๏ อยากมีจึ่งมุ่งไหว้ .... องค์เทวะอยากศักดิ์สูงชาตะ .... กำเนิดเชื้ออยากเป็นเช่นเอตทักคะ .... ถ้วนทุก สิ่งนอ"ภวตัณหา"เนื้อ .... บอกเน้นเห็นนัย ๚ะ๛๏ "อยากจะมี"จึ่งหมายนบไหว้แม้นส่งคำขอยังแคว้นแถนเทวสถานเนรมิตรสินทรัพย์ศฤงคารโปรยโรยฟ้าประทานดาลบันดลขอท่านเสพของเซ่นประเคนศรีคาวหวานจัดบัดพลีหลากมีผล-ไม้หมากพูพับก่งกลีบจงกลไล่ความยากพรากจนพ้นทางจร ๚ะ๏ "อยากเป็น"เช่นบุญหนักยศศักดิ์ใหญ่บริวารข้าใช้เรียงรายสลอนสหายต่างไมตรีจิตคิดอาทรตำแหน่งในทุกตอนมิหย่อนตามขอเจ้านายคลายเคืองทุกเรื่องขุ่นสบตายิ้มยกหนุนขุนไร้หนามชนนิยมชมยุคอยู่ทุกยามเทวาสามภพสร้างช่วยสั่งชี้ ๚ะ๏ "อยากเกิด"ด้วยเลอลักษณ์วงพักตร์ล้ำเลิศสำเนียงเสียงย้ำกำมะหยี่อ่อนแขนแมนแน่นเนื้อกูลเกื้อนี้งามปานวาดวงค์ฉวีสีผ่องวาวให้พรั่งพร้อมล้อมเช่นเดือนเพ็ญฉายดารารายชิดห่างยอ-กลางหาวเด่นโดยศักดิ์เหนือใดในหมู่ดาวเปล่งประกายสะกาวกลบดวงกลืน ๚ะ๏ ฤามนุษย์สุดแต่จะแบขอพฤติกรรมนำฝ่อจึงก่อฝืนไม่สร้างเปลวไฟฝันกลั่นกองฟืนมัวหลับตาลืมตื่นไม่เห็นตน ๚ะ"ภวตัณหา"เห็นภาพลำดับเพาะปฏิบัติชอบสืบเสาะก่อกุศลจะบังเกิดเป็นเช่นมนุษยชนใต้วัฏฏะวังวนมิพ้นเวร ๚ะ๛+ กิ่งโศก +๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖พระจันทร์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเส็ง.ทำไมจึงมักมองว่า กิเลส เป็นสิ่งมิดี กิเลส เป็นความอยากหรือกำหนัดชนิดหนึ่ง ความอยากกระทำดี จะถูกมองว่าไม่ดีได้ไหมหนอ ...
๏ ณ.ผืนดินถิ่นนี้ .... ริมหนองสายคดเคี้ยวลำคลอง ..".ผ่านคุ้งสีงามอร่ามรวงทอง .... ทาทาบ ผืนนาชุ่มฉ่ำธรรมชาติฟุ้ง .... อดีตฟื้นในฝัน ๚ะ๛๏ ณ.แผ่นดินถิ่นเก่ายั้งเนาก่อนเคยชอุ่มชุ่มซ้อนลุ่มดอนสวน-เทือกนาไร่เบ่งบานกลั่นกระบวนต่างผลิช่อ-ออล้วนอวล-อรุณ๏ ณ.ริมข้างขอบหนองเคียงคลองน้ำมัจฉาว่ายหงายคว่ำย่ำธารขุ่นได้กินอยู่อุดมยิ่งสมดุลไม่แร้นแค้นเสพถุนสมบูรณ์ท้น๏ ณ.รอยไถใต้ก้อนสะท้อนกลบธัญญาหารหว่านหลบแทรกพบหล่นค่อยค่อยพรูใบผลิแทงปริพ้นชูช่อใบเหยียดต้นยลสุริยา๏ ณ.ดินแดนแคว้นเก่าในเช้านี้เขียวขจีความจริงบนสิ่งจ้าเมล็ดข้าวเคลือบพิษปลิดชีวาเพียงแค่ปลูกเพื่อค้าสิ้นค่าคุณ๏ ณ.หนองนาวันนี้ปลาหนีหน่ายยากจะว่ายเวียนออเริงล้ออุ่นโลกยุคใหม่กลายแท้มองแค่ทุนในสายชลก่นขุ่นฝุ่นราคี๏ ณ.วารผ่านกาลเสมือนลับเลื่อนหมดข้าวในนาปลาถดลดวิถีคุณค่าคำน้ำมีปลานาข้าวมีคงเหลือน้อยถ้อยพจีหริบหรี่จาง ๚ะ๛+ กิ่งโศก +๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖พระศุกร์ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปี มะเส็งช่วงนี้ข้าพฯคงป่วยด้วยโรค "หิวข้าว" จึงมีคนให้ยาข้าพฯ เพื่อรักษาโรคนี้ แง๋มๆๆ เพราะเห็นข่าวว่า ใช้สารเคมี รมข้าว อบข้าว ...ทนกินเพราะทุนนิยม ของคนไม่กี่คน นี่แหละน๊าๆๆ
๏ ศรัทธาต่อพระเพี้ยง .... โลกวิทูสามสิบลักษณตรู .... บุรุษพร้อมทรงพระสัพพัญญู ...ทุกอย่าง ถ้วนนอศาสนิกชนน้อม .... นบไหว้สรรเสริญ ๚ะ๛๏ ขอศรัทธาสาธุพระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดสัตว์ปัดเป่าผู้เขลาเถิดให้พ้นเภทภัยพาลอันพรั่นเพริดให้ล่วงสู่สิ่งประเสริฐบังเกิดฌาน๏ ขอพระธรรมนำสะพรั่งทั่วทั้งภพแคว้นสงบฉายศรีปีติศานติ์ให้ร่มรื่นแลเมลืองอลังการสาธุชนชื่นซ่านในม่านพระธรรม๏ ขอศัตรูหมู่เถนเดนเดียรถีย์เหล่าอัปรีย์ปลิ้นสาสรรพส่ำกองศัทธาบังแอบซุกแนบอำให้พินาศตกต่ำอเวจี๏ ขอให้เหล่าชาวพุทธบริษัทร่วมผดุงไตรรัตน์จำรัสศรีปฎิบัติบทธรรมนำทวีพร้อมไล่ห่ากาลีผีกินเมือง๏ ขอก้าวรู้เหยียบรู้อยู่ทุกย่างดีชั่วสืบจับวางอย่างปราดเปรื่องหวังบั้นปลายสู่สถานลานประเทืองหลุดพ้นโลกโพกเขื่องหลายเรื่องคาว๏ ขอความท้อต่อมารที่ผลาญมัดจงบังเกิดประภัสสร์จรัสขาว-พร่างหว่างใจไสวผุดประดุจดาวส่องประกายกลางหาวให้วาววับ ๚ะ๛ (ขอจบด้วยเสียงตรีคำตาย)+ กิ่งโศก +๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ปี มะเส็ง
๏ พุทธกาลขานกล่าวเล่ากำหนดบันทึกผ่านจารจดธรรมบทคาถาคุณลักษณ์สตรีพึงตีตราตามความงามมีห้า(เบญจ)กัลยาณี ๚ะ๛๏ พุทธกาลขานเล่าอ้าง ... ถึงอิตถีเบญจกัลยาณี .... กำหนดให้ศุภลักษณ์พึงมี ..... ห้าอย่างอิริยาพร้อมไซร้ ...ชอบด้วยสำแดง๏ เกสีคลี่คล้ายอย่าง..... หางมยุเรศคลุมพาดพัสตร์เคียงเขต ....ขอบผ้าปลายงอก่อตามเจตน์ ....บัญญัติ จารนอคือหนึ่งซึ่งในห้า .... นุชเจ้าพึงมี๏ ริมฝีปาก-เหงือกนั้น .... งามถึงแดงดั่งผลตำลึง ... สุกแต้มเรียบชิดสนิทตึง ... ชวนทัศ-นาเนองามโอษฐ์ยามแม่แย้ม .... โลกย้อมหฤหรรษ์๏ สามงามประดับด้วย .... ไรทนต์ขาวเยี่ยงสังข์ปลั่งปน....มุกต้องเสมอเรียบยามยล...คล้ายเพชร เรียงแลวาววับระยับย้อง....ดั่งย้อมด้วยมณี๏ สี่สีผิวเนื้อนุช .... กำหนด วางเฮยดำเช่นดอกบงกช....บอกคล้ายแม้นขาวผ่องพราวยศ.....เยี่ยงกลีบ- กรรณืการ์นาเนียนนุ่มนิ่มละม้าย....นุ่นเนื้อทิพย์พิมาน๏ งามสุดท้ายให้ว่า .....งามวัยทุกช่วงชีพโชติไสว ....สะพรั่งแพร้วมากบุตรยังละไม.... ไม่สร่าง สวยเฮยดรุณีจวบชราแล้ว .... มิร้างชนชม ๚ะ๛+ กิ่งโศก+๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๖ไม่แน่ใจว่าจะมีคำว่า..เบญจชายชาติอาชาไนยหรือไม่ อิอิเบญจกัลยาณี (แปลว่า ผู้มีความงาม 5 ประการ) หมายถึงสตรีผู้มีศุภลักษณ์หรือลักษณะที่งาม 5 ประการ คือผมงาม คือมีผมเหมือนหางนกยูง เมื่อสยายออกทิ้งตัวลงมาถึงชายผ้าเนื้องาม คือมีริมฝีปากแลเหงือกแดงเหมือนลูกตำลึงสุก เรียบสนิทมิดชิดดีฟันงาม คือขาวเหมือนสังข์และเรียบเสมอเหมือนเพชรเรียงผิวงาม คือถ้าผิวดำก็ดำสม่ำเสมอเหมือนดอกอุบล ถ้าขาวก็ขาวเหมือนกลีบดอกกรรณิการ์วัยงาม คืองามทุกวัย แม้คลอดบุตรมาแล้ว 10 ครั้งก็ยังดูสาวพริ้งอยู่ตำนานว่า นางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นเบญจกัลยาณีคนหนึ่งในสมัยพุทธกาล
๏ กุศลกรรมก่อสร้าง ....สะสมกำหนดปลดเปลื้องปม .... ปริค้างให้หายเหือดเผือดพรม .... พุพล่านคืนสู่ชนสล้าง .... ทุกข์ร้ายหายราน ๚ะ๛๏ กุศลหนุนบุญส่งดำรงค์ซึ่ง-เพียรบำเพ็ญเกือบกึ่งใกล้ถึงแก่น-ศูนย์บรรจบสงบดิ่งได้พิงแดน-สุขาวดีแว่นแคว้นเบื้องแผ่นพื้น-๏ สวรรค์ชั้นตามศักดิ์ประจักษ์ชอบ-ฉายรายเรียงเวียงขอบผู้ชอบตื่น-แต่งบทเพลงบรรเลงครั้นทั้งวันครื้น-เครงรสสุขปลุกรื่นชื่นภิรมย์๏ เจ็บโดยไข้พ่ายโดยพิษจริตพร้อม-พรูมลายคลายคร่อมครั้นจ่อมขม-ขื่นใดใดลบถ้วนทวนระทม-ทุกข์กองสุมรุมถมให้ล่มทลาย๏ บังเกิดแก้วแพร้วมาศรัศมีเพาะบ่มบุญบารมีรังษีหมายเปล่งปลั่งโชติล้อมฉาบระยับชาย-ริมขอบรอบเคียงคล้ายอำไพคลอ๏ ในห้วงหนึ่งอณูรู้สำนึกต่างคล้อยถอยตรับตรึกบันทึกต่อ-อดีตผ่านกาลง้ำใต้กรรมงอ-คอยดีดดักหักข้อคล้ายรอคอย๏ ภาวนาท่องนำพระธรรมน้อมหวังทวนชวนวักถ่อมรายล้อมถอยกิเลสร้างบาปไร้บนใจรอย-ย้ำประดับระยับย้อยเรียงร้อยญาณ ๚ะ๛+ กิ่งโศก +๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖สังขารย่อมแปรไปตามวัย..เมื่อวันศุกร์ (๑๒ ก.ค.)ที่ผ่านมา ช่วงเลิกงาน ข้าพฯบ่นปวดหลัง จนต้องใช้เครื่องพยุงหลังเหตุ..อันมาจากเพียง จามแรงๆๆ...รู้สึกกระดูกตรงก้นกบ แปร๊บๆๆ..ข้าพฯได้พูดคุยกะน้องคนหนึ่งในที่ทำงาน...ซึ่งเขาหัวเราะ บอกเป็นไปได้เหรอพี่ ที่แค่จามก็เจ็บหลังขนาดนี้จวนเมื่อวันเสาร์ ลูกน้องโทร มาบอกว่า ..น้องคนนั้นตอนนี้อญุ่โรงพยาบาล ห้องฉุกเฉิน..วันนี้เลยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล...น้องเขาชาไปซีกหนึ่งของร่ายกาย ไม่รู้สึกรู้สา..น้องเขาบอกว่า...อะไรๆๆ มันก็เกิดได้เนาะ เมื่อวันก่อนหนูยังไม่เชื่อว่า แค่จามก็เจ็บหลังได้มาครั้งนี้ จู่ๆๆ ตัวเขาเองกลับ เคลื่อนไหวไม่ได้ ไปครึ่งหนึ่งของร่างกาย.....ขอให้น้องหายไวๆ..