8 กรกฎาคม 2552 08:46 น.
กิตติกานต์
...ถึงโลกนี้เขาไม่เข้าใจเจ้า
ยังมีเราทอถักรักอ่อนหวาน
มิตรภาพคงไว้ไปชั่วกาล
มิอันตรธานลาร้างจืดจางไป
...อย่าร้องไห้จนใจเจียนจะขาด
น้ำตาเจ้าจะบาดใจเจ้ารู้ไหม
หนึ่งคนนี้เปี่ยมรักยังห่วงใย
มิอยากให้เพื่อนร้องไห้..อาลัยวรณ์
...เขาจากไปเพราะใจเขามิได้รัก
จึงประจักษ์ห้วงหทัยได้ถ่ายถอน
ดีกว่าหลงสับสนจนร้าวรอน
อย่าไปอ้อนหัวใจ...ไม่ภักดี
...หยุดร้องไห้ได้แล้วเพื่อนแก้วเอ๋ย
น้ำตาเลยท่วมใจไปแล้วนี่
ให้น้ำตาล้างใจคงใสดี
ต่อแต่นี้ยิ้มไว้...ไม่อ่อนแอ
...ในโลกนี้มีอะไรอีกหลายอย่าง
ต้องเปิดทางก้าวไปไม่ท้อแท้
กำลังใจเติมตอบมอบดวงแด
อย่างอแงร้องไห้ให้ร้าวรอน
...เปิดหัวใจใสสว่างบนทางใหม่
ที่มิมีใจใครมาไล่ต้อน
อิสรเสรีใจในทุกตอน
ไม่สั่นคลอนไม่เป็นเช่นผ่านมา....
...เข้าพรรษาพักใจให้หายเศร้า
เพาะบ่มใจขลาดเขลาให้แน่นหนา
สายธรรมอุ่นหนุนนำฉ่ำวิญญา
ส่งใจมาเป็นเพื่อนมิเลือนลืม........
.............................................................
.............................................กิตติกานต์
28 มิถุนายน 2552 22:19 น.
กิตติกานต์
...จะกี่วัน จะกี่เดือน ที่เลือนผ่าน
จะกี่กาล จะกี่ปี ที่ไกลห่าง
คำสัญญาผูกใจไม่เลือนราง
ยังอยู่กลางห้วงหทัย...ในวิญญา
...ท่ามกลางโลกวุ่นวายหลายร้อยเรื่อง
อย่าขุ่นเคืองดวงใจไปหนักหนา
ยิ้มเถิดนะ...ขานรับกับเวลา
จะทิวาหรือราตรีมีแต่เธอ
...อย่าลืมฉัน..วันนั้นเธอบอกกล่าว
ร้อยหัวใจบางเบาเฝ้าพร่ำเพ้อ
forget me not เหมือนละเมอ
อย่าให้เก้อในรักขอภักดิ์ใจ
...มาวันนี้ ฉันขอกล่าว forget me not
ก็ตลอดเวลาถ้าเลือกได้
อยากจะย่นระยะทางอันห่างไกล
เข้ามาใกล้...ใกล้ใกล้...ได้เห็นกัน
... เบื่อแล้วกับการห่าง..ห่างไกลยิ่ง
อยากอยู่ในความจริงกว่าความฝัน
หน้าที่หนอทำให้ต้องไกลพลัน
ทุกทุกวันยินแต่เพียงส่งเสียงมา.
..................................................................
...................................................กิตติกานต์
26 มิถุนายน 2552 23:22 น.
กิตติกานต์
กลอนนี้..มิใช่ของกิตติกานต์ แต่ผู้เขียน ชื่อ รักเร่ย์
ขอให้ช่วยนำมาลงในบ้านกลอนค่ะ.....ความจริงในใจ...
+: ความจริงในใจ: +
ที่จริงแล้ว คิดไม่เก่ง กว่าที่พูด
จึงได้หยุด การแต่งกลอน อันอ่อนหวาน
มีความจริง ในใจ คือสันดาน
ปากไม่หวาน ขวานผ่าซาก ยากคนชม
แต่ยังเหลือ สิ่งเดียว คือความรัก
เฝ้าตระหนัก แต่คิด จิตอ่อนไหว
เพราะกลัวเธอ ลำบาก ตรากตรำใจ
กายหม่นไหม้ ร้อนรน ยากจนเงิน
หากเปรียบได้ เธอคล้ายเช่น เป็นดั่งหงส์
ถลาลง โคลนตม จมลงหนอง
ย่อมเปื้อนดำ อย่างตม ไม่น่ามอง
ใจจำต้อง ลองให้เธอ ทะเยอไป(บิน)
ขอเพียงแต่ แค่ความดี ที่มีให้
สุขของใจ ไม่ลืมเลือน เคลื่อนไปไหน
เธอคนเดียว คือสุดท้าย ของหัวใจ
รักแค่ไหน มากกว่าทราย ในทะเล
........................รักเร่ย์ ผู้เขียน....21 มิถุนายน 2552.
................กิติกานต์ ผู้รับฝาก...26 มิถุนายน 2552
26 มิถุนายน 2552 06:49 น.
กิตติกานต์
ในห้วงภพแดนสวรรค์ชั้นอักษร
พระสุนทรโวหารผู้ขานไข
เอกแห่งวงวรรณศิลป์อันเกรียงไกร
โลกยกย่องเทิดไว้ในปฐพี
"ภู่เรือหงษ์"ต้นตระกูลท่านสูงค่า
ลูกขอมาน้อมประณตบทศรี
พวงมาลัยกราบสู่บรมครูกวี
ให้ท่าน"ภู่"เกษมศรีนิจนิรันดร์
จะขับกล่อมเสภาบูชาศิลป์
ให้แว่วยินถึงห้วงสรวงสวรรค์
จรุงกลิ่นบุปผาสู่ฟ้าครัน
ร้อยเรียงกานท์กวีนี้บูชา.
....................................................
....................................กิตติกานต์
26 มิถุนายน 2552 06:39 น.
กิตติกานต์
..ขออภัย...จะลบหน้านี้ออก ทำไงดีคะ...
ช่วยแนะนำด้วยค่ะ..ขอบคุณค่ะ