20 มีนาคม 2552 15:14 น.
กิตติเวทย์
การมองโลกมองได้ในหลายแง่
มันสุดแต่ใครจะปองมองแบบไหน
อาจขึ้นกับอดีตเขาที่ผ่านไป
หรือพื้นฐานกลไกในวันวาน
บ้างชอบมองแง่ลบคราพบหน้า
แย่จังหว่า,ไม่น่าเลย, เปรยฉะฉาน
ชอบตำหนิ ติติง วิ่งเดือดดาล
ชอบมองผ่านมุมลบครบกระบวน
แต่ยังมีอีกคนหนึ่งซึ่งมองกว้าง
มองทุกอย่างแง่ดีอย่างถี่ถ้วน
เอาใหม่น่า, ไม่เป็นไร, ค่อยทบทวน
ใจไม่ด่วนสรุปแล้วโวยวาย
ชายสองคนเดินทางอย่างเหนื่อยอ่อน
กรำแดดร้อนอยากดื่มน้ำให้ช้ำหาย
เขาเอาน้ำครึ่งแก้วมาให้ผ่อนคลาย
ทั้งสองชายต่างคิดไม่เหมือนกัน
ชายคนแรกตาเห็นก็เต้นจิต
สร้างความคิดตำหนิริเหยียดหยัน
ใยเอาน้ำแค่ครึ้งแก้วมาให้กัน
กูหิวน้ำจนตัวสั่นมันน้อยไป
คนที่สองเห็นน้ำใสใจสว่าง
ขอบคุณจังที่ให้คลายกระหาย
น้ำตั้งครึ่งแก้วนี้ค่ามากมาย
หากไม่ได้คงจะแย่แน่หนอเรา
19 มีนาคม 2552 15:28 น.
กิตติเวทย์
แอบ คิดถึงตรึงจิตคิดควงแขน
รัก แนบแน่นดวงใจไม่แปรผัน
ใคร คนหนึ่งรู้ไหมใครคนนั้น
บาง คืนวันฝันดีมีแก้วตา
คน นี้แหละใช่เลยอยากเผยชี้
ใน ชีวีไม่มีใครเคยใฝ่หา
บ้าน กลอนไทยให้พบรักปักอุรา
กลอน กวีอักขราพาพบเจอ
หายไปนาน ยังคิดฮอดเพื่อนนักกลอน และบ้านกลอนเสมอ
หวังว่าเธอคงสบายดี