11 ธันวาคม 2544 19:40 น.
กุ้งถุงทอง
ระเรื่อยลิ่วลมฉิวผ่านทิวทุ่ง
ระรวยพุ่งพัดผ่านย่านชายป่า
ระเลียดไปเรื่อยเรื่อยระท้องนา
ระเรื่อยพาพัดไปในแดนดิน
ยอดหญ้าพริ้วปลิวไหวใบโอนอ่อน
สุโนกนอนเหนือกิ่งไทรใกล้โขดหิน
เมื่อแสงสูรย์ส่องมาก็โบยบิน
ผ่านทุ่งตฤณลัดไปในฟ้ากว้าง
สุรีย์เรืองเร้นเหลี่ยมวลาหก
ส่องแสงปรกท้องทุ่งที่เวิ้งว้าง
แสงอำไพสีอำพันดูรางชาง
อัมพรสว่างด้วยอำนาจอาภากร
6 ธันวาคม 2544 23:02 น.
กุ้งถุงทอง
กระแทกครืนสาดโครมโถมคลั่ง
ปรากฎเสียงก้องดังกัมปนาท
ปะทะใส่ไม่ยั้งพลังสาด
กระแทกพลาดคลาดฝั่งเข้าบ้านเรือน
ยังถาโถมต่อไปไม่ยั้งหยุด
พลังสมุทรส่งใส่ไม่คลาดเคลื่อน
ระลอกแรกผ่านไปก็แค่เตือน
สัญญานเหมือนระลอกสองกำลังมา
สายฟ้าฟาดฟาดไปใส่ศิลาหิน
ทั้งกรวดดินลอยสูงเกือบเทียมฟ้า
ทั้งสายลมสายฝนก็พัดพา
พัดไม้ป่าลอยไปใกลลิบลับ
เมฆาสีดำนำหน้า
สุริยนพ้นฟ้านภาดับ
หมู่แสงสูรย์สิ้นสว่างสลัวจับ
ทั้งฟ้ากลับมืดไปในพริบตา
4 ธันวาคม 2544 21:21 น.
กุ้งถุงทอง
จักจารึกรักของพ่อได้พอหรือ
แม้นจักถือภูผาเอามาเขียน
จารึกลงพื้นสมุทรจนสุดเดียร
บันทึกเวียนทั่วหล้ามิจาพอ
เพราะพ่อดังดวงรพีที่ส่องแสง
ให้ทางแจ้งตลอดไปไม่ระย่อ
หากลูกท้อพ่อก็ช่วยใช่รีรอ
มิร้องขอพ่อช่วยด้วยใจจริง
3 ธันวาคม 2544 17:16 น.
กุ้งถุงทอง
ดังกริชปักสลักลึกลงกลางอก
ดังหมู่นกกาฉกกินสิ้นเนื้อหนัง
ดังกระดูกลูกสะบ้าผุพัง
ประดุจดังพยัคฆามากัดกิน
ดังถูกสับ สับ สับ เป็นท่อนท่อน
ดังโดนขอนไม้ทับกับผาหิน
ดังโดนช้างกระทืบจนจมดิน
ดังผ้าซิ่นรัดหัวใจให้สิ้นลม
ดังโดนฝนดาวตกหกใส่หัว
ดังโดนวัวบังคับให้กินยาขม
ดังโดนแยงหูด้วยหลอดยาดม
ทั้งหมดนี้ไม่เท่าผมโดนมดกัด
30 พฤศจิกายน 2544 18:14 น.
กุ้งถุงทอง
(โคลงกลบท)
ลาวา
ลาวาระอุร้อน เร่งเผา
เผาซากเศาเมืองเก่า หม่นไหม้
ไหม้จนหมดเหลือเงา คงอยู่
อยู่แต่ซากเมืองไว้ แค่ให้อาลัย
พายุ
วาตภัยพัดเข้า เขตนคร
นครทั่วแทบเอียงนอน พินาศให้
ให้ระนาดลุ่มดอน พังหมด
หมดทั่วทั้งเขตไร้ ร่างเค้าเงาอดีต