28 มกราคม 2550 14:21 น.
กุมภ์
กระท่อมฟางหลังน้อยอยู่โดดเดี่ยว
ดูเปล่าเปลี่ยวกลางดอยไม่สับสน
ห่างไกลแสงสีมายาห่างชุมชน
เหมือนหลุดพ้นห่างคนเป็นโลกเดียว
หลังคามุงด้วยหญ้าแฝกแตกกอฝอย
ค่ำหิ่งห้อยลอยลมบินโฉบเฉี่ยว
ใบไม้ไหวนั่งผิงไฟอยู่ดายเดียว
เดินท่องเที่ยวเป็นหนึ่งเดียวกับพงไพร
กลางไพรเถื่อนเดือนเคลื่อนฤดูเปลี่ยน
เหมือนห้องเรียนสอนสั่งให้จำไว้
พอฝนมาหาหน่อไม้ได้ตามใจ
ฝนผ่านไปเร่งก่อไฟไว้คั่วชา
เสียงไก่ป่าขันมาตอนรุ่งสาง
เปิดหนทางแสงทองส่องภูผา
แหวกกอข้าวงอกแซมต้นถั่วงา
แสนโอชาข้าวถั่วอยู่ทั่วแปลง
ไม่ไถพรวนไม่ก่อกวนพวกแมงมด
ไม่หว่านรดสารเคมีให้แสลง
ไม่ฆ่าหญ้าไม่ใช้ยาฆ่าแมลง
คน,พืช,แมงร่วมแรงกันทำนา
รอฝนโปรยฟ้าโรยละอองน้ำ
แดดลมซ้ำทำผลผลิตงามนักหนา
วิธีทำนาโดยไม่ทำนา
เหลือเวลาไว้หา" ตัว" ใน" ตน"
กว่าหลายปีหัวใจเคยหลงผิด
ผ่านชีวิตพอเพียงเลิกสับสน
เพียงบ้านฟางหลังน้อยไม่ร้อนรน
ไม่เคยสนจะรวยจนไม่ใส่ใจ
คือ" ลุงฟาง" สร้างโลกด้วยฟางข้าว
ทุกย่างก้าวดำเนินไปด้วยใจไฝ่
ใช้หลักธรรมนำชีวิตตลอดไป
ค้นหาใจ" สันโดษ" บนตัวตน.................
27 มกราคม 2550 21:09 น.
กุมภ์
ร่ำสุราเพียงผู้เดียวเปลี่ยวหัวอก
ได้แต่ยกแก้วเหล้าดื่มเบื่อแสงสี
หลบอยู่ในมุมสลัวกลั้วดีกรี
อยากจะหนีไปให้พ้นคนหลายใจ
หลบเร้นหลีกปลีกวิเวกในบาร์เหล้า
เรื่องมันเศร้าเพราะคบเธอหรือไฉน??
คราวผิดหวังนั่งซดเหล้าแก้ช้ำใจ
เหมือนบ้าใบ้น้ำตารื้นเพราะรักเธอ
ดื่มคนเดียวอยู่มุมร้านไม่อยากเห็น
เสียงเย็นเย็นเนื้อหอมหอมอาจพลั้งเผลอ
เรียกเด็กมาสั่งโซดามาไอ้เกลอ
อยากลืมเธอสักชั่วคืนมันขื่นใจ
ยกแก้วเหล้าเนื้อตัวเบาแต่หัวหนัก
พิษความรักกำเริบเริ่มรินใหม่
หวังน้ำเหล้าล้างพิษรักไปจากใจ
ไม่ทันไรเหล้าหมดไปกว่าค่อนแบน
ถึงเหล้าขมแต่คำคนนั้นขมกว่า
จำนรรจาสรรหามาสุขเหลือแสน
คำหวานหวานกลับเป็นขมมาทดแทน
ไม่เคียดแค้นแม้โดนเธอนั้นหลอกลวง
พิษจากเหล้าพิษจากรักไหนหนักกว่า
วาสนามีแค่นี้แม้ห่วงหวง
หนุ่มบ้านนอกพูดไม่ออกไร้คนควง
น้ำตาร่วงลงแก้วเหล้าเคล้าดีกรี
เหล้าหมดแบนแต่พิษรักยังไม่หมด
มธุรสวาจาใครแต่ก่อนนี้
ดวงหน้าเธอวาจาเธอดูเข้าที
สักนาทีลืมไม่ได้ยังไงกัน??
เปิดแบนใหม่ดื่มเข้าไปให้ลืมรัก
รวมสี่กั๊กคงเพียงพอไม่นอนฝัน
เมาทั้งรักเมาทั้งเหล้าคละเคล้ากัน
ขอหนึ่งวันจะขอเมาให้กระจาย
คอไม่อ่อนแต่ใจอ่อนชักป้อแป้
มันท้อแท้หมดทางแก้ฝันสลาย
อาณาจักรคนอกหักแสนเดียวดาย
คงไม่สายขอดื่มให้คนหลายใจ
26 มกราคม 2550 14:03 น.
กุมภ์
โลกหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงทุกสรรพสิ่ง
แม้รักของชายหญิงที่แน่วแน่
ถึงยามนี้ใกล้ชิดกันต่างดูแล
แต่ที่แท้รักนั้นยังไม่มั่นคง
ตราบไดที่ลมหายใจยังร้อนผ่าว
รักหนุ่มสาวนั้นจริงแท้หรือแค่หลง
สายสัมพันธ์ลึกซึ้งตามตกลง
สิ่งประสงค์คือสิ่งไดมากกว่ากัน??
ดั่งผีเสื้อบินตอมดอมดมดอก
รักหรือหลอกเพียงน้ำหวานใช่ความฝัน
หรือแค่บินชิมน้ำหวานไปวันวัน
สิ่งไหนกันที่ผีเสื้อนั้นต้องการ??
แว่วบทเพลงมนต์รักของผีเสื้อ
วันที่เหลือเผื่อเวลาไว้เล่าขาน
เอาพิมเสนไปแลกเกลือจะเสียการ
เพราะวันวารนั้นแสนสั้นและเปราะบาง
ณ.เวลาวันไดได้เคียงคู่
ความสุขอยู่เสมอใจไม่เคยห่าง
สัมพันธ์มั่นรักเธอไม่เคยจาง
ถึงอ้างว้างแต่ไม่ร้างแม้ห่างไกล
ณ.วันไดใครเบื่อโปรดรับรู้
ชีวิตยังดำรงอยู่รู้ใช่ไหม
กระซิบบอกกันบ้างแทนห่วงใย
จะส่งยิ้มไปให้เธอนั้นโชคดี
โลกหมุนวนสับสนทุกคืนค่ำ
เพียงให้คนจดจำค่ำคืนนี้
อาจไม่ถึงเศษส่วนเสี้ยววินาที
ตามวิถีกำเนิดกำหนดมา
เกิดเป็นคนเยี่ยมแท้ก่อกำเนิด
แสนประเสริฐเป็นผลผลิตยากเสาะหา
รักกันไว้เผื่อแผ่กันมีเมตตา
เผื่อเวลาไว้ในโลกสงบงาม..................
23 มกราคม 2550 14:40 น.
กุมภ์
หวลคำนึงถึงตัวฉันตอนเป็นเด็ก
ได้เพียงตุ๊กตาตัวเล็กมีความหมาย
จินตนาการก่อกว้างดั่งเลทราย
และเร่าร้อนดั่งกองไฟก่อไฟฟืน
เป็นเส้นทางจินตนามีตรงอ้อม
ดั่งวงล้อมทางม้าเหล็กใช่ทางอื่น
ถูกกำหนดไปตามทางเหมือนกลมกลืน
มิอาจฝืนไปทางอื่นคือรถไฟ
หวลคำนึงถึงตัวฉันตอนจากบ้าน
ต้องซมซานสู่กรุงเทพตามฝันไฝ่
เก็บเรี่องราวข่าวบ้านนอกไว้ในใจ
ปลดปล่อยไปตามแต่ใจจะนำพา
หากเปรียบเมืองศิวิไลดั่งเรือรถ
ฉันคงหมดโอกาสนั่งวางทีท่า
เป็นได้เพียงเกวียนเทียมควายไร้ราคา
ทางข้างหน้านั้นยากกว่าจะก้าวเดิน
เป็นส่วนเกินอยู่ก้นบึ้งตกผลึก
จิตสำนึกรับไม่ได้มันขัดเขิน
หลายเส้นทางอยู่ตรงหน้าให้เลือกเดิน
แต่ฉันกลับเป็นส่วนเกินของสังคม
หวลคำนึงถึงตอนนี้ไม่ใช่เด็ก
ค่าตุ๊กตาตัวเล็กเล็กไร้ความหมาย
เดินทางผ่านทางรถเรืออย่างมากมาย
ทั้งเพื่อนฝูงยังล้มตายตามเวลา
ภาพตุ๊กตาในมือเด็กแต่ครั้งก่อน
บทเรียนสอนเป็นความจริงให้ค้นหา
ดั่งถูกเชือกสนตะพายแต่ก่อนมา
วันเวลากำหนดตัวดั่ง" วัวงาน"
17 มกราคม 2550 00:02 น.
กุมภ์
ชีวิตเอยเลยล่วงผ่านห้วงฝัน
ย้อนคืนวันมองไปไร้ความหมาย
เป็นชีวิตที่เรียนรู้ทั้งใจกาย
เพียงเพื่อได้เพื่อนเกลอคือหัวใจ
ความเปลี่ยวเหงาในชีวิตล้วนเคยผ่าน
เกินทัดทานตัวของเราใจอยู่ไหน
ความโหดร้ายในชีวิตต้องทำใจ
เพียงเพราะเหตุตัวกับใจไม่ตรงกัน
บางค่ำคืนหัวใจพ่ายสังขาร
บางวันการกลับเปลี่ยนไปใจยังฝัน
เพราะแสงสีมากมายมีสารพัน
คอยผลักดันให้หลงทางไม่ยากเลย
ฝันยังคอยติดตามทุกคืนค่ำ
ฝันดื่มด่ำลวงใจมิอาจเผย
ดั่งนกน้อยบินเหลิงลมเหมือนไม่เคย
พลันล่วงเลยตกลงกลาง" ทะเลใจ"
ทุกชีวิตดิ้นรนค้นจุดหมาย
หากร่างกายที่ห่อใจกลับหาใช่
ลึกแค่คืบเที่ยวสืบค้นเพราะเหตุได
เพียงหาใจในใจเจอก็สุขงาม