8 ตุลาคม 2552 23:29 น.
กิตติกานต์
...หากหัวใจรุ่มร้อนนอนไม่หลับ
กระส่ายกระสับอับจนกมลหมอง
ข่มใจฝืนตื่นผวาน้ำตานอง
ลองซิลอง...มองซึ้งถึงหัวใจ
...ใจเอ๋ยใจ...เจ้าครวญใคร่สิ่งใดอยู่
หรือไม่รู้ยามหลับกลับหวั่นไหว
เหมือนถูกคมมีดบาดขาดเยื่อใย
ใจจึงได้ซมซาน...ร้าวรานจินต์
...เพราะไม่รู้ปล่อยว่างทางชีวิต
จึงหนักจิตหนักใจไม่รู้สิ้น
ความพอดี...เย็นฉ่ำดั่งน้ำริน
ยืดชีวินสุขได้..ไม่ไกลเกิน
...ว่างไหมล่ะพาใจไปไขว่คว้า
เรียนวิชาตัวเบาที่เขาเกริ่น
รับรองว่าดีเลิศแสนเพลิดเพลิน
อย่าเก้อเขินเชิญมาศึกษากัน
...เป็นวิชาปล่อยวางบางอย่างไว้
เช่นหัวใจปรารถนาพาจิตสั่น
มาลดละความอยากที่หลากครัน
มากล่อมขวัญเรียนรู้สู่พอดี
...อย่าใส่ใจคำนินทาพาหม่นหมอง
โศกจะครองจิตใจไปทุกที่
แต่ละคนล้วนต่างทางที่มี
วางชีวีถูกธรรมก็นำชัย
...อันภาระหนักหนาล้วนสาหัส
สารพัดยึดติดจิตหมกไหม้
สรรพสิ่งมองเห็นความเป็นไป
อยู่ที่ใจครวญคิดพิจารณา
...สุขหรือทุกข์หัวใจใครกำหนด
จะลิ้มรสหวานหรือขมเพาะบ่มกล้า
หากใฝ่เกิน...จะสุขได้อย่างไรนา
มัชฌิมาปฏิปทา...วิชาตัวเบา.
...............................................
...............................กิตติกานต์
4 ตุลาคม 2552 14:20 น.
กิตติกานต์
นานแล้วที่ห่างไปไม่เจอเจ้า
ในยามเช้าเฝ้าฝันวันไปเห็น
กระเต็นลายริมสายธารกระซ่านเซ็น
เจ้าผู้เป็นเพชรเลอค่าแห่งป่าไพร
ตัวน้อยน้อยน่ารักเสียหนักหนา
ช่างตื่นตาลีลาท่าเคลื่อนไหว
ปากแดงแดงจับแมลงอย่างว่องไว
เกาะกิ่งไม้...แสนสำราญอาหารตา
ด้วยสีสันสดใสลายประดับ
ฟ้าสลับกับขาวเจ้าเด่นป่า
เคราน้ำตาลท้องเหลืองนวลยวนอุรา
ใครได้มาเยือนยลสุขล้นจริง
คิดถึงเจ้าป่าเขาเนาน้ำใส
คิดถึงไพรใหญ่กว้างงามทุกสิ่ง
คิดถึงหยาดน้ำค้างกลางใจอิง
คิดถึงหริ่งเรไร...ในค่ำคืน
ในอ้อมอกรกหญ้าใครว่าหนาว
ในอ้อมดาวราตรีที่ใจตื่น
ในอ้อมรักอุ่นไอก่อไฟฟืน
ในอ้อมอื่น...ฝืนใจไม่ยินดี
เพียงฝากใจส่งมาถึงป่าเขา
ยังคอยเฝ้าเตือนใจไปถึงที่
กำลังใจส่งไปในพงพี
ให้เจ้ามีความสุข...สิ้นรุกราน
หยิบภาพนกกระเต็นน้อยร้อยความรัก
ที่ทอทักสายใยไร้หมอกม่าน
สายพิรุณจะลาไร้อีกไม่นาน
จะถึงกาลเยือนถิ่นเจ้าที่เฝ้าคอย.
............................................................
...........................................กิตติกานต์.
21 กันยายน 2552 14:02 น.
กิตติกานต์
##### เนื่องในโอกาส วันเยาวชน พ.ศ ๒๕๕๒#####
....๒๐ กันยายน
วันเยาวชน แห่งไทยได้ตระหนัก
จากเด็กน้อยขลาดเขลาเฝ้าฟูมฟัก
ร่วมร้อยรักถักทอต่อฝันไกล
...เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า
เป็นคำขวัญทายท้าความฝันใฝ่
เขาจะดู ตัวอย่าง บนทางใคร
จึงจะสร้างหัวใจเป็นไทยจริง
...หาคนเก่งพบได้คงไม่ยาก
แต่จะฝากความหวังใครได้ทุกสิ่ง
ความรู้สูงคุณธรรมต่ำเหมือนปลิง
เยาวชนชาย หญิง ยิ่งต้องตรอง
...บนเวทีเยาวชนคนเก่งกล้า
ต้องฟันฝ่าอุปสรรคคอยจับจ้อง
ภาพสังคมเสื่อมทราม...ตามประคอง
สู่ครรลองงดงามความเป็นไทย
...การศึกษามุ่งจิต คิดวิเคราะห์
สิ่งใดเหมาะใคร่ครวญประมวลได้
เจ้าจงมี วิจารณญาณ ความเป็นไป
จะเชื่อใครเด่นชัดจนศรัทธา
...ประเทศชาตินั้นหวังพึ่งพาเจ้า
อย่าขลาดเขลาหันหุนไร้คุณค่า
มโนธรรมนำร่องส่องวิญญา
เป็นต้นกล้าพัฒนามาตุภูมิ.
..........................................................
...........................................กิตติกานต์.
18 กันยายน 2552 22:34 น.
กิตติกานต์
...หากเหนื่อยนักพักใจมองปลายฟ้า
เพียงหลับตาปิดม่านลานโลกวุ่น
น้อมดวงจินต์สงบวางอย่างละมุน
ทอดแขนให้เธอหนุน...จนอุ่นใจ
...พักเถิดหนาดวงใจให้หายล้า
ค่อยฟันฝ่าโลกกว้างทางฝันใฝ่
มหานทีลึกล้ำหากข้ามไป
อาจจมได้หากไม่ระวังตน
...กอบเก็บใจให้พร้อมย่อมดีกว่า
ปรารถนาเพียงใจเธอหายหม่น
ฟ้าหลังฝนสดใสในกมล
ก้าวให้พ้นทุกข์ทวีที่ถมทรวง
...กลางอ้อมใจจัดไว้ให้เธออยู่
โปรดรับรู้จอมใจว่าใครห่วง
จงลืมโลกโศกเศร้าเฝ้าหลอกลวง
ก่อนถูกช่วงชิงใจ...จนไกลเกิน.
..................................................
.................................กิตติกานต์.
13 กันยายน 2552 09:22 น.
กิตติกานต์
...แสงวาววับจับจิตจนคิดฝัน
เมื่อถึงวันสวมแหวนแทนใจหมาย
ระยิบระยับงามเด่นเป็นประกาย
ดาริกาพราวพรายล้อมรอบทรวง
...ตัวห่างไกลฝากใจไว้ด้วยแหวน
เป็นตัวแทนอยู่ใกล้ด้วยใจห่วง
คำว่ารักอุ่นหล้ากว่าทั้งปวง
เธอคือดวงหฤทัยกลางใจนาง
...จะรักเธอจนกว่าชีวาสิ้น
ไม่ถวิลหาใครจะไกลห่าง
โลกจักสุขหรือทุกข์มืดมิจืดจาง
เพราะทุกอย่างซึ้งค่า...ว่าเธอรัก
...แหวนหมั้นนี้มีค่ากว่าใดอื่น
ทุกวันคืนสวมใจให้ประจักษ์
จะถนอมดวงจิตชีวิตภักดิ์
รักต่อรักหนักแน่น..แก่นวิญญา.
..........................................................
..........................................กิตติกานต์.