14 กันยายน 2547 11:59 น.
กุ้งหนามแดง
เดินโดดเดี่ยวเดียวดายริมชายหาด
เสียงซัดสาดซบทรายหาหน่ายแหนง
ระลอกแล้วระลอกเล่าเฝ้าแสดง
ไร้รุนแรงรุ่มร้อนย้อนไปมา
คลื่นสวาทคลาดแสวงหมดแรงยุด
บริสุทธิ์จริงใจไร้วาสนา
ไม่มีเล่ห์เพทุบายหลายมายา
ถูกตีตราแค่ซื่อสื่อทดลอง
ย่ำเหยียบย้อนเย็นเยียบเทียบสายน้ำ
คร่ำครวญคำคนเคยเปรยให้หมอง
ทนทุ่มเทที่แท้แค่ละออง
คิดคู่ครองคบค้าก็ล้าใจ
อยากจะทิ้งสิ่งเศร้าเป็นเป้าหมาย
ฝังผืนทรายให้หมดบทอ่อนไหว
ฝากสัญญาแม่คงคาก่อนลาไกล
ลูกจะไม่หวนกลับมารับคืน..
...
13 กันยายน 2547 09:16 น.
กุ้งหนามแดง
*กาพย์สุรางค์นางค์ ๒๘*
ฉันเป็นลูกกบ....วันวันร้องอ๊บ....เสียงกลบกะลา
พร่าแปร่งทุ้มลึก....ยังนึกทุกครา....มืดมนหนักหนา....จำกัดสถาน
ใครผ่านวานเตะ....ขวางทางกะเกะ....เปิดรับขับขาน
หูตาฝ้าฟาง....หลงพรางอยู่นาน....ขอบคุณทุกท่าน....ชี้ทางให้เดิน
ยังกระโดดไหว....แม้ถูกขังไว้....เป๋ปัดขัดเขิน
ปรับตนเข้าหา....โลกาเพลิดเพลิน....ระหกระเหิน....กบเปิ่นหนึ่งตัว
อยากใช้ชีวิต....เรียนรู้ถูกผิด....สว่างสลัว
ตื่นลึกหนาบาง....แคบกว้างพันพัว....เห็นโลกให้ทั่ว....กว้างกว่าที่เคย..
..
*โคลงสี่สุภาพ*
เจียมตนยังอ่อนด้อย.....ภาษา
หมกซ่อนในกะลา.......ต่ำต้อย
สัมผัสแค่หญ้าคา........ครอบคว่ำ
ก็แค่กบตัวจ้อย............ห่างถ้อย กวี
กระโดดโลดเล่นน้ำ....ไปวัน
ขึ้นฝั่งยังสุขสันต์........ใกล้บ่อ
ทักทายเพื่อนข้างคัน...นาเก่า
บ่ยั่นคำคนล้อ..............อยู่ยั้งกะลาเดิม..
..
12 กันยายน 2547 12:59 น.
กุ้งหนามแดง
รอจนข้ามความมืดที่ยืดเยื้อ
ใจยังเหลืออาทรด้วยอ่อนไหว
มิอาจข่มตาหลับกับอกใคร
อยากร่ำไห้ก็หมดหยดน้ำตา
เพราะสิ้นไร้ไมตรีไร้ที่พึ่ง
อันดับหนึ่งตกอับอันดับล่า
รู้เมื่อสายสวาทวายนอกสายตา
ซ้ำยังหาแค้นเคืองหาเรื่องราว
ความปรานีมีพร้อมถนอมไว้
รักษาไข้ตัวเองบทเพลงฉาว
โน๊ตระทมขับกล่อมตรอมระนาว
เป็นเคราะห์คราวหรือคนสับสนนัก
ความภักดีมั่นคงอยู่ตรงไหน
ห้วงหทัยยังพร่องถึงต้องตัก
ต้องเติมเต็มให้ครบทำนบรัก
จะฝืนกักพักเรื้อเพื่ออะไร
น่าจะทราบตราบนี้ชีวีผัน
สุดจะสรรคำตอบว่าชอบไหม
แม้เคาะโลงขอขมาเพื่ออาลัย
ก็คงได้แต่โผอโหสิกรรม
เราจบกันเสียเถอะอย่าเจอะอีก
เราต่างหลีกทางเดินไม่เกินกล้ำ
อาจจะเจ็บสักพักสมัครทำ
อย่ามาย้ำวันเก่าร้าวเกินคืน..
11 กันยายน 2547 10:39 น.
กุ้งหนามแดง
*โคลงสี่สุภาพ*
ประสบการณ์ก่อนสร้าง........บุคคล
คงเชี่ยวชาญการกล.............ไม่น้อย
นอบน้อมย่อมนำผล.............เลิศก่อ
เผยแผ่ความรู้ร้อย...............เรื่องล้ำยลยิน
ถือตัวว่าข้าแน่......................เกินใคร
วุฒิว่อนวิทยาใด...................เด่นพร้อม
หูตาไม่กว้างไกล...................มัวกร่าง
รอบร่างหรือแวดล้อม............แผ่นปิ้งตำรา
*กาพย์ฉบัง ๑๖*
ผู้เฒ่าอาบน้ำมาก่อน..............รู้ลึกหนาวร้อน
น้อมกรประทับรับฟัง
สังขารล่วงโรยพลัง..............ควรหรือโอหัง
ไม่แก่บ้างให้แล้วไป
คุณวุฒิมีเพื่ออะไร.................คงจะไม่ใช่
เอาไว้แสดงแบ่งตน
ปัญญารับใช้มวลชน..............อย่าสัปดน
สร้างผลนอกเหนือตำรา
color=#3C0060>
ได้มีโอกาสคุยกับผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ในใจความนั้นท่านพูดถึงบัณฑิตที่จบมาใหม่ๆ
ยังขาดประสบการณ์ ควรร่วมมือกันปรึกษากับผู้มีความรู้เดิม แม้จะไม่มีคุณวุฒิ
เทียบเท่ากัน ก็ตาม...เพื่อประโยชน์ในงานส่วนรวมนั้นจึงนำเล่าสู่กันฟัง..
10 กันยายน 2547 15:41 น.
กุ้งหนามแดง
รักแต่เขาเราแตกคอแค่รอเพื่อน
ก็เพราะเงื่อนเกลื่อนเพราะงำกระทำไหว
มันลำบากมากลำบนกลไก
เกินกว่าใจไกลกว่าจิตจะคิดตาม
อย่าไปโทษโอดไปทั่วใครชั่วช้า
ดึงแพะมาด่าแพะมันลั่นสนาม
ร้อยเหตุผลรนเหตุพ่ายหน่ายประนาม
เกินตีความกามตีค่าให้ท่ากัน
สร้างเรื่องแยกแทรกเรื่องแย่เพื่อแก้ต่าง
ตีตัวห่างต่างตีหัวทำตัวขัน
คิดจะไปใครจะปรามหรือห้ามทัน
โยนผิดพันยันผิดพบมาคบคุณ
มันไม่สวยมวยไม่สร้างมาอ้างชก
จะสาทกจกสาไถยไม่เกื้อหนุน
คนละทางข้างละทิศจริตคุณ
เลิกทำวุ่นรุ่นที่วางยังห่างไกล..
.