15 ตุลาคม 2551 12:42 น.
กิตติเวทย์
ฝาก จันทร์เพ็ญเด่นฟ้าดาราสวย
ลม อำนวยช่วยอีกไม่หลีกหนี
ไป พรั่งพรมไออุ่นเธอคนดี
ห่มผ้า นี้ให้สาวคลายหนาวพลัน
ให้ ที่รักของข้าอย่าเหน็บหนาว
น้อง พริ้งพราวสดใสใจสุขสันต์
ข้า ขอวานช่วยทีลมดาวจันทร์
คลายหนาว สั่นเถิดน้องอย่าหมองตรม
14 ตุลาคม 2551 23:13 น.
กิตติเวทย์
ออกพรรษาหน้าฝนวนครบรอบ
ผู้รับมอบคือหนาวดาวสั่นไหว
หนาวมาเยือนทุกหนคนหนาวใจ
แม้ผิงไฟร้อนผ่าวหนาวไม่คลาย
หนาวลมนั้นท่านบอกให้ห่มผ้า
หนาวกายาผิงไฟเข้าหนาวก็หาย
หนาวดวงจิตโดดเดี่ยวหนาวเดียวดาย
แม้ผิงไฟค่ำถึงเช้าหนาวยังครอง
เมื่อปีกลายใจหนาวมาคราวหนึ่ง
ยังตราตรึงไม่หายเพราะใจหมอง
นอนเดียวดายขดคู้ไร้คู่ปอง
คืนเพ็ญผ่องยิ่งหมองใจใต้เงาจันทร์
ปีนี้หนาวเข้ามาอีกคราแล้ว
คงไม่แคล้วอีกคราวนอนหนาวสั่น
หากมีใครสักคนร่วมแบ่งปัน
คงสุขสันต์ยิ่งล้นพ้นหนาวใจ
14 ตุลาคม 2551 09:19 น.
กิตติเวทย์
โบราณว่าน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า
ตันปัญญาหาไม่เห็นเป็นไฉน
น้ำพึ่งเรือพึ่งได้พึ่งอย่างไร
ส่วนเสือไซร้ได้พึ่งป่าไม่น่างง
หรือท่านเพียงว่าไว้ให้คล้องจอง
เป็นทำนองเสนาะโสตงดประสงค์
หากท่านใดคิดว่ามีเจตจำนง
ช่วยเสริมส่งปัญญาของข้าที ฯ
13 ตุลาคม 2551 21:14 น.
กิตติเวทย์
เห็นเธอนั่งเดียวดายใต้จันทร์เศร้า
เห็นเธอเหงาระทมตรมไม่หาย
เห็นเธอหลังน้ำตาร้องฟูมฟาย
เธอร้องไห้ฉันเห็นเป็นเรื่องราว
อยากปลอบเธอแต่ไม่รู้จะเริ่มต้น
อยากปลอบเธอดวงกมลให้พ้นเหงา
อยากปลอบเธอให้ทุกข์คลายบางเบา
อยากปลอบเจ้าใต้จันทราค้นหาดาว
หายเศร้าเถิดสาวเจ้าอย่าเศร้านัก
หายเศร้าเถิดดวงพักตร์จักหม่นเศร้า
หายเศร้าเถิดแจ่มจันทร์ฟ้าพร่างพราว
หายเศร้าเถิดน้องสาวอย่าเหงาใจ
พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเดือนแจ่มฟ้า
พี่จะอยู่เคียงแก้วตาคืนฟ้าใส
พี่จะอยู่ปลอบเจ้าคืนหนาวใจ
พี่จะอยู่จนฟ้าใหม่ย้ายมาเยือน
13 ตุลาคม 2551 11:26 น.
กิตติเวทย์
มองฟ้าไกลยามนี้ที่ทุ่งกว้าง
สุดอ้างว้างหม่นใจไม่อาจฝืน
ตามองฟ้าแต่ใจนั้นกล้ำกลืน
คิดถึงคืนคืนนี้เมื่อปีกลาย
เมื่อปีกลายคืนนี้มีเธออยู่
เราเคียงคู่ดูจันทราดาราฉาย
ประคองกอดอบอุ่นไม่เดียวดาย
เมื่อปีกลายเป็นเช่นนี้ที่ผ่านมา
แต่ปีนี้ทุ่งกว้างเก่าเหงายิ่งนัก
โอ้..น้องรักจากไปให้โหยหา
อยู่แห่งไหนขอให้รู้นะกานดา
ที่ขอบฟ้าแห่งนี้มีคนคอย
เขาคอยเจ้าที่นั่นมานานแล้ว
ยังแน่แน่วจริงใจไม่เสื่อมถอย
เขาบอกกับตัวเองจะรอคอย
แม้เหงาหงอยก็ทนได้หากไร้นางฯ