30 มกราคม 2553 22:06 น.
กุมภ์..ผู้ชายในสายลมหนาว
~๐ครั้งองค์พระทศพลสมเด็จเจ้า
เสวยชาตินานเนาเป็นหงสา
เลี้ยงมารดรปิตุเรศผู้ชรา
ไกรลาศหนาถิ่นพำนักในพงพี~
~๐เวลาเช้าพร่ำบ่นมนตราฤทธิ์
อันศักสิทธิ์ป้องกันภัยในทุกที่
จากหมู่พรานไพรพนาที่มากมี
ก่อนจรรีบินเข้าเขตดงไพร~
~๐หาอาหารเลี้ยงพ่อแม่ที่แก่เฒ่า
ไม่จิตเบาเพลินเที่ยวเถลไถล
ระวังกายสำรวมจิตมิวางใจ
จึงรอดพ้นพิบัติภัยมาทุกครา~
~๐ถือสัจจะละทางเดินโดยประมาท
จึงแคล้วคลาดบ่วงพรานดักหงสา
ที่คอยคิดทำลายหมายบีฑา
พรานชแรแก่ชรามิสมการณ์~
~๐ถึงคราวเคราะห์เพราะเหตุแห่งชีวิต
กรรมมาปิดบดบังคิดสังหาร
เมื่อวันหนึ่งนานเนื่องจำเนียรกาล
ลงมาหาอาหารเหมือนดั่งเคย~
~๐กิริยาอันใดที่เคยทำ
ทั้งจิตจำทำประกอบไม่วางเฉย
ทั้งระวังไม่ประมาทสักนิดเลย
ทำอย่างเคยคำสอนบิดรมารดา~
~๐เดินก้าวย่างกลางไพรอย่างเคยคุ้น
จิตการุณห่วงพ่อแม่เป็นหนักหนา
หมายเสร็จกิจรีบกลับเหมือนทุกครา
อนิจจาเดินติดบ่วงของพรานไพร~
~๐พร่ำเสียงขานน้ำตานองอาบใบหน้า
ว่าพ่อจ๋าแม่จ๋าเป็นไฉน
ลูกมาติดบ่วงพรานอาจต้องตาย
ต่อนี้ใครจะเลี้ยงท่านให้อยู่ดี~
~๐พรานได้ยินเสียงหงส์องค์โพธิ
คิดดำริไต่ถามตามเรื่องนี้
เดินเข้าหาเอ่ยวาจาไม่ช้าที
ถามสิ่งที่ตัวพบประสบมา~
~๐ว่าหงส์ทองไฉนท่านจึงประมาท
ก่อนเก่งกาจเรามิอาจจะเข่นฆ่า
ตั้งแต่หนุ่มเราเฝ้าจับตัวท่านมา
จนตัวเราเฒ่าชรามิสมปอง~
~๐มาวันนี้เห็นสมอารมณ์หมาย
ตัวท่านไซร้ย่ามใจหยิ่งผยอง
เดินสุ่มสี่สุ่มห้าตาไม่มอง
เข้ามาต้องบ่วงเราน่าเศร้าใจ~
~๐แทนที่จะห่วงไยในชีวิต
กลับพร่ำเสียงเพียงพินิจน่าสงสัย
ชวนเราคิดจึงอยากถามเนื้อความนัย
ก่อนจับตัวท่านไปตามใจเรา~
~๐ครานั้นหงส์องค์โพธิได้เอ่ยตอบ
ว่าพรานเอ๋ยท่านทำชอบมิใช่เขลา
ท่านเป็นเช่นบัณฑิตคิดฟังเรา
มิมัวเมาฆ่าแกงในทันที~
~๐อันตัวเราที่มาติดบ่วงท่าน
มิได้มั่นทางมิชอบในวิถี
มิได้ยึดทางประมาทในชีวี
เป็นเช่นนี้เพราะคราวเคราะห์ของเราเอง~
~๐อันตัวเราจะต้องตายไม่คิดห่วง
เพราะรู้ล่วงบ่วงกรรมที่ข่มเหง
เพราะกรรมเก่าเราทำมาฉะนี้เอง
จึงไม่เกรงชดใช้ด้วยชีพตน~
~๐แต่มารดาบิดาของเรานั้น
ทั้งสองท่านแก่ชราจะรับผล
แห่งความทุกข์เหลือประมาณมิทานทน
เมื่อรู้ผลแห่งบุตรน้อยผู้จากไป~
~๐จะไม่มีใครผู้ใดมาเลี้ยงป้อน
หาอาหารจัดที่นอนให้ท่านได้
เมื่อมีเหตุภัยเภทมากล้ำกราย
ใครที่ไหนจะให้ท่านพักพิง~
~๐ก่อนที่เราจะถึงซึ่งชีวิต
ขอวอนท่านสักนิดอย่าคิดนิ่ง
ปล่อยเราไปลาแม่พ่อขอประวิง
ขอสักสิ่งก่อนพรากชีพไปจากตน~
~๐อันตัวเรายึดถือในสัจจะ
อมตวาจาทุกแห่งหน
จะไม่หลบหนีหน้าชะตาตน
สมดั่งใจดั้นด้นจะกลับมา~
~๐พรานได้ฟังจิตอ่อนไหวใจสงสาร
ว่าชาติพันธุ์เป็นสัตว์เหล่าปักษา
ใจประเสริฐกว่าบางคนในโลกา
ยึดคุณค่าตายก็ยังกตัญญู~
~๐จึงปลดบ่วงโดยไวไม่รอช้า
ประนมหัตถ์วันทาไหว้ใจอดสู
พร้อมอดโทษต่อหงส์ทองเฝ้ามองดู
น้ำตาพรูหลั่งไหลใจเทิดทูน~
~๐พลางเอื้อนเอ่ยวาจาว่าพ่อหงส์
ขอท่านจงกลับไปวังไอยศูรย์
เลี้ยงแม่พ่อของท่านทดแทนคุณ
ตราบชีวิตดับสูญไปตามกาล~
~๐เพราะตัวท่านกตัญญูรู้สัจจะ
เราจะละการผลาญชีวิตท่าน
ขอสวัสดิ์ชีพนี้ท่านจงนาน
เจริญสุขทุกสถานนิรันดร์เทอญ~
~๐ถ้าชีวิตคนเราเปรียบเรื่องนี้
มีทั้งดีทั้งผิดคิดตื้นเขิน
แต่ยึดมั่นทำดีบนทางเดิน
แม้เผชิญผิดพลั้งในบางครา~
~๐ถึงคราวต้องหมองช้ำเพราะกรรมซัด
ต้องติดขัดข้องจิตด้วยโมหา
ไม่ตั้งใจให้พลาดผิดเจตนา
แต่กรรมพาดลให้พลั้งดังคำเปรย~
~๐สำคัญที่มีคนให้โอกาส
เมื่อเขาพลาดไม่เหยียบซ้ำทำเมินเฉย
ยืนเคียงข้างสร้างแรงใจให้ดั่งเคย
ไม่ละเลยแม้ยามพบประสบภัย~
~๐ขอเพียงตั้งรักวางไว้ตรงหน้า
ยึดความดีและศรัทธาไม่หวั่นไหว
แม้มีเหตุอาเภทหนักสักปานใด
จะพ้นภัยเพราะดีป้องคุ้มครองตน.~