3 ตุลาคม 2547 15:49 น.
กุ้งหนามแดง
หญิงชาวไร่คนดีเธอมีด้าย
หีบจากฝ้ายพันแกนพลับจับกลุ่มสวย
หลังเลิกงานผ่านสระเดินระทวย
นางคนสวยแวะท่าล้างหน้าตา (๖๕)
นางจึงเปลื้องผ้าคลุมรองกลุ่มด้าย
แล้วเยื้องกรายลงสระตามประสา
ทิ้งข้าวของบนฝั่งดั่งเปรยมา
สุขอุราเย็นกายคลายร้อนพลัน (๖๖)
หญิงอีกคนผ่านทางเห็นวางของ
คิดครอบครองด้ายแท้มิแปรผัน
จึงแสร้งถามทำเองหรือหยิบถือพลัน
ยังไม่ทันตอบด้วยตอนฉวยไป (๖๗)
การทำด้ายแต่เดิมเสริมสักนิด
ธรรมชาติลิขิตผลิตได้
เสียทั้งแรงเวลาว่ากันไป
เป็นคำตอบว่าไยจึงต้องการ (๖๘)
เจ้าของด้ายร้อนรนขึ้นบนฝั่ง
เรียกยับยั้งคืนมาก่อนกลับย้อนขาน
ใครเอาของแกไปใช่กันดาร
อย่ามาพาลด้านหน้ามาตู่เรา (๖๙)
ฉันก็มีปัญญาหาหรอกด้าย
มาใส่ร้ายป้ายชาดคนขลาดเขลา
เจ้าของบอกของฉันท่านถือเอา
จะมาเหมาของท่านมันไม่ควร (๗๐)
ต่างแย่งยื้อถือสิทธิ์ไม่อิดออด
เถียงตลอดคำว่าต้องด่าสวน
ไม่มีใครยอมใครในกระบวน
ชาวบ้านจึงชี้ชวนไปศาลา (๗๑)
มโหสถตัดสินคงสิ้นเรื่อง
จะหมดเคืองเรื่องลดหมดกังขา
เพราะมากด้วยแง่คิดพิจารณา
เจ้าปัญญาสามารถองอาจดี (๗๒)
มโหสถถามนางอย่างสดใส
สมัครใจหรือเปล่าเล่าสองศรี
ถ้ายอมรับจะเร่งรัดตัดสินคดี
ทั้งสองบอกยินดีวจียอม (๗๓)
ตุลาการจำเป็นเน้นสอบเดี่ยว
เจ้าบอกเกี่ยวเป็นเจ้าของครองถนอม
แกนของด้ายคืออะไรไม่แปลกปลอม
เม็ดมะพลับตอบพร้อมนอบน้อมคำ (๗๔)
เจ้าคนลักตอบเสร็จเมล็ดฝ้าย
ดูไม่คล้ายวิตกตระหนกขำ
ตอบอย่างขอไปทีวจีดำ
พอสิ้นคำบอกเล่าเข้าดูรวม (๗๕)
แล้วคลี่ด้ายออกดูจึงรู้แน่
เมล็ดแท้มะพลับพันกลับหลวม
ประชาชนตอบได้ไม่กำกวม
คนไหนสวมบทโจรโพนทะนา (๗๖)
มโหสถจึงให้คืนหยิบยื่นทรัพย์
สาธุชนสดับพิพากษา
ต่างชมเชยถูกต้องคล้องมาตรา
สอนศีลห้าก่อนแยกย้ายไปจากกัน (๗๗)
ราชบุรุษรายงานประสานข่าว
เล่าเรื่องราวของด้ายคลายปมนั่น
แค่ด้ายกลุ่มคือบัณฑิตคิดกระนั้น
จะน่าขันเกินข่มสมควรรอ..(๗๘)