15 ตุลาคม 2552 21:08 น.
กิตติเวทย์
เห็นเขาดีเด่นได้ งามตา
ใจก่อตัวอิจฉา เร่าร้อน
ทุรนร่านทุกครา ยามเห็น
อยากฆ่าด้วยเหล็กก้อน ลั่นเปรี้ยงตายไป
จึงวางแผนปั่นผู้ ชอบพอ
มาร่วมมือกันหนอ ต่อสู้
จับมือทุกเหล่ากอ แอบซุ่ม อยู่นา
นึกว่าใครไม่รู้ ที่เร้นพบกัน
กิเลสเอยเผยธาตุแท้ อำนาจ
กลัวจะสูญโอกาส พรั่งพร้อม
วิกฤติจะสิ้นชาติ ก็ช่าง เถอะนา
กัดมันอย่าอ้อมค้อม สั่งให้หายไป
15 ตุลาคม 2552 16:23 น.
กิตติเวทย์
กาลเวลาเยียวยาใจได้จริงหรือ
เพราะได้ยินเขาลือว่ามีผล
หลายคนที่อกหักรักเล่นกล
ความหมองหม่นหายได้อาศัยกาล
หากเวลารักษาใจได้จริงแท้
ใยตัวฉันจึงแย่แม้วันผ่าน
ฉันผิดหวังสิบปีเคลื่อนเหมือนวันวาน
ใจยังคงร้าวฉานโอ้กาลกล
ฤาว่ากาลท่านลำเอียงเกี่ยงรักษา
มองดูหน้าก่อนที่จะมีผล
คนอ่อนแอปล่อยไปให้อับจน
ส่วนว่าคนที่เข้มแข็งเสริมแกร่งมัน
แท้จริงนั้นมันเกี่ยวใกล้หรือไม่หนอ
มีผลต่อการรักษาพาสมาน
หรือแท้จริงมันไม่เกี่ยวกับเสี้ยวกาล
เพราะบางท่านเพียงสามวันพบฝันงาม
15 ตุลาคม 2552 10:15 น.
กิตติเวทย์
แขกตี้ขี้แตกแปลกจิต
ทุกทิศทั่วไทยสัยสง
หลายคนไม่พ้นบางงง
แทนที่จะตรงอ้อบาง
แขกตี้ขี้แตกอย่าแปลกจิต
ทุกทิศอินเดียเคลียข้าง
ไม่เคยโดดเดี่ยวอ้างว้าง
หวังสร้างเสริมต่อครรลอง
เช้ามาก้าวขาไปขี้
ทั้งที่บ้านมีหลายห้อง
ชั้นบนชั้นล่างไม่มอง
แต่ปองไปนั่งกินลม
ข้างถนนบนฝั่งทะเล
ริมตลาดมาดเท่เด่ผสม
หันหลังให้กันผายลม
คุยขรมด้วยเรื่องปรัชญา
บางคนเพื่อนคอยอยู่ใกล้
เพื่อไปซื้อของต้องหา
แต่ดันปวดขี้ขึ้นมา
บอกว่าเฮ้ยรอข้าที
บางคนขับเก๋งเบ่งศักดิ์
แบ่งพวกแบ่งพรรคศักดิ์ศรี
กลับไม่พูดพล่ามวาจี
นั่งขี้หน้าตาเฉยเมย
ที่ว่ามาทั้งหมดนี้
หาใช่สตรีพ่อเอ๋ย
เป็นชายแทบทั้งนั้นเลย
ทรามเชยไม่ค่อยได้ชม
ว่าไปสิบปีที่ผ่าน
ข้างบ้านหลังน้อยของผม
สาวใหญ่สาวน้อยหน้าคม
มานั่งกินลมเหมือนกัน
แต่อย่าหวังจะได้เห็น
เพราะเกินจะเป็นดั่งฝัน
เธอสวมกระโปรงคุ้มกัน
ยาวพันถึงตาตุ่มเชียว
ยามนั่งกระโปรงโค้งครอบ
ล้อมรอบหมดลุ้นครุ่นเสียว
หมดสิทธิ์ชมขางามเพรียว
แป๊ปเดียวเธอยืนขึ้นตรง
แปลกใจไฉนจึงเร็วแท้
โอแม่หุ่นงามดังหงส์
ที่สุดก็ผ่านบางงง
ที่โค้งมีคนผ่านมา
พอคนเดินผ่านเลยไป
ทรามวัยเหลียวซ้ายแลขวา
นั่งลงกอปร์กิจค้างคา
สุขาสุขีปรีดิ์เปรม
14 ตุลาคม 2552 09:58 น.
กิตติเวทย์
ไม่มีรถฤาจะมีล้อของรถ
ไม่มีคดจะมีตรงคงอยู่หรือ
ไม่มีแขนฤาจะมีที่ว่ามือ
ไม่มีชื่อคำไร้ชื่อคงไม่มี
ไม่มีเธอฉันคงมีไม่ได้
ไม่มีใกล้ไกลไม่มีนี่วิถี
ไม่มีชั่วฤาจะมีคำว่าดี
ไม่มีพี่น้องจะมีได้อย่างไร
สรรพสิ่งล้วนพึ่งพิงอิงกันเกิด
หามีสิ่งดีเลิศเกิดเองได้
ไม่มีมีดด้ามมีดคงหายไป
ไม่มีใสขุ่นก็สิ้นมิดิ้นรน
นี้นี่หนอพ่อเรียกว่า สุญญตา
ปวงสรรพาต่างอาศัยจึงให้ผล
มีสิ่งหนึ่งอีกสิ่งหนึ่งจึงเล่นกล
เช่นมีเมฆจึงมีฝนหล่นโปรยปราย
วิทยาศาสตร์อาจเรียกว่า สัมพัทธ์
คงไม่ขัดชัดทุกสิ่งอิงอาศัย
ไม่มีเธอไม่มีฉันไม่มีใคร
ไม่มีตาก็ไร้ยายย่างย้ายตาม
เพราะมีเธอจึงมีฉันผู้ฝันหา
มีลูกยามีแม่พ่อรอไถ่ถาม
เพราะมีฉันคอยชื่นชมเธอจึงงาม
นี่แหละหนอคือนิยาม สุญญตา
13 ตุลาคม 2552 21:49 น.
กิตติเวทย์
อะไรหาย ก็หายไป ใจอย่าหาย
ป่วยจนตาย หายใจ ไม่ทั่วทิ้ง
ใจของตัว แท้แท้ แต่ไม่ติง
กลับปล่อยวิ่ง ไปไกล ให้เขาครอง
ใจของเรา ก็ของเรา วันยันค่ำ
บางคนร่ำ น้ำตาท่วม ร่วมสนอง
เอาหัวใจ ให้คนอื่น ยื่นจับจอง
สุดท้ายกลับ มัวหมอง นองน้ำตา
หากคิดว่า ตัวเอง ไม่เต็มตื้น
คงจะอยู่ แบบฝืน ยืนผวา
ต้องการให้ ใครสักคน ฝ่าฝนมา
ร่วมชะตา ฝ่าฟัน บุกบั่นไป
ชีวิตคง ยืนได้ ไม่มั่นมาด
เพราะคิดว่า ตัวขาด จึงหวาดไหว
ใจต้องการ คนอื่น อยู่ร่ำไป
แล้วเมื่อใด จะยืนได้ ใจมั่นคง
แต่นั่นแหละ ใจมนุษย์ สุดหยั่งได้
มีมากมาย หลายประเภท เขตประสงค์
บางคนมี บางคนไม่ ใฝ่จำนง
บางคนยึด บางคนปลง อย่างงงวย