25 พฤศจิกายน 2547 20:55 น.
กุ้งหนามแดง
ผิดตรงไหนก็บอกมาเถอะน่ะเพื่อน
อย่ากลบเกลื่อนหันเหหรือเฉไฉ
มีอะไรเกินรับคับข้องใจ
บอกกันได้ทุกเวลาว่าตามตรง
มาคอยพูดกระทบกระเทียบเหยียบให้ช้ำ
คอยทิ่มตำหัวใจดังไสส่ง
ไม่รู้ความจริงแท้ได้แต่.งง
หรือเธอหลงคำใครเขาใส่ความ
ยังคงเบือนสายตาไม่กล้าพูด
หรือเป็นสูตรให้ง้อท้อจะถาม
หลงเป็นเหยื่อตามคิดพวกจิตทราม
จึงเหยียดหยามเหน็บแนมจนแต้มตรอม
เข้าใจผิดหลายหนปากคนอื่น
ลืมวันชื่นทำนุทะนุถนอม
เพียงนาทีมุ่งร้ายหน่ายประนอม
ถึงกับยอมเสียมิตรคิดเตือนใจ
รอเวลาผ่านพ้นคนจนตรอก
จะยอมหลอกสักทีจะดีไหม
ว่าฉันเองที่หลงจงอภัย
แม้น้ำตาจะไหลใช้ยื้อเธอ..
..
25 พฤศจิกายน 2547 20:33 น.
กุ้งหนามแดง
วันเพ็ญเดือนสิบสอง
น้ำจะนองเต็มตลิ่ง
ขอเชิญทั้งชายหญิง
อย่าได้ทิ้งประเพณี
ร่วมกันลอยกระทง
ปล่อยไหลลงในนที
คงคาแม่วารี
อภัยทีที่ล่วงเกิน
เคยใช้น้ำชำระ
คุณมาตะสรรเสริญ
เลี้ยงกายใช้ดำเนิน
ต่ำตื้นเขินยังขอดกิน
ลูกขออธิษฐาน
ทุกสายธารอุดมสิน
ชาวไทยได้มีกิน
ดับไฟสิ้นถิ่นขวานทอง
กระทงส่งถึงแม่
สองตาแลไปตามหนอง
ประทีปสว่างครอง
ขอปรองดองสว่างใน
ควันธูปที่ลอยฟุ้ง
กลิ่นจรุงย้อมจิตใจ
มาลาใส่ลงไป
แทนมาลัยคล้องใจเอย..
24 พฤศจิกายน 2547 16:34 น.
กุ้งหนามแดง
คุณครูขา...
หนูเป็นเด็กไม่ฉลาดเกินคาดหวัง
จะเป็นดังครูต้องการคงนานหนอ
พูดหูซ้ายทะลุขวาครูอย่ารอ
เพื่อนหัวร่อขบขันหยันทุกครา
คุณครูขา...
หนูเป็นเด็กเจ้าปัญหาครูอย่าสน
แม้ดิ้นรนให้สามารถดังปรารถนา
หนูทำได้แค่ฟังตั้งหน้าตั้งตา
ทุกมาตราเหมือนเคยละเลยจำ
คุณครูขา...
หนูเป็นเด็กโง่เง่ามากใช่ไหม
ครูถึงได้ลงโทษเสียจนหนำ
แถมสั่งสอนทุกไม้ใช้ฟาดทำ
หนูยังคลำก้นน้อยคล้อยน้ำตา
..
23 พฤศจิกายน 2547 11:01 น.
กุ้งหนามแดง
เธอจะซึ้งหรือเปล่าก็ช่างเถอะ
เธอจะเลอะเลือนมั่งยังไม่สน
เธอจะโกรธจะเคืองเรื่องของคน
เธอจะซนรู้ว่าหาประสบการณ์
เธอจะพบกับใครไม่หึงหวง
เธอจะล่วงเกินมิว่าช่างกล้าหาญ
เธอจะสั่งเห็นอยู่ผู้เชี่ยวชาญ
เธอจะหวานก็งามตามที่เป็น
เธอจะสุขรู้ไว้คนใกล้ชื่น
เธอจะยื่นไมตรีคนนี้เห็น
เธอจะรักหรือชังยังหน้าเป็น
เธอจะเด่นรับรู้คู่เคียงกัน
เธอจะทำทุกอย่างทางที่ชอบ
เธอจะมอบทุกอย่างทางที่ฝัน
เธอจะอยู่หนใดตามไปทัน
เธอจะพรั่นฉันไย..แค่ใจเธอ..
........................................................
กลอนบัวบานกลีบ
รูปแบบ:
xx000000
ซ้ำ ๒ คำต้นวรรคทุกวรรค ใช้กระทู้เดียวตลอดจนจบความ..
23 พฤศจิกายน 2547 10:35 น.
กุ้งหนามแดง
~พวกนาคน้อยนำเต่าเฝ้าจอมนาค
แต่งเรื่องมากเป็นทูตอาวุโส
ภาระกิจสร้างสัมพันธ์มันเริ่มโว
ที่มาโผล่เพราะว่านายท่านใช้มา (๒๑)
มีประสงค์จะยกธิดาให้
ขอท่านได้ส่งทูตไปพร้อมกับข้า
เพื่อกำหนดฤกษ์งามตามตำรา
เจตนาเกี่ยวดองของสองเมือง (๒๒)
ทศรถจอมนาคมากขบขัน
ใครไหนกันใช้เต่าไม่เข้าเรื่อง
เต่าเจตจูลทูตน้ำย้ำความเมือง
วางมาดเขื่องตัวแทนของราชัน (๒๓)
~ท้าวทศรถหลงความตามที่พูด
ให้จัดทูตโดยดีพิถีพิถัน
ส่งตรงไปพาราณสีในเร็ววัน
ถึงหน้าเมืองเต่านั้นขอตัวไป (๒๔)
เจตจูลอ้างไปหารากบัวถวาย
ขอแยกย้ายเฝ้าธิดาลาเฉไฉ
สี่ทูตรอนานเกินเดินเข้าไป
เข้าเฝ้าในราชาพรหมทัต (๒๕)
ถวายพระพรเรียบร้อยค่อยทูลว่า
ฝ่ายนาคายินดีตามดำรัส
ยอมเป็นทองแผ่นเดียวกันนั้นแน่ชัด
จึงได้จัดพวกเราเข้ากราบเรียน (๒๖)
เจ้านครพรหมทัตตรัสสะดุด
นาคมนุษย์มิสมกันมันปวดเศียร
ไม่เคยมีทูตน้ำใดในมณเฑียร
ไปว่ายเวียนยกลูกข้าถึงบาดาล (๒๗)
ทั้งสี่ทูตผิดหวังโดนรังเกียจ
นาคไร้เกียรติหรือไรให้กล่าวขาน
คนกับสัตว์วิปริตปิดวิมาน
เชิญพวกท่านกลับไปไม่ยินยอม (๒๘)
~ทูตทั้งสี่ลาลับกลับเมืองน้ำ
ดำรัสช้ำย้ำจิตมิคิดถนอม
จอมบาดาลบอกเตรียมตัวให้ทั่วพร้อม
มารุมล้อมธานีฤทธิ์รณ (๒๙)
ในราตรีมีงูทุกหมู่บ้าน
เลื้อยเพ่นพ่านเป็นตับภาพสับสน
ในราชฐานนาคปรกสะทกทน
เห็นผู้คนว้าวุ่นทูลถ้อยคำ (๓๐)
ขอพระองค์ส่งธิดาให้นาคเถิด
เรื่องที่เกิดจะผ่อนคลายระส่ายระส่ำ
เพื่อเห็นแก่ชาวประชาตาดำดำ
จำใจทำละทิฐิสันติวิธี (๓๑)
จึงยอมความยกลูกสาวให้เจ้าน้ำ
พอขาดคำนาคหายวับกลับวิถี
สมุทรชาอภิเษกในทันที
อัครมเหสีจอมบาดาล (๓๒)
ทศรถสั่งไว้ให้แอบแฝง
อย่าแสดงรูปนาคสมัครสมาน
นางจะกลัวเสียเปล่าไม่เข้าการ
โทษประหารอย่างเดียวอย่าเที่ยวลอง (๓๓)
~ใช้ชีวิตร่วมกันวันพ้นผ่าน
สี่กุมารกำเนิดเลิศฉลอง
สุทัศนะพี่ใหญ่ทัตคนรอง
สุโภคะคือน้องรองสุดท้าย (๓๔)
น้องสุดท้องนั้นคืออริฏฐะ
ทุกวาระแปลงมนุษย์สุดเฉิดฉาย
สมุทรชาไม่รู้จริงทั้งหญิงชาย
เพราะรอบกายซึมซาบภาพมายา (๓๕)
พี่เลี้ยงสอนอริฏฐะมาตะเจ้า
ต่างจากเราเพราะเป็นคนนั่นแหละหนา
คิดทดสอบความจริงสักหนึ่งครา
ตอนมารดาให้นมเหมาะสมแสดง (๓๖)
โผล่หางนาคออกมาให้นางเห็น
ผลักกระเด็นตกไปไม่แอบแฝง
เล็บเกี่ยวตาลูกชายแม้ไม่แรง
เลือดไหลแดงจักษุบอดหารอดเอย (๓๗)
ทศรถโกรธบุตรฉุดพี่เลี้ยง
ไม่คิดเลี่ยงลงทัณฑ์ท่านเปิดเผย
ฝ่ายมารดาทูลขอไว้อภัยเลย
เรื่องลงเอยรู้ความว่าอยู่บาดาล (๓๘)
~กาลครั้งหนึ่งท้าวทศรถกับเจ้าทัต
สองคนชัดไปเฝ้าเข้าราชฐาน
มหาราชวิรูปักษ์ปรึกษางาน
ปัญหาผ่านทัตแก้ไขได้สบาย (๓๙)
นับแต่นั้นขนานนามภูริทัต
ปัญญาชัดเปลี่ยนนามตามขยาย
ภูริทัตเห็นสมบัติจัดเรียงราย
ดูมากมายกว่าของตนคิดหนทาง (๔๐)
(ยังมีต่อ...)