21 กุมภาพันธ์ 2555 16:39 น.
กิ่งโศก
ชู้ น. (วรรณ) คู่รัก, บุคคลที่เป็นที่รัก, เช่น มาย่อมหลายชู้เหล้น
เพื่อนตน. (กำสรวล); ผู้ล่วงประเวณี; การล่วงประเวณี; ชาย
ที่ร่วมประเวณีด้วยเมียเขา เรียกว่า เป็นชู้, หญิงที่ยังมีสามี
อยู่แล้วร่วมประเวณีกับชายอื่น เรียกว่า มีชู้,เรียกชายหรือ
หญิงที่ใฝ่ในทางชู้สาวว่า เจ้าชู้.
ที่มา : พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒
หากพิจารณาแบบถ่องแท้ แล้วไซร้ คำว่าชู้ นั้นมิใช่ความหมายในด้านลบด้านเดียวอย่างที่เราเข้าใจ พอได้ยินได้ฟังมีคำว่าชู้ ภาพที่มองจะเป็นเรื่องการผิดศิล๕ นั่นคือผิดลูกผิดเมียคนอื่น ในส่วนที่ยกมาที่ใช้ในเรื่องผิดศิลผิดธรรม เขียนได้ว่า เป็นชู้และ มีชู้ นั่นจะหนักไปทางเรื่องชู้สาว เป็นเรื่องฝ่าฝืนข้อกาเมในศีลห้าในข้อห้ามของพุทธมามกะ แต่ภาพในปัจจุบันช่วงยุคโลกไร้พรมแดน คำว่า เป็นชู้ มันเริ่มจะแปรเปลี่ยน เรียกว่า กิ๊ก ว่ากั๊ก กัน เลยทำให้ความละอายต่อผิดแบบนี้มันทอนเบาลง ไม่เหมือนจารีตเดิมๆ สตรีมิควรจ้องหน้าบุรุษ ควรรักนวลสงวนตัว บางถิ่นบางที่ แม้นการถูกเนื้อต้องตัวเป็นต้องถูกประเพณีลงทัณฑ์ เช่น เสียผี หรือ สร้างความอับอาย อา...บัดนี้ เวลาหมุนไปข้างหน้า บางอย่างบางเรื่องกลับดูล้าหลัง มิใช่สำคัญเสียแล้ว สิ่งดีๆในอดีด ดูไร้คุณค่ามนต์ขลัง เมื่ออยู่ในโลก ดิจิตอลแบบนี้
ส่วนคำว่า เจ้าชู้ เป็นเรื่องใฝ่ในความชอบหรือโปรยความชอบทิ้งเสน่ห์แลมองบุคคลอื่นอยู่เนืองๆ นั่นทำให้คำว่าเจ้าชู้ดูจะคู่กับความมีเสน่ห์ในบุคลิคของแต่ละบุคคลคน หากมีรูปร่างหน้าตาดี คำพูดชวนฟังรื่นรมณ์เสนาะหูแล้ว คำว่าเจ้าชู้จึงดูดีกว่า คำว่า เป็นชู้ หรือมีชู้ นั่นเอง
คำว่าชู้ เมื่อมาบวกหรือสนธิเข้ากับบางคำ ก็ดูเป็นคำที่แสนจะโรแมนติกยิ่งนัก เช่นคำว่า ยอดชู้ แม่ยอดชู้ พ่อยอดชู้ ช่างดูว่าเป็นคำเรียกขานเรียกหายอดยาใจ ระหว่างคนรักกับคนถูกรัก เป็นถ้อยถวิลหาแลร่ำหาด้วยใจปฏิพัทธ์ ต่อยอดชู้
ในวรรณคดีไทยหรือวรรณคดีในแถบเอเชียนั้นมักมีตัวพระเอก (ตัวนำ) ส่วนมากจะมีเสน่ห์ เก่งด้วยฤทธีในเชิงรบและมีชั้นเชิงเกี้ยวพาราสีต่ออิสตรีเพศ เช่น พระอภัย (แกไม่ค่อยอภัยให้แก่สตรีเลยอะ) เจอใคร แกไม่ขัดใจตัวเอง แม้แต่นางผีเสื้อสมุทร นางเงือก หุหุ....หรือ จะเด็ด ในเรื่องผู้ชนะสิบทิศ พ่อมังฉงาย หรือบุเรงนอง ของท่านยาขอบ เจอตะละแม่ที่ไหนแกเกี้ยวจีบดะไปหมด ขนาดมี จันทรา , กุสุมา ยังไปจีบ นันทวดี อเทตยา ปอละเตียง กัณฑิมา โชอั๊ว....หรือแม้นแต่ขุนแผน ตัวเอกในขุนช้างขุนแผน ที่แหกผ้าเหลืองมาหาสาว ฉะนั้นโดยเฉพาะพระเอกในวรรณคดี ส่วนมากเจ้าชู้ เก่งด้วยกฤติยาอาคม ผิดกับ ฝ่ายนางเอก จะมีบทที่ไม่เด่น มักจะยอมพระเอกอยู่ร่ำไป อาจมีบางเรื่องที่ สะท้อนถึงการกดขี่เพศหญิง(ดังที่กำลังอ้างกัน 55) อาทิเช่น นางกากี ที่เจ๊กลากไปไทยลากมา ( ครุท, พรมทัต,คนธรรพ์) หรือ นางโมรา นางวันทอง โดยพยายามสื่อว่าเหล่านาง มักมากในกามคุณ ทั้งๆที่เนื้อหาจะเกิดจากการบังคับขืนใจทั้งสิ้นและผู้ที่มักมากในกามคุณนั้นเกิดแต่ชายส่วนมาก
เพื่อนๆ เคยได้ยินคำนี้ บ้างไหม Man City Lion หรือที่ล้อๆ อเลนเดอลอง เมืองไทย กันในยุคนักร้องลูกทุ่งที่กำลังดังในช่วงนั้น จากน้ำ เสียงสูงๆเล็กๆขึ้นจมูกนามของเขาคือ ชาย เมืองสิงห์ นั่นละครับ เคยบรรจงร้องเพลงแนวสนุก ด้วยบทเพลงที่ว่า ...เมียพี่ขมีชู้ ชาวบ้านรู้กันแซดๆๆๆๆๆ รักกันมาแปดเก้าปี...ลูกสองคนหน้ามนยังหนี .. 55 เพลงนี้ในท่ามกลางวงมโหรีเมรัยสไตล์บ้านนอก บรรดดาคอเหล้าเขาจะร่วมร้องกันให้ครื้นเครง ตามด้วยพวก เคาะชามเคาะช้อนกาลมัง ให้จังหวะ กันแบบโจ๊ะๆๆๆ พรึมๆๆ ร้องกันให้ครึกครื้นนัก แสนจะเร้าใจวัยสะรุ่นในยุคนั้นยิ่ง
แลอีกคำๆหนึ่งที่เราๆ คุ้นหูกันดี คือคำว่า ชู้ทางใจ คือคงได้แต่เพียงชมชอบกันทางสายตา และในใจเท่านั้น จึงมีบทเพลง ที่คุณวินัย พันธุรักษ์ ขับร้องด้วยน้ำเสียงสไตล์เสียงต่ำๆก้องๆออกแนวลูกกกรุงหน่อย ๆสะกิดหัวใจให้ผู้คนต้องตั้งตาตั้งหูฟังกันเลย ยุคนั้น นอกจากเพลง วอคอ รอรักแล้ว เพลงที่ดังก็เพลงนี้แหละครับ
ลองฟังบทเพลงนี้กันนะครับ ชู้ทางใจ
เพลง ชู้ทางใจ
ขัยร้อง วินัย พันธุรัตน์
ถ้าผมรักคุณจะผิดมากไหม
G A Bm A
รักด้วยหัวใจแม้ไร้สิทธิ์หวงและห่วง
D Bm Em
แอบซ่อนเร้นเหมือนเป็นความผิดใหญ่หลวง
A D Bm Em A
เก็บไปฝันในทรวง ขอเป็นเพียงชู้ทางใจ
D F#m
ทุกวันต้องการเพียงแค่ได้เห็น
G A Bm A
ไม่เคยคิดเป็น เพื่อนนอนแนบเคียงชิดใกล้
D Bm Em
เจ็บมามากนัก รักเอยไม่เคยสมใจ
A D A D
เจ็บอีกหนเป็นไร คงทนได้เช่นเดิม
G A D
*ชู้ ก็เป็นแค่ชู้ทางใจ
A Bm A G A
ศาลอาญาแห่งไหน คงไม่ให้รับโทษเพิ่ม
D B Em
องค์การความรัก มิได้ตราห้ามแต่งเติม
A D B Em A
จึงเป็นสิทธิ์แต่เริ่ม ที่ผมจะแอบรักคุณ
D F#m
**หากคิดแค้นเคืองก็จงอภัย
G A Bm A
นึกว่าเห็นใจ โปรดคลายระแวงเคืองขุ่น
D Bm Em
ห้ามความรัก โถมันห้ามยากนะคุณ
A D A D
(ปล่อยให้ผมว้าวุ่น รักคุณต่อไปเถิดหนา)
ดนตรี:A D/F#m/G/A/Bm D/Bm/Em A/ D/A/D
http://www.youtube.com/watch?v=mbfysv4W_jE
กิ่งโศกคนยาก ฝากกถ้อย ร้อยด้วยนารีปราโมทย์ สักบทเถิด
๏..โอ้โฉมสะคราญเอย ๏
๏ เนตรสบสบสะท้าน ........ สะเทือน อกเอย
สมัตผูกเสมือน ................. จิตแม้น-
ดุจมนตร์เป่ามิเบือน ........ หมายบ่าย เหเฮย
ต้องติดตรึงขึงแข้น ........ มิคล้อยเคลื่อนหนี ๚ะ๛
๏ สบคมเนตรคมนิ่งคะนึงนับ
ฉายทาบวับทรวงผ่าอุราพี่
ดวงตาฉ่ำเย้าดื่นดวงฤดี
สิโรราบชีพนี้มิคลอนคลาย
๏ เรียวขนงก่งแนวโค้งแถวเน้น
รั้งดั่งเช่นคันศรดีดอ่อนสาย
ดุจซ่อนเล่ห์ลึกเปลวในเรียวปลาย
ฉลาดล้ำเหลือร้ายเช่นพ่ายรอ
๏ ริมโอษฐ์อิ่มอวบย้ำแม่งามแย้ม
ไรทนแต้มวาวเต็มเปล่งเปรมต่อ
สะท้อนต้องตลึงแท้ยามแลทอ-
ผกายอาบวาบคลอเล่นล้อโคม
๏ พิศ,วงพักตร์สลักสร้างสะอางเช่น
ผุดผาดเพ็ญพราวแสงจ่างแจ้งโสม
งดงามล้ำสามโลกปกประโลม
อสูร,เทพ,นรโน้มหวังชมนุช
๏ ศอเสลาเกลากลึงประหนึ่งแก้ว
นวลเนื้อขาวพราวแพร้วยิ่งพิศุทธิ์
ชูระหง,องค์ยุรยาตรยุต
ดำเนินดุจนายิกาแห่งนารี ๚ะ๛
๏
+ กิ่งโศก+
๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
เครดิตภาพ จากอินเทอเนตล้วนๆ ครับ