29 กันยายน 2550 11:01 น.
กุ้งก้ามกราม
เมื่อสองเราแยกทางกลางสายฝน
ทุกข์หมองหม่นก็เกิดในใจบอบช้ำ
ภาพความหลังสวยสดยังจดจำ
เหมือนตอกให้ย้ำเจ็บแปลบแทบขาดลม
เธอคงเป็นเช่นฉัน ณ วันนี้
ปวดฤดีสุดห้ามความขื่นขม
กับการแก้ปัญหาด้วยอารมณ์
ยิ่งเพาะบ่มความเจ็บหนาวเหน็บใจ
สายตาเธอที่มองมาเมื่อคราก่อน
เปี่ยมอาทรห่วงหากว่าสิ่งไหน
เมื่อได้พบสบตาคราครั้งใด
ยังพบนัยความหมายจากสายตา
สายตาเธอที่มองฉันทุกวันนี้
ฉันรู้ดีเธอยังรักมั่นนักหนา
ไยต้องทนหม่นหมองสองอุรา
รีบหลบมาอยู่แค่แค่ดูแลกัน
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
27 กันยายน 2550 15:11 น.
กุ้งก้ามกราม
เมื่อชะตาปิดกั้นสัมพันธ์รัก
อุปสรรคมีมากเช่นขวากหนาม
เพื่อปกป้องตัวตนจากคนทราม
จึงจำหยามความรักที่ปักใจ
แม้นจะต้องครองคู่กับผู้อื่น
แต่จุดยืนคงมั่นมิหวั่นไหว
ความรักที่เคยห่วงหายังอาลัย
และห่วงใยไม่เว้นอยู่เช่นเดิม
ถึงจะแยกเส้นทางต่างสืบสาน
อุดมการณ์ยังคงพร้อมส่งเสริม
เพื่อจุดหมายพร้อมขอช่วยต่อเติม
แม้นจักเพิ่มรอยช้ำ หยาดน้ำตา
พรากเพียงกายแต่ใจยังใกล้ชิด
ถูกหรือผิดยากนักจักค้นหา
หรือฟ้าแกล้งขีดเส้นเกณฑ์ชะตา
รู้เพียงว่ายากหักรักจากใจ
ได้เพียงรอ รอวัน สวรรค์รู้แจ้ง
เลิกกลั่นแกล้งกีดกันแม้วันไหน
จะคงรอและรออยู่ต่อไป
รอวันได้เคียงคู่อยู่ชั่วกาล
น่ายกย่องความรักที่หนักแน่น
รักสุดแสนมั่นคง แต่ น่าสงสาร
แล้วตัวเราจะมีไหมใครต้องการ
ร่วมสืบสานรักมั่นนิรันดร
**************************
26 กันยายน 2550 14:34 น.
กุ้งก้ามกราม
วันนี้ได้ปลากะพงหลงติดเบ็ด
จับขอดเกล็ดแล้วแล่แช่น้ำแข็ง
รีบเข้าครัวหาครกโขลกเครื่องแกง
ช๋าดร่อยแรงเพื่อนพี่น้องรับรองชัวร์
เลือกกระเทียมงามงามสามสิบกลีบ
ปอกหอมแดงเร่งรีบสิบห้าหัว
ขมิ้นเหลืองเท่าแม่มือรื้อในครัว
โขลกให้ทั่วค่อยค่อยเสริมเติมพริกลง
ชอบเผ็ดจัดก็ให้ใส่มากหน่อย
ชอบเผ็ดน้อยก็ใส่ตามความประสงค์
เติมกะปิหนึ่งช้อนโต๊ะต้องเจาะจง
อย่าลืมหลงขยับโยกโขลกให้เนียน
หั่นหัวพร้าวขนาดคำจดจำไว้
แช่น้ำให้ดูขาวดีกันสีเปลี่ยน
มะขามสดเจ็ดฝักใหญ่ไม่นั่งเทียน
ตามบทเรียนต้มให้เปื่อยแล้วไปกรอง
ใส่เครื่องแกงลงไปต้มให้พล่าน
ใส่เนื้อปลาที่จัดการหั่นเป็นบ้อง
สักโลครึ่ง จนเดือดพลั่กรีบตักฟอง
เติมเค็มต้องคอยเหลียวให้เปรี้ยวนำ
น้ำตาลปึกเติมใส่ให้รสหวาน
ค่อยคลืบคลานตามไปอย่าให้ล้ำ
ใส่หัวพร้าวที่แช่ไว้มิให้ดำ
กรอบทุกคำหากเดือดปุ๊บรีบปิดไฟ
แล้วมาชวนใครใครใกล้ใกล้บ้าน
เมื่อเลิกงานแล้วน่ะอย่าไปไหน
อร่อยจังตังค์อยู่ครบบรรจบไว้
มีแกงส้มปักษ์ใต้ให้กินฟรี
**************************
25 กันยายน 2550 06:39 น.
กุ้งก้ามกราม
ฉันทำผิดอะไรไว้นักหรือ
เธอจึงยื้อเหยียบย่ำทำลายฉัน
จะทำร้ายต่อไปถึงไหนกัน
ทุกคืนวันเจ็บแปลบแทบขาดลม
ทั้งที่ปากบอกรักอย่างหนักแน่น
แต่กระทำเหมือนแค้นแสนขื่นขม
ปล่อยฉันให้เหน็บหนาวร้าวระบม
ทนระทมบอบช้ำทุกข์ลำเค็ญ
เธอกอบโกยเก็บเกี่ยวจนเหี่ยวแห้ง
ดุจฝูงแร้งรุมกระชากซากเน่าเหม็น
แล้วบอกว่าที่ทำเพราะจำเป็น
ช่างเลือดเย็นจริงแท้เห็นแก่ตัว
เธอย่ำยีจนช้ำชอกแล้วบอกรัก
ฉันตระหนักดีว่ามันน่าหัว
สักวันหนึ่งเธอจะพลาดจนหวาดกลัว
ผลความชั่วหรือจะให้เธอได้ดี
หากว่าเธอตรองตรึกสำนึกได้
เธอจะไม่ทำฉันเช่นวันนี้
รีบกลับใจเถิดหนาอย่ารอรี
หยุดย่ำยี แผ่นดิน...ก่อนสิ้นใจ
*****************
22 กันยายน 2550 13:50 น.
กุ้งก้ามกราม
บ้านกลอนไทย
คืออะไรหลากหลายมากมายยิ่ง
คือสถานพำนักเพื่อพักพิง
สร้างสรรค์สิ่งสวยสดด้วยบทกวี
คืออุทยานหอมหวนมวลบุบผา
ละลานตางามสะพรั่งทั้งกลิ่น-สี
ภมรหนุ่มรุมเร้าเข้าพาที
มิตรไมตรีบานสะพรั่งทั้งอุทยาน
คือสถานแลกเปลี่ยนการเรียนรู้
ทั้งคุณครูทั้งนักเรียนเพียรสืบสาน
เพื่อธำรงมธุรสบทกลอนกานท์
เพื่อลูกหลานรู้ค่าภาษาไทย
คือเรื่องราวหลากหลายในชีวิต
ที่ลิขิตจากกมลจนหวามไหว
มีทั้งทุกข์-สุข-เศร้า คละเคล้าไป
ด้วยหัวใจเปี่ยมรักอักขรา
คือโลกในนิยามของความฝัน
มิแบ่งชั้น-เชื้อชาติ-ศาสนา
มิข้องขัดผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมา
บรรจงจินตนาการ ณ บ้านกลอน
คือศาลาคนเศร้าคลายเหงาโศก
ดับวิโยคกลัดกลุ้มที่รุ่มร้อน
ระบายความรันทดทุกบทตอน
ได้คำสอน-แนะนำ-คำปลอบใจ
คือสถานรวมพลคนรักชาติ
ศูนย์รวมปราชญ์ปรัชญาน่าเลื่อมใส
คอยบ่งชี้มูลเหตุแห่งเภทภัย
ทั้งใกล้ไกลล้วนรักชาติ-ศาสน์-กษัตรา
คือลานธรรมสอนใจให้ผ่องผุด
หมายยั้งหยุดแม้เพียงเศษกิเลสหนา
ด้วยคำกลอนแนวธรรมพระสัมมา
ด้วยศรัทธาแน่วแน่อย่างแท้จริง
บ้านกลอนไทย
คืออะไรมากมายหลากหลายสิ่ง
คือสถานพำนักเพื่อพักพิง
นับวันยิ่งงามสดใส thaipoem
............................................