติดตม

ดีที่จมใจหน่วงแค่ช่วงเดียว



ส่วนบางชิ้นไม่ได้หวังยังได้มา

ช่วยปลอบให้คลายล้าคราโดดเดี่ยว

จะสูญไปแค่หลงคิดยังซีดเซียว

เพราะใจเกี่ยวพันกลายเป็นสายใย



หลังจากตื่นลืมตาลาความหลับ

พอใจกับความฝันแม้สั่นไหว

พอใจต่อสิ่งที่เห็นและเป็นไป

ที่พอใจเพราะคุณเคียงไม่เกี่ยงงอน



หลังจากเราก่อร่างและสร้างตัว

ผ่านช่วงมัวพ้นช่วงหมางอย่างช่วงก่อน

ก็ถึงช่วงเต็มใจเมื่อเอื้ออาทร

เต็มตานอนหลับตาพริ้มอิ่มอารี



หลังจากตื่นอีกหนเริ่มต้นวัน

เกี้ยวก้อยกันเคียงหัวใจไปทุกที่

ก่อนหรือหลังยังมั่งคงตรงความดี

ก็คงมีวันสมปองแก่สองเรา				
9 มิถุนายน 2547 06:09 น.

ด.ญ.ขวัญรัฐ เถื่องหงอย

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


นี่ตะวันก็บ่ายคล้อยเจ้ากลอยเอ๋ย
ได้อะไรบ้างทรามเชยเหมือนเคยไหม
ได้กบเขียด  กุ้งปลา ไหมยาใจ
จะเอาไปต้มยำหรือทำแกง

	กบดับวายหายหดหมดจากทุ่ง
เขียดกับกุ้งหอยหายไปหลายแหล่ง
น้ำเขินขอดตลอดลดชวนหมดแรง
ฟ้าฝนแล้งก็เดือดร้อนระกำกัน

	อยู่ในโลกร้อนแล้งเธอดิ้นรน
อดกับจนจนนึกว่าโลกน่าขัน
คนมีกินก็เหลือกินอัศจรรย์
มื้อละหมื่นมื้อละพันอวดปัญญา

	เธออดอดอิ่มอิ่มลิ้มก้อนข้าว
จากอาอาวแบ่งปันผ่อนปัญหา
พ่อไปแล้วแม่ล้มพับเพิ่งลับลา
ทิ้งความจน-ยายชราให้ดูแล

	น้องอีกสามคลานตามกันมาอับจน
เธอต้องเลี้ยงทุกคนเลยพวงแข
ภาระรักยังคงมั่นไม่ผันแปร
รับผิดชอบรอบตัวแม้เป็นเด็กน้อย

	น้องสามคนกำลังกินกำลังนอน
เธอขวัญอ่อน  ก็ฝืนกล้า  บ่กล้าถอย
มื้อเย็น-ค่ำ  มื้อเช้า-สาย   หลายคนคอย
น้องอิ่มมาก  เธออิ่มหน่อย   พลอยอิ่มใจ

	กองข้าวเปลือกบนซอกบ้านปานกลุ่มแกลบ
ที่อยู่แคบที่นอนคับพอหลับใหล
ท้องที่หิวลูบด้วยน้ำตามกันไป
หากได้เขียดค่อยยิ้มใสได้ต่อแรง

	เธอกอบโคลนกั้นหลุมปลักวิดเอาปลา
ได้กุ้งเขียดแมงดาปลาแกร็นแข็ง
ถ้าขอบสวนราวหลักมีฟักแฟง
ก็ได้แกงต้มกินสลับกัน

	สลับกับน้ำพริกใสในถ้วยเบี้ยว
ให้แรงเรี่ยวคืนแรงขึ้นแข็งขัน
เธอเตือนน้องให้หลับตื่นในคืนวัน
เธอกล่อมใจในวัยวันเกินวันวัย

	บ่เคยเห็นเธอระย่อต่อหนามขวาก
บ่เคยยินเธอบ่นปากแม้ป่วยไข้
เด็กหญิงตัวเล็กเล็กเด็กแดนไกล
เธอเป็นขวัญรัฐสมัยคนไม่จน

	เห็นเธอแบกภาระอันหนักอึ้ง
ยิ่งยอมรับว่าทึ่งกึ่งฉงน
ก็ดูซีมีข่าวชุกเรื่องลูกคน
ถูกพ่อตนแม่ตัวทุบหัวตาย

	คนพวกนั้นสูงส่งถึงสูงศักดิ์
รับผิดชอบแค่คนรัก-ว่าหนักหลาย
นี่กี่คนเธอดูแลใช่แค่ยาย
บ่ยอมพ่ายลิขิตฟ้าชะตากรรม

	ใครบ้างหนอจะเติมฝันปันอาทร
มีใครบ้างอยู่ข้างตอนเธอเหนื่อยช้ำ
โลกนี้คงมิใช่โลกใจดำ
ขอเอ่ยคำว่าชื่นชมนิยมเธอ

to be  continue				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์