10 กรกฎาคม 2547 14:05 น.
กิ่งอ้อกะกดไผ่
บ้านเราคือ วิมานสำราญบนแดนดิน
กลับจากเหนื่อยหากินได้พักพิงกายใจ
บ้านจะเป็นแดนสวรรค์ดังฝันใฝ่
บ้านจะเล็กหรือจะใหญ่น้ำใจสำคัญ
บ้านหลังเล็กอยู่มานานวัน
ต่างสุขสันต์สบายใจดี
บ้านมีรักเมตตาปรานีให้แต่สิ่งดีงาม
บ้านเรามีแสงจันทร์ แสงตะวัน เดือนดาว
จะสนุกทุกคราเมื่อมีใครมาเยือน
บ้านเรามีแต่รอยยิ้มและความสุข
ไม่มีทุกข์ไม่มีเศร้าเหงาใจไม่มี
บ้านหลังเล็กเปี่ยมความการุณ
อบอุ่นรักจากใจไมตรี
สุขเกษมอิ่มเอมเปรมปรีด
ให้แต่สิ่งดีงาม
ลา ลา ลัน ลา ลา ลา....
6 กรกฎาคม 2547 13:01 น.
กิ่งอ้อกะกดไผ่
ชีวิตคนเมือง...วุ่นวายสับสน
วนเวียนวกวน...เดินกันขวักไขว่
หลายคนมุ่งมั่น...เดินทางฝ่าไป
หลายคนทอดอาลัย...จะไปไหนดี
ชีวิตคนเรา...มันก็เท่านี้
เกิดแก่เจ็บมี...สุดท้ายตายไป
ช่วงมีชีวิต...คิด ทำ สิ่งดี
สร้างสมความดี...ประดับไว้ในโลกา
5 กรกฎาคม 2547 17:46 น.
กิ่งอ้อกะกดไผ่
เพียงวันนี้ที่ฉันมีหัวใจ
หัวใจที่คล้าย ๆ ไร้ความรู้สึก
หัวใจคล้ายๆ ตายด้านชา
เหมือนมีหัวใจคล้ายหุ่นยนต์
เพียงไม่ต้องการอะไรจากใคร
ไม่ต้องการความรัก
ไม่ต้องการการดูแล
ไม่ต้องการแม้เพียงเสี้ยว
ของชีวิตที่เป็นอยู่
5 กรกฎาคม 2547 16:11 น.
กิ่งอ้อกะกดไผ่
อยากเอ๋ยคำว่ารัก
แต่ในใจยังไม่กล้า
ทั้งที่ใจนั้นเปี่ยมล้น
ด้วยรักและแรงศรัทธา
แต่ในใจนั้นไม่กล้าจะบอกเธอ
แม้ฟากฟ้าและทะเลยังเหงา
นับดาวพร่างพราวแผ่นฟ้า
แสงจันทร์สาดส่องธาราและพื้นดิน
หัวใจยังคงเรียกหาแต่เธอ
5 กรกฎาคม 2547 16:02 น.
กิ่งอ้อกะกดไผ่
ความรักมีคุณค่าเสมอ...เมื่อได้รัก
รักมีคุณค่ามากกว่า...ถ้ารู้จักให้
และรักจะมีคุณค่ามากที่สุด...เมื่อเราต่างเป็นผู้ให้และผู้รับ
ในนามแห่งความรักของฉัน
รักที่ฉันเคยมีต่อใครคนหนึ่ง
กับความคิดถึงที่มีให้เสมอ
แม้จะรู้ว่าเหงา...แม้จะรู้ว่าเศร้า
แม้จะรู้อยู่แก่ใจดีว่า
รักครั้งนี้เป็นไปไม่ได้
เพราะเป็นรัก...ที่มิต้องครอบครอง
กับรักที่มิคิดจะทำร้ายใคร
มันคงผูกพันได้มากกว่าร่างกาย
คงจะมีความหมายมากกว่าคำหวาน ๆ
มีความรู้สึกดี ดี มีให้เสมอมา
และแน่ใจว่า...คงตลอดไป
แม้...มิได้พบเจอกันเลยก็ตาม