16 สิงหาคม 2552 07:44 น.
กานท์ กานต์
ฤดูเปลี่ยนเวียนผันวันล่วง
ฤดูใจเปลี่ยนลวงเสน่หา
ร้อยลมร้อนบั่นทอนกายา
หนึ่งร้อนรักหนักหนาเจียนบ้าตาย
เฝ้ารำพันฝันหวานวานก่อน
ซึ่งซุ่มซ่อนซอกใจมิใคร่หาย
ลมหนาวเหน็บเจ็บแปลบแสบกาย
แทบวางวายคราวหนาวเหน็บเจ็บที่ใจ
เหงาเงียบเงียบเชียบไปกับสายฝน
น้ำตาล้นเกินทับซ้อนความอ่อนไหว
ถามสายฝน "เจ้าจะหยุดเมื่อคราใด"
"คราน้ำตาเธอไหลหยดหมดพร้อมกัน" (สายฝนตอบ)
*บันดาลใจจากงานเขียน ......8 ของท่าน 6uod
13 มีนาคม 2552 15:38 น.
กานท์ กานต์
๏ เดือนเด่นดับพยับโพยมมิโลมโลก
ดาวก็โศกสำรอกแสงหมดแรงส่ง
เมฆาลัยที่ไหวติงพลันนิ่งลง
ใจก็ปลงหลงเลือนกับเดือนดาว
กี่ฤดูกี่กาลที่ผ่านพ้น
อีกกี่หนต้องทนรู้ฤดูหนาว
โอ้น้ำค้างกลางสถลหล่นสกาว
เซาะย่างก้าวคราวโศกให้โกรกชัน
เจ้ามิ่งขวัญอยู่หนใดช่างไกลแสน
หากว่าแม้นเจ้ากลับ รอรับขวัญ
คลายเศร้าให้เรืองไรรำไพพรรณ
บางทุกข์นั้นซึ่งซ่อนเร้นทุกเต้นใจ ฯ
...
7 มีนาคม 2552 07:19 น.
กานท์ กานต์
๏ค้นหาไต่ยอด
โอบกอดยึดแน่น
จับจดสุขแสน
ในแก่นโลกีย์
ค้นพบสิ่งใด
เห็นไป่ไม่มี
ไขว่คว้าวิ่งหนี
สักกี่หนทาง
กักเก็บกอบโกย
หิวโหยอ้างว้าง
มองเห็นความต่าง
ระหว่างวิถี
ละวางของหนัก
นึกรักษ์เสรี
สุขทุกข์?ชั่วดี ?
ตามที่ต้องการ ฯ
-กานท์ กานต์-
6 มีนาคม 2552 07:43 น.
กานท์ กานต์
๏ ใต้น้ำค้างกลางหาวในราวป่า
ใต้ผืนฟ้าเรืองรามอร่ามใส
ใต้ใบไม้ปลิวพัดสะบัดใบ
ใต้ซากไม้ซากขอนนอนระเน
ยังมีใครคนหนึ่งซึ่งซึมเศร้า
เฝ้าปลุกปลอบความเหงาเคล้าว้าเหว่
ด้วยตัวตนของตนบนผืนเปล
ไกวระเหระหนทนบนผืนกรรม
ใต้ร่มพฤกษ์ยังมีความเย็นเยียบ
ท่ามความงียบมีเสียงเพรียกของความช้ำ
ใกล้ทางจรมีเสียงคนบ่นงึมงำ
กลบความจำที่ลบเลือนหลังเตือนใจ
เขาลุกขึ้นยืนหยัดปัดฝุ่นเกาะ
ดุ่มลัดเลาะเลียบลานลงธารไหล
กระแสชลซ่านซาบอาบหทัย
เอิบอิ่มไอลบร้อนผ่อนอีกครา
ขึ้นตลิ่งเอนอิงรุกขชาติ
สูดอากาศสุดสะอ้านผ่านเทือกผา
ล้วนหลากแปลกแมกไม้ดงพงพนา
อีกปักษาบินวกวนให้ยลเพลิน
เปรียบโดนสารละลายทุกข์ที่คลุกคลั่ง
จิตก็ดั่งเป็นเช่นนกวิหคเหิน
อิสระเสรีมิมีสิ่งใดเกิน
จนเผลอเดินไปตามนกที่วกบิน
ลืมกลิ่นไอควันพิษติดจมูก
ลืมผิดถูกลืมกฏหมดทั้งสิ้น
ลืมเกรี้ยวกราดอำนาจบาดชีวิน
ลืมแม้กินกามเกียรติเสียดอารมณ์ฯ
...