20 กันยายน 2552 16:50 น.
กุ้งก้ามกราม
สาใจหรือในกรรมการห้ำหั่น
ไทยทั้งนั้นแข็งข้อเข้าต่อสู้
ต่างชาติคงเห็นเลิศล้วนเชิดชู
ผองศัตรูคงพรั่นเพริดชั้นเชิง
จึงก่อศึกสายเลือดล้นเดือดพล่าน
เข้าประหัตประหารห่ามจนเหลิง
ทำเพื่อไทยใครสั่งมาหรือระเริง
สุมกองเพลิงเผาไทยอยู่ในนั้น
วีรกรรมบรรพชนไหม้ป่นปี้
ลืมศักดิ์ศรีความเป็นไทยหรือไรนั่น
จึงกระทำย่ำยีตะบี้ตะบัน
แยกเลือดไทยต่างกันด้วยฉันทา
สายเลือดไทยทุกแหล่งล้วนแดงเข้ม
ร่วมเติมเต็มชาติไทยให้แกร่งกล้า
ขาว-น้ำเงินคือศาสน์-กษัตรา
ยึดมั่นมารวมในผืนไตรรงค์
หยุดแตกแยกร่วมทางร่วมสร้างสรรค์
จับมือกันร่วมจูงสู่สูงส่ง
หลอมใจรวมร่วมกันให้มั่นคง
ร่วมโบกธงงามสง่าให้...สาใจ
8 กันยายน 2552 15:12 น.
กุ้งก้ามกราม
เจ้าสามเกลอดื้อดึงตะบึงตะบอน
คิดยอกย้อนมิหลับกระสับกระส่าย
ไร้ความสุขทุกข์ท้นทุรนทุราย
จึงวุ่นวายในยุคขมุกขมัว
เกลอที่หนึ่งนั้นเลือกกระเสือกกระสน
โลภเสียจนหนทางสลดสลัว
เพียรกระทำข่มเหงมิเกรงมิกลัว
ผลกรรมชั่วทุกข์หนักสะบักสะบอม
เกลอที่สองโทสะทะลักทลาย
เพื่อสิ่งหมายจิตละทะนุถนอม
ไร้สิ้นซึ่งท่าทีประนีประนอม
ชีวิตย่อมสิ้นศรีทุกวี่ทุกวัน
เกลอที่สามโมหะประดาประเด็น
หลงเพียงเห็นอิ่มเอมเกษมกระสัน
ปล่อยจิตเหลิงโลกีย์ตะบี้ตะบัน
คงสักวันเหี่ยวหดระทดระทวย
ทั้งสามเกลอหัวขวดจะอวดจะอ้าง
ชวนหลงทางตลอดจนมอดจนม้วย
หากเท่าทันหายกลุ้มกระชุ่มกระชวย
เจริญด้วยปัญญาอเนกอนันต์
7 กันยายน 2552 22:42 น.
กุ้งก้ามกราม
เขาคือนักทำลายและป้ายสี
ทำลายสามัคคีเคยมีอยู่
ทำลายวัฒนธรรมที่ค้ำชู
ทำลายผู้บริสุทธิ์ยากหยุดยั้ง
ทำลายความเป็นคนแหลกป่นปี้
ทำลายดอกไมตรีศรีสะพรั่ง
ทำลายสิ้นความสุขทุกข์ประดัง
ทำลายซึ่งความหวังความตั้งใจ
ทำลายแล้วแววตาอารีรอบ
ทำลายซึ่งระบอบดั่งบ้าใบ้
ทำลายความโอบเอื้อมิเหลือใย
ทำลายความสดใสในรอยยิ้ม
ทำลายความอ่อนน้อมมิค้อมหัว
ทำลายธรรมเกลือกกลั้วความชั่วปริ่ม
ทำลายความถูกต้องมัวหมองชิม
ทำลายพิมพ์สร้างสานลูกหลานไทย
เขาคือผู้ทำลายเลวร้ายยิ่ง
เขาทำลายทุกสิ่งเคยสดใส
เขาเกาะกินอยู่ทั่วทั้งหัวใจ
เขาคือใครใครจึงเขลาเจ้า...ความโลภ
6 กันยายน 2552 16:26 น.
กุ้งก้ามกราม
สมอง...มีไว้คิดวินิจฉัย
จิตใจ...มีไว้ผูกความถูกต้อง
จิตใจ...หากเหหันผิดครรลอง
สมอง...ฤๅใคร่ครวญครบถ้วนความ
โทษเขา...ที่เห็นอยู่เทียมภูผา
ประดา...ด้วยเสนียดน่าเหยียดหยาม
เลวร้าย...ทุกกระบวนล้วนต่ำทราม
เหิมห่าม...การกระทำก่อลำเค็ญ
โทษเรา...กลับเห็นมีเท่าขี้หมา
ดวงตา...ฤๅเหมาะสมดมกลิ่นเหม็น
เพียงพิศ...แสงเฉิดฉันจากจันทร์เพ็ญ
มิเห็น...หลุมขรุขระผิวพระจันทร์
ขนตา...มากมายชิดอยู่ติดตา
เกินกว่า...เราจะเห็นอยู่เช่นนั้น
จะนับ...จำนวนเส้นยากเช่นกัน
ยาวสั้น...ยากรู้เห็นเช่นโทษตน
โทษเขา...ยากหลบเร้นมองเห็นง่าย
โทษเรา...ที่หลากหลายกลายล่องหน
สมอง...คิดดีร้ายคล้ายวกวน
จิตตน...ผู้กำหนดทั้งหมดแล
1 กันยายน 2552 16:11 น.
กุ้งก้ามกราม
เขาบอกว่า...ยังแย่แม้นแก่แล้ว
ไร้วี่แววแก่กล้าภาษาศิลป์
ถึงพากเพียรศึกษาเป็นอาจิณ
คงต่ำต้อยติดดินจนสิ้นใจ
เขาบอกว่า...เกินรับกลอนสับสน
ความวกวนจนหน่ายจะกรายใกล้
ดูแล้วช่างต่างชั้นห่างกันไกล
รู้พุงไส้...สังสรรค์เสียชั้นเชิง
เขาบอกว่า...ปล่อยโคให้โง่เง่า
หลงคว้าเงาต่อไปด้วยใจเหลิง
เขาชนชั้นสูงล้ำผู้ดำเกิง
เสียงเถิดเทิงหนวกหูมิสู้ฟัง
เขาบอกว่า...บ้านนี้ควรหนีจาก
สักหนึ่งซากศิลปินยังสิ้นหวัง
ชี้โพรงให้กระรอกบอกอยากดัง
ควรหันหลังทิ้งบ้านเป็นการดี
โคชราอย่างเราฟังเขาทัก
ขอวนหลักยึดฐานถิ่นบ้านนี้
ได้พึ่งพาอาศัยมาหลายปี
หากหลบลี้หญ้าอ่อนคงร้อนใจ