23 มีนาคม 2547 22:35 น.
กุ้งหนามแดง
น้อมไปคิดถึงคุณครูผู้สั่งสอน
ในบทตอนวัยเยาว์เราหมั่นเขียน
คุณครูสอนเขียนจดหมายในบทเรียน
เด็กจงเรียนครูจะสอนตั้งใจฟัง
ก่อนอื่นนั้นมีดินสอและกระดาษ
ยางลบสะอาดอีกหนึ่งอันปันเพื่อนมั่ง
พับกระดาษกึ่งหนึ่งทำหรือยัง
อย่ามานั่งตาลอยคอยฟังครู
ต้องวัดโน่นวัดนี่อีกตั้งแยะ
ย่อหน้าและเว้นวรรคด้วยคำหรู
ด้วยความเคารพอย่างสูงส่งถึงครู
พวกหนูหนูจงจำไว้ในใบลา
ยังจำได้ให้จ่าหน้าซองด้วย
ตีซองสวยแปะสแตมป์อย่าลืมหนา
เจ็ดสิบห้าสตางค์เคยจำมา
ธรรมดาจะถูกกว่าลงทะเบียน
มาวันนี้ครูจากไปไร้จดหมาย
แต่มีสายรายงานท่านเกษียณ
กลับไปสอนชาวบ้านสานตะเพียน
คงการเรียนการสอนตอนบั้นปลาย..
22 มีนาคม 2547 21:13 น.
กุ้งหนามแดง
เธอวันนั้นทิ้งฉันไปไม่ครวญคิด
ปล่อยชีวิตที่ไม่เลือกกระเสือกกระสน
เธอวันนั้นทิ้งฉันไว้เพื่อเปรอปรน
หญิงอีกคนที่เธอแอบแนบหัวใจ
ฉันคนนี้ในวันนั้นช่างแสนเศร้า
มันปวดร้าวเกินบรรยายเข้าใจไหม
ฉันวันนั้นต้องสูญเสียทุกอย่างไป
ความมั่นใจก็ไม่เหลือเบื่อตัวตน
เธอวันนี้รู้ดีไปไม่รอด
รักเธอจอดหยุดสนิทจิตสับสน
เธอวันนี้จึงกลับลำยอมจำนน
เฝ้ามาบ่นบรรยายหมายคงเดิม
ฉันวันนี้คงมีให้ได้แค่เพื่อน
ภาพรักเลือนลบออกไปมิใคร่เสริม
เพราะรอยร้าวเกินอาลัยในความเดิม
ยากจะเพิ่มรอยรักใหม่ใจมันชา...
21 มีนาคม 2547 20:06 น.
กุ้งหนามแดง
เพียงพบกันวันนั้นฉันก็เปลี่ยน
อยากจะเวียนมาหาเธออยู่เสมอ
ความสุภาพอ่อนโยนของเธอ
ทำฉันเพ้อเก้อทุกทีมิหยุดวัน
อยากจะได้ใกล้ชิดสนิทแนบ
คิดแคบแคบหรือเปล่าเราเฝ้าฝัน
ก็เพียงอยากประสานความสัมพันธ์
ให้โอกาสฉันสักครั้งได้ไหมเธอ
ถ้าไม่ใช่ฉันพร้อมไปอย่างเงียบเงียบ
ไม่เอาเปรียบดวงใจยอมได้เสมอ
หากคนนั้นในใจใช่..คือเธอ
จะไม่เผลอปล่อยเธอไปให้ใครควง..
เพียงแวะมาฝากความไว้ให้เธอคิด
มันเป็นสิทธิ์ของเธอมิห้ามหวง
เลือกจะรับหรือจะทิ้งสิ่งทั้งปวง
ใช่คำลวงจงรับไว้พิจารณา
20 มีนาคม 2547 11:52 น.
กุ้งหนามแดง
มหาอุตม์เป็นเรื่องของสองทหาร
เคยพากันไปสักยันต์มหาอุตม์
เพื่ออยู่ยงคงกระพันกันอาวุธ
แล้วจึงรุดเข้าฐานประจำการ
ในสนามรบครานั้นมันเข้มข้น
บีฑาจนสับสนอลหม่าน
เสียกำลังทั้งสองฝ่ายรบตั้งนาน
และทหารทั้งสองก็ถูกยิง
สลบไปนานเท่าไรก็ไม่รู้
มนต์ยังอยู่คุ้มครองดังของสิง
ทองคำตื่นก่อนด้วยผวาในของจริง
แล้วก็วิ่งเข้าหมู่บ้านในทันที
บรรยากาศวังเวงด้วยซากศพ
พลันได้พบเด็กชายกายชาดสี
จึงเก็บมาเลี้ยงไว้ด้วยปรานี
หน่วยรบที่เรียกมาช่วยด้วยเสียง ฮ.
จึงได้ทิ้งขจรไว้ในสนามรบ
เรื่องหลังจบลงไปวุ่นวายหนอ
พระทองคำเป็นนามใหม่ไม่แววอ
เด็กชายก็ชื่อเจตต์ ชอบวิชา
ขจรได้กลับมาเป็นเจ้าพ่อ
เขาได้ก่อเรื่องวุ่นวายหลายเรื่องหนา
โศกนาฎกรรมตามค้ายา
ไม่เกรงค่ากฎหมายไม่นึกกลัว
เพราะยิงรันฟันแทงก็ไม่เข้า
มีมนต์เงาบังตาไว้ให้สลัว
ยิ่งมีมนต์ยิ่งสับสนและมืดมัว
อวิชชาสิ่งชั่วกลั้วทำลาย
พระทองคำจึงได้ไปโปรดสัตว์
ขจรซัดเรื่องเก่าเขาเคืองหลาย
ความโกรธและอาฆาตยังมิวาย
จึงมุ่งร้ายหมายยิงพระกะลองยันต์
พระสละร่างท่านให้ใจสว่าง
มนต์ทุกอย่างมีเสื่อมได้ใคร่ดับขันธ์
เพียงเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปพลัน
มนต์ดำนั้นยังบังตา...หาเข้าใจ
บทสุดท้ายเจตต์ปะมือกับขจร
ขณะจิตสติอ่อนขจรไหว
ด้วยชีวิตน้องชายที่ห่วงใย
สังเวยให้ตำรวจหนุ่มรุมศึกนี้
ชั่วขณะที่จิตหลุดไปมีห่วง
กระสุนล่วงทะลวงบ่าหมดราศี
มนต์ทั้งหลายคลายเสื่อมพลันในทันที
แม้รอยสักที่มี..ก็มิคง
จึงพ่ายแพ้แก่ธรรมมะในทุกอย่าง
ตั้งแต่ร่างยันจิตที่ติดหลง
กุศลกรรมเพียงตามไปในกรรมกง
เรื่องจบลงเพียงนี้..พี่น้องเอย..
18 มีนาคม 2547 21:16 น.
กุ้งหนามแดง
..อีแต๋น อีแต๋น อีแต๋น
เรียกจิกหัวด้วยความแค้น..อีแต๋นเอ๋ย
ก่อนที่เอ็งจะเข้ามาให้เขาเชย
ข้านั้นเคยเป็นหนึ่งที่ซึ้งใจ
เขาเคยรักสมัครใจรักใคร่ถนอม
ยุงไม่ไต่ไรไม่ตอม..กางมุ้งให้
ตั้งแต่เอ็งเข้ามาเขาเปลี่ยนไป
ให้อภัย..เชอะ..ฝันไปข้าไม่เคย
มาแอ่นอกกระดกลิ้นยังยินเสียง
เขาคงเลี่ยงมาหาเอ็ง..เส็งเคร็งเอ๊ย
ทำตัวเด่นเป็นคางคกขึ้นวอเลย
เอ็งคงเคยได้ยินเขาว่ากัน
พอถอดเครื่องเปลื้องผ้าอร้าอร่าม
คิดว่างามหรือบังอรหล่อนนึกฝัน
เขาหลอกใช้ให้ทำงานสารพัน
เดี๋ยวก็รู้ใช่สวรรค์งานเต็มเต็ม
ต้องออกทุ่งมุ่งหมายตามใจเขา
ทั้งงานหนักงานเบาเท่าหัวเข็ม
ทำไปเหอะทำไปไม่มีเล็ม
คงปรีเปรมให้เขาใช้ด้วยหมายเพลิน
ข้ามานั่งจับเจ่าดูเขาโอ๋
อีแต๋นโก้เกินใคร..ใช่สรรเสริญ
ข้าเพียงควายปลดละวางถูกหมางเมิน
จึงต้องเดินพร่ำไปใต้ตะวัน..