6 มิถุนายน 2553 22:54 น.
กิตติกานต์
+ : ดั่งดวงดอกไม้ : +
ดอกไม้...เบ่งบานไหวลมล้อ
รับรอยต่อของตะวันจวบจันทร์ฉาย
แต่ละกลีบเบาบางอย่างท้าทาย
ให้ผีเสื้อรำร่ายหมายจุมพิต
.....
คงพอใจกับการอยู่รู้สงบ
ขณะพิภพไหวหวั่นพรั่นดวงจิต
เจ้าแตกกิ่งใบดอกบอกชีวิต
ตามครรลองเนืองนิจพร้อมผลิบาน
.....
และนั่นคือความรักของดอกไม้
บริสุทธิ์ยิ่งใหญ่ในทุกด้าน
ผิดกับฉันมีฝันอันตระการ
เพียงคิดถึง...ก็ร้าวรานอยู่ภายใน
.....
อยากแทนในความฝันและความรัก
เพียงสักพักบางช่วงดวงดอกไม้
จะเรียนรู้อยู่หวังความเป็นไป
คืนหัวใจแพ้พ่ายให้ดังเดิม
..................................................
............................กิตติกานต์ *_*
31 พฤษภาคม 2553 23:01 น.
กิตติกานต์
นิยามของบุหรี่นั้นมีมาก
ปลายข้างหนึ่งอยู่ในปากคนโง่นี้
อีกปลายหนึ่งแอบแฝงแรงอัคคี
เป็นไฟที่มอดไหม้ใกล้วิญญา
คร่าชีวิตผู้คนล้นหลุมศพ
กี่ชีวิตไม่ได้พบประสบค่า
ฆาตกรเลือดเย็นเร้นเวลา
เต็มแผ่นพื้นหย่อมหญ้าช่างน่ากลัว
ในมวนยาเงาดำย่อมทำร้าย
ฝูงภูตพรายบุหรี่นี้อยู่ทั่ว
เด็กผู้ใหญ่ชราเฒ่ายังเมามัว
ล้วนลืมตัวกลั้วเกลือกเลือกทางมัน
เลิกได้ไหม...เลิกสูบบุหรี่ร้าย
ก่อนร่างกายทิ้งห่างเส้นทางฝัน
ลองสบตาคนที่รักภักดิ์ผูกพัน
จะรู้ว่าคืนวัน...นั้นเสียดาย...
เพลงบุหรี่กรีดร้องก้องภิภพ
เสมือนรบสู้กับใจก่อนจักสาย
ใครเข้มแข็งเลิกได้ไม่ละอาย
เราพบศพผู้ตาย...ร้องไห้ฮือ
................................................
..........................กิตติกานต์ *_*
วันงดสูบบุหรี่โลกปี 2553 มีคำขวัญคือ Gender and tobacco with an emphasis on marketing to women หรือ หญิงไทยฉลาด ไม่เป็นทาสตลาดบุหรี่
9 พฤษภาคม 2553 00:39 น.
กิตติกานต์
สิ่งที่อยากทำในวันนี้
อยากวาดปฐพีเป็นสีขาว
ความรักคือหน้าที่สื่อเรื่องราว
แจ้งข่าวมนุษย์เรายิ้มให้กัน
ว่าอีกด้านของพิภพ
กมลสยบรอยร้าว...และเฝ้าฝัน
ตาสบตา ประจักษ์งามความสัมพันธ์
ปลูกสร้อยสันติภาพทาบแผ่นดิน
อีกบนโลกไร้พรมแดน
ความเคืองแค้นถูกอริละลายสิ้น
หอมเอยหอมการุณย์กรุ่นรวยริน
เปลี่ยนดวงตาสีนิลเร้น...เป็นชมพู
ปลูกลานไทยร้าวแตกเลือดแลกไว้
กู้ดวงใจใกล้ดับกลับรับรู้
มโนธรรมกำกับใจใช่ศัตรู
มิได้สู่โลกกว้างอย่างเดียวดาย
และอยากเขียนแผ่นฟ้าด้วยขนนก
จุ่มน้ำใจในอกมิหกหาย
ลากเส้นสีปิยพจน์รสระบาย
แด่ผู้สถิตอกข้างซ้าย...ในนิรันดร์
กิตติกานต์ *_*
๐๙ พฤาภาคม ๒๕๕๓
3 พฤษภาคม 2553 06:02 น.
กิตติกานต์
อรุณสวัสดิ์ที่รัก...
ฉันตื่นมาตวงตักแสงอุ่นใส
ซึ่งไม่กี่นาทีจากนี้ไป
มหันตภัยใกล้มาเยือน
อรุณสวัสดิ์ที่รัก...
ลมหายใจหลักแรกมิแปดเปื้อน
เมื่อลืมตาไร้ดาริกาเดือน
ฉันมาเยือนด้วยหัวใจ
มิใช่เพราะหน้าที่
แต่ปรารถนาดีมีให้
ยิ้มฝากจากภายใน
ปลุกคนไกลตื่นนิทรา
อรุณสวัสดิ์ที่รัก...
โลกยามเช้าทอถักคุณค่า
ตื่นเถิดมองซึ้งถึงดวงตา
ถึงเวลาเดินทางชีวิต
อรุณสวัสดิ์ที่รัก...
....................................
................กิตติกานต์ *_*
24 เมษายน 2553 19:54 น.
กิตติกานต์
โลกยามนี้เดียวดาย
ท่ามกลางสายลมนิ่ง
ชีวิตอยู่ในความจริง
บางสิ่งสำหรับเธอ...ปวดร้าว
เธอเหงาเกินจะเขียนบทกวี
ไม่อาจระบายสีห้วงหาว
ไม่อยากมองแม้แสงดาว
ที่เคยสุกสกาวกลางใจ
เธออยากเพียงหลับตา
ปรารถนาในความเป็นไปได้
เธอไม่อยากมีหัวใจ
ไว้สำหรับรักใครเลยสักคน
เธอ...
ยังพลั้งเผลอไม่ข้ามพ้น
คิดถึงท่ามความกังวล
สมมติตนให้เปลี่ยนไป...
สมมติว่ารัก-ไม่รัก
เกินใจจักไขว่คว้าได้
สมมติสิ่งที่ทำไป
คือหวังสุดท้ายของชีวิต