13 กุมภาพันธ์ 2554 12:36 น.
กามนิต
เป็นคนดี ใช่สิฉันเป็นคนดี
เธอชอบที่ฉันคอยเอาใจใส่
ฉันยอมง้องอนเธอเสมอไป
แต่ไม่ใช่คนเท่เวลาควง
เขาคนนั้น ใช่สิเขาคนนั้น
พร่ำจำนรรเจ้าชู้ดูท่าท่วง
ดาวเพล์บอยระยิบระยับทั้งลับลวง
เธอรับช่วงคนอื่นไยชื่นคำ
เธอเคยชูคู่ครองเธอต้องหล่อ
เป็นคนดีมีพ่อต้องรวยร่ำ
ฉันไม่หล่อไม่รวยจึงเพียรทำ
ความดีนำหวังได้ครองใจนาง
แต่เธอกลับรับรักคนมักรั่ว
เจ้าชู้ทั่วจีบหญิงแล้วทิ้งขว้าง
เธออกหัก ฉันปลอบใจอ้างว้าง
แต่ปลายทางเธอนั้นหมั้นคนรวย
เป็นคนดี ใช่สิฉันเป็นคนดี
จึงต้องลี้หน้าหลบศพไม่สวย
เป็นคนดีเจ็บแสบแทบมอดม้วย
ฉันอยากชั่ว ช่วยด้วย ช่วยฉันที!
กามนิต
๑๓ ก.พ.๕๔
13 กุมภาพันธ์ 2554 09:33 น.
กามนิต
ที่เดิม นั่งที่ ณที่เดิม
มาเติมพลังเช้าให้เข้าที่
กาแฟ ปาท่องโก๋ อาโกนี้
ชื่นฤดีกว่าใดได้เคยชิม
คนเดิม ใช่แล้วเธอคนเดิม
อาหมวยยิ้มเสริมมาเติมอิ่ม
กาแฟฝันหวานเติมมาน, พริ้ม
แอบกระหยิ่มพรุ่งนี้คงมีเฮ
กามนิต
๑๓ ก.พ.๕๔
9 กุมภาพันธ์ 2554 09:34 น.
กามนิต
ต้องแก่ก่อนใช่ไหมจึงเขียนกลอน
บ้าน่า! เด็กละอ่อนยังแต่งได้
แค่สัมผัสนิดหน่อยนะกลอยใจ
ก็ลื่นไหลเรียงแถวรื่นแนวคำ
ไม่ต้องหรูหรา บ้าคำแขก
ให้แปร่งแปลกกระแดะ แหม! ไม่ต่ำ
แล้วโคตรเหง้าสูงรึไร ไม่จดจำ
จะเยาะย่ำตัวเองทำไมกัน
อย่างนี้แหละ ตามใจเขียนไปเถิด
เปิดใจเปิด โครงครอบและกรอบกั้น
ใจสู่ใจ สัมผัสสัมพันธ์
ในห้วงฝันมีอะไรก็ไขเทอญ
กางสองแขนแทนปีกบินหลีกหล้า
ถึงท้องฟ้าอวกาศองอาจเหิน
สายตาคมชมโลกโชคเผชิญ
ก่อนลงเดินดอมดินหอมกลิ่นทราย
เก็บดอกแดดทัดหูภูเสียดฟ้า
ร้อยทิวป่าเรียงธารประสานสาย
กรีดลมริ้วพริ้วเพลงบรรเลงพราย
โรยสุหร่ายกวีศิลป์ทั่วถิ่นทอง
เป็นน้ำค้างเติมงามตามยอดหญ้า
เพียงพริบตาระเหิดหายก็ไม่หมอง
ถึงกวีนี้สั้นในครรลอง
ก็อาจส่องแสงพราวคราวมืดมิด
มาสิ หนุ่มสาว ก้าวมาสิ
มาบานผลิบทกวีไมตรีจิต
มาเติมแต่งเสรีให้ชีวิต
มาประดิษฐ์มาเขียนมาเจียนคำ
เป็นคุณค่าแห่งโลกคืนสู่โลก
เป็นทุกข์โศกเรียงรายให้เหยียบย่ำ
เป็นสงครามธรรมะและอธรรม
เป็นสายน้ำกลางแล้งเป็นแรงใจ
อย่าได้รอจนแก่จึงเขียนกลอน
โน่นแน่ะ! อนุสรณ์ อันยิ่งใหญ่
ศรีปราชญ์ สุนทรภู่ ปูทางไว้
เถอะจงได้เริ่มกันเลยวันนี้!
กามนิต
๙ ก.พ.๕๔
30 มกราคม 2554 12:13 น.
กามนิต
วางเกลื่อนกล่นบนลานใบก้านร่วง
จากรังรวงต้นใหญ่กิ่งใบแผ่
เหลืองเคยเขียวขั้วสลับรับลมแปร
ก็พริ้วแผ่พื้นคราวลมหนาวเยือน
ผืนดินผากน้ำทดลดระดับ
นภาซับหม่นสลัวมัวเสมือน
ความชุ่มชื้นสะอื้นอับเลยลับเลือน
อ้างว้างเคลื่อนมาถมเทลมแล้ง
หากหัวใจใช่เช่นเป็นใบไม้
คงมิได้เปลี่ยนสีแล้วลี้แหล่ง
คงชื่นชั้นฉันใดไม่เปลี่ยนแปลง
คงไม่แกล้งไกลกันให้ฉันตรม
คงไม่พริ้วปลิวลับกับลมหนาว
คงไม่ร้าวใจชื่นให้ขื่นขม
คงไม่ทิ้งใบกราวพร่างพราวพรม
เศษใบคมย้ำแผลผู้แพ้รัก
กามนิต
๒๘ ม.ค.๕๔
15 มกราคม 2554 19:42 น.
กามนิต
ครูสอนศิษย์รักชาติศาสน์กษัตริย์
ครบในวัตรวินัยใจสมาน
เว้นประพฤติชั่วช้าอันสาธารณ์
ประกอบการในกรอบอันชอบธรรม
ครูถ่ายทอดวิชชาปัญญาวุธ
บริสุทธิ์ต้นธารผ่านฉนำ
แม่แบบดีที่ศิษย์ควรคิดจำ
จึงเลิศล้ำเขื่องโขในโลกา
จุดธูปเทียนถวายการวางพานพุ่ม
ตื้นตันอกน้ำชุ่มไหลคลุมหน้า
ศิษย์กราบหนี้บุญคุณเกื้อหนุนมา
ได้ชื่อว่าเป็นคนดีเพราะมีครู
กามนิต
๑๖ ม.ค. ๕๔