6 พฤศจิกายน 2550 20:15 น.
กุหลาบน้ำตา
***น่านนภามืดหม่นอนธฤทธิ์
เมฆาปิดทินกรริดรอนแสง
พระพายพัดบัดโบกกระโชกแรง
วารีแปลงเปลี่ยนปรับกลับทิศทาง***
***ให้โครมครึกครืนครั่นสนั่นภพ
ฝุ่นตลบธุลีหลากขึ้นขวากขวาง
ธรณีบิ่นบั่นสั่นรยางค์
ล้วนร่องรางหลืบลึกละทางจร***
***บาดาลดิ่งเดือดดาลยากทานทัด
วารีหยัดแยกหยั่นยุทธศร
สายกระแสสาดกระเซ็นเป็นฟองฟอน
วารีร้อนสัตว์หลั่งล้วนพลั้งตาย***
***น่านนภามืดหม่นอนธกาล
สุรีย์รานรณฤทธิ์พลผิดพ่าย
เทียมบรรพตสลดศพหลั่นเรียงราย
โลหิตกลายกลั้วกลอกซอกธรณี***
***ภานุมาศประภาสเปล่งเปลี่ยนทินกร
พฤกษาซอนซอกซบลงกลบที่
ภุมรินบินหลากพรากมาลี
ฝูงสัตว์พลีจัตุบาทขลาดเขลาการณ์***
***อาถรรพณ์แห่งพจนีย์ที่สาปแช่ง
ทุกหล้าแหล่งอมฤตสถิตสถาน
อถรรพเวทดับวูบดั่งอันตรธาน
ไสยาสน์ญาณโสฬสชั้นวิมานรุจี***
2 พฤศจิกายน 2550 21:43 น.
กุหลาบน้ำตา
***หยาดน้ำตารดกุหลาบฉาบทั้งดอก
ร้าวระลอกบอบช้ำบนคำหวาน
หลงในเล่ห์ภวังค์รักสลักมาน
บางใครปลอบเปรียบปานสมานทรวง***
***หยาดน้ำตามิทันแห้งแห่งกุหลาบ
เช่นเวรกรรมระยำบาปสักแสนสรวง
แต่ต้องช้ำซ้ำเก่ามาเย้าดวง
ด้วยคำลวงหลอกล่อท้อระทม***
***โปรยคำรักปักคำลาท้าลิขิต
ดวงชีวาไร้ชีวิตอย่างขื่นขม
ดังเอากริดกรีดเฉือนด้วยช้ำตรม
เกิดเป็นปมเปื้อนโลหิตติดมาลี***
***หยาดน้ำตาปนเลือดเหมือนเชือดจิต
เชือดจริตเลือดจะหลั่งล้นวิถี
กลิ่นแห่งรักจางหม่นจนสิ้นดี
เหลือราคีแห่งราคะปะแปมปน***
***กุหลาบเอยชั่งอาภัพด้วยอับโชค
กุหลาบเอยเจ้าชั่งโศกอย่างสับสน
ทั้งน้ำตาและหยาดเลือดเลอะระคน
กุหลาบเอยเจ้าทุกข์ทนพิกลอุรา***