15 มิถุนายน 2547 22:08 น.
กุ้งหนามแดง
..
สายสัมพันธ์ขาดวิ่นดังสิ้นภาพ
คงความซาบซึ้งลามตามหลอกหลอน
บทอาลัยแนบติดชิดบางตอน
จำจากจรร้าวรอนมานอนเบลอ
เมื่อโคจรย้อนกลับขยับภาพ
ก็ไม่ทราบทำไมหัวใจเผลอ
เจ็บไม่จำช้ำจิตยังคิดเจอ
หลงละเมออีกแล้วไม่แคล้วกัน
ให้โอกาสครั้งใหม่ใช่สร้างภาพ
ศิโรราบทุกอย่างกระจ่างฝัน
วาดวิมานในอากาศประกาศวัน
รักพัวพันคราวนี้มิมีคลาย
เติมใจรักเริ่มริสันติภาพ
ทุกข์ที่คาบเกี่ยวกันพลันหดหาย
หัวใจเดียวครอบครองด้วยสองกาย
ตราบชีพวายยืนยันรักมั่นคง
..
14 มิถุนายน 2547 21:27 น.
กุ้งหนามแดง
..
ก่อนหน้านั้นสามจิตสนิทมั่น
เคยบากบั่นพากเพียรเรียนศึกษา
ร่วมออกค่ายอาสาพัฒนา
สร้างศรัทธาร่วมกันในวันวาร
สัมพันธ์ใจอาจินต์หินสามเส้า
รวมกันเข้าเป็นหนึ่งพึ่งประสาน
สมประสงค์ดังจินต์สิ้นทุกงาน
ประสบการณ์สร้างให้รวมใจเดียว
หมดวาระต่างคนพ้นบัณฑิต
ต่างชีวิตแยกไปไม่เฉลียว
เธอกับเขารักสองเราเมาปีนเกลียว
เจ็บเพียวเพียวที่ใจคนใกล้ตัว
เรารักกันหรือเปล่าเธอเฝ้าถาม
นึกย้อนความตามนัยใจสลัว
หินแตกหักรักสามเส้าหลงเมามัว
เฝ้าพันพัวติดหล่มจนซมซาน
รักเธอหรือเปล่าเลยไม่เคยคิด
คนสนิทแค่นั้นอย่าฝันหวาน
เพื่อนเท่านั้นแหละเธออย่าเพ้อนาน
เพียงเรือนชานพักร้อนพอผ่อนคลาย
คนปากแข็งใจอ่อนมานอนเจ็บ
เป็นคนเก็บขมขื่นชื่นสลาย
หวังเพื่อนรักทั้งสองครองสบาย
ประคองสายสัมพันธ์กันสามคน..
..
11 มิถุนายน 2547 16:34 น.
กุ้งหนามแดง
ในหนองน้ำผ่านข้ามลามผักตบ
เสียงอบอบจ๋อมแจ๋มแต้มไหลหลง
กบกระโดดหยอกย้อในกอพง
แมงมุมดงชักใยข้างไผ่กอ
แมลงน้ำเกาะปนบนพื้นผิว
ใบไม้ปลิวตามลมชมปลาหมอ
สะพานไผ่ยวบยาบขนาบงอ
ยังชมช่อตบชวาสีฟ้าคราม
เลียบคันนาชมรวงแม่พวงแข
สองตาแลบ้านยายใต้มะขาม
ฝักร่วงหล่นเกลื่อนนอกบ้างงอกงาม
มดแดงลามตามฝักคอยลักชิม
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง แว่วขานผสานรับ
แม่ต้องจับมือไว้ไอ้หัวหลิม
ไปไอ้ด่างไอ้หมีอีทับทิม
เดินหงุมหงิมเลี่ยงหลบประจบพลัน
กุ๊ก กุ๊ก กุ๊ก เสียงไก่อยู่ในเล้า
ตานั่งเฝ้าท่าทีขมีขมัน
แม่กับลูกไหว้ค้อมพร้อมพร้อมกัน
คำตาสั้นไหว้พระเถอะทั้งสองคน
มายังไงกันนี่วจีทัก
เจ้าลูกรักหลานตามาแต่หน
แล้วพ่อเจ้าใยไม่มาสาละวน
รอเหตุผลคนดีมาชี้แจง
พี่เขาต้องทำงานทหารกล้า
เราจึงมาบ้านยายมิหน่ายแหนง
สามัคคีสมดุลย์หารุนแรง
คิดว่าแบ่งเวลาหาตายาย
แล้วแม่อยู่ที่ไหนล่ะพ่อจ๋า
แม่ถามตาบอกด้วยช่วยขยาย
ทำกับข้าวบนเรือนเขยื้อนกาย
ยินเสียงหลายในครัวเสียงพัวพัน
เดี๋ยวหนูไปช่วยงานในครัวก่อน
ไว้แดดอ่อนลงอาบน้ำค่ำสุขสันต์
ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน
เดินนำพลันขึ้นไปในทันที
แล้วขนข้าวของล้นขึ้นบนบ้าน
แจกเจือจานตามควรหวนวิถี
รู้จักญาติสนุกสนานสำราญมี
จบวันดีเดินทางไปบ้านยาย...
10 มิถุนายน 2547 14:57 น.
กุ้งหนามแดง
เสียงฟ้าร้องสั่งลาน้ำตารื้น
เสียงครืนครืนร่ำลาใจข้าหาย
เสียงฝนซ่าซึมกลบลบรอยทราย
เสียงลมกลายสะบัดพัดใบบิน
เปียกปอนทั่วกายาฤทธาฝน
อัสสุชลเอ่อท่วมร่วมกระสินธุ์
อัสนีฟาดเปรี้ยงดังเหวี่ยงวิญญ์
ธรณินสั่นไหวหทัยครวญ
เพียงเดียวดายกายยังภวังค์ดับ
คงซึมซึบความเหงาเศร้ากำสรวญ
จำต้องพรากจากกันวันแปรปรวน
ร่างเซซวนเลอะเทอะกระเซอะกระเซิง
ลิขิตฟ้ากำหนดหมดวาระ
เพียงตกชะหน้าดินสิ้นความเหลิง
หยาดลงมาพาชื่นพอรื่นเริง
ใยเปิดเปิงแตกกิ่ง..ลืมทิ้งใบ..
..
9 มิถุนายน 2547 16:37 น.
กุ้งหนามแดง
..ทุกถ้อยคำรำพันฉันคนบ้า
บ้างว่ากล้าก่อกวนทวนกระแส
บ้างก็ว่าอบอุ่นวุ่นวายแล
บ้างก็ว่าช่างแคร์กันเหลือเกิน
บ้างก็ว่างี่เง่านั่งเล่าเรื่อง
บ้างก็ว่าฝันเฟื่องเรื่องสุดเขิน
บ้างก็ว่าระห่ำเกินคำเพลิน
บ้างก็ว่าหกเหินช่างเกินจริง
ทุกถ้อยคำที่กล่าวร้าวเกินรับ
สุดระงับฟูมฟายคล้ายผีสิง
นั่งมึนงงเพ้อเจ้อ เฮอะ! ชังชิง
ดูเหมือนสิ่งน่ารังเกียจเสนียดเดน
ไร้ดวงใจฟูมฟักหักจนแหลก
ทำก๊อกแก๊กลบรอยฟื้นฝอยเห็น
กลบเรื่องราวหลายหลากช่างยากเย็น
ช่างลำเค็ญชีวิตลิขิตใคร...