22 ตุลาคม 2549 02:37 น.
กันเอง
คนเดียวในคืนหนาว
ดึกสงัดลมพัดเพียงเบา ๆ
ความเย็นสัมผัสเราเริ่มหนาว ๆ
ใจสับสนบ้างบางครั้งคราว
มีความหลังให้กล่าวเรื่องวันวาน
คนที่เรารักและภักดี
ไฉนเขาจึงหนีไม่สงสาร
ทำไมเขาจึงให้เราทรมาน
จิตฟุ้งซ่านเริ่มหนาวคราวเดียวดาย
ดึกสงัดลมหนาวเราไม่หลับ
จิตจ่อกับคนรักที่หนีหาย
ใจหว้าวุ่นกระวนกระวาย
ทุรนทุรายในคืนฝืนหลับตา
ข่มตาให้หลับกับความเศร้า
ถวิลในสิ่งเก่าอันปรารถนา
หนาวหมอกหนาวลมหนาวกายา
หนาวในคุณค่าของตัวเอง
2 สิงหาคม 2549 05:03 น.
กันเอง
หนักก็หนักเหนื่อยก็เหนื่อยแสนเมื่อล้า
ด้วยลูกยาอยู่ในท้องหนักสองเท่า
แม้ทุกข์ยากลำบากก็ทนเอา
เพื่อลูกเจ้าเกิดมามีค่าคน
กว่าเก้าเดือนที่อุ้มท้องครองลูกน้อย
มีมากบ่อยที่แม่คิดจิตรสับสน
ทำงานหนักหมกมุ่นสาระวน
เพื่อลูกตนถึงหนักก็จักทนดู
ยามลูกเกิดเป็นทารกแม่กกกอด
มด ยุง ไร ลิ้น มิให้รอดมากัดหนู
จับกบ เขียด กุ้ง หอย และปลาปู
แม่ทนสู้หาอาหารให้ทานกิน
ลูกทานเองไม่ได้ให้แม่ป้อน
สองมือซ้อนตักอาหารไม่ผกผิน
มองดูหน้าลูกน้อยน้ำตาริน
แม่อดกินให้ลูกอิ่มก็อิ่มใจ
ยามเมื่ออากาศร้อนแม่สอนลูก
รักพันผูกไม่ย่างห่างไปไหน
เฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงด้วยใจ
อาบน้ำให้ลูกชื่อเย็นเช่นทุกวัน
มือซ้ายถือสบู่ถือลูกน้อย
มือขวาค่อยค่อยจับถือขัน
ราดรดน้ำเย็นกายสบายพลัน
ทำเช่นนั้นเรื่อยมามารดาเรา
ยามลูกง่วงแม่ก็ห่วงในลูกน้อย
สายเปลห้อยโยงไว้ที่ปลายเสา
ร้องเพลงกล่อมค่อยค่อยเสียงแผ่วเบา
นอนเถิดเจ้าแม่จะไกวให้หลับดี
เมื่อลูกน้อยนอนหลับไปใจจับจ่อ
แม่เฝ้ารอเคียงข้างไม่ห่างหนี
ยุงบินผ่านแม่ท่านนั้นปัดตี
หลับเสียทีแม่นั่งเฝ้าเจ้าลูกยา
คราเสื้อผ้าลูกน้อยค่อยเปื้อนเก่า
แม่ก็เอามาซักช่วยรักษา
ให้เสื้อผ้าได้สะอาดสวยงามตา
ซักเสื้อผ้าให้ลูกแก้วแล้วตากลม
ผ้าที่แห้งแม่แบ่งแยกออกต่าง
นำมาวางรีดให้ได้สวยสม
รีดเรียบสวยลายเหลี่ยมน่าชวนชม
ผ้าสวยสมลูกน้อยค่อยชื่นใจ
ลูกได้ใส่เสื้อสวยด้วยแม่รีด
ลูกอย่าขีดเขียนเล่นเป็นนิสัย
ผ้าสุดสวยจะขีดเขียนเล่นเป็นอย่างไร
รักษาไว้ให้สวยงามยามเลิกเรียน
เสร็จจากรีดผ้าแม่มาถูพื้นห้อง
แม่คอยต้องลบรอยที่ขีดเขียน
พื้นห้องสกปรกแม่แทบจะอาเจียน
ถึงวิงเวียนแม่ก็ยอมสู้ถูบ้านตน
มองดูจานอาหารทานเมื่อเช้า
ที่ตัวเรายังไม่ล้างวางรอฝน
หากไม่ล้วงรู้อึดอัดในกมล
ไม่น่ายลถ้าทิ้งไว้ไม่สมควร
แม่จึงต้องล้างจานงานอีกอย่าง
ไม่มีว่างงานแม่คะนึงหวน
ทุกสิ่งอย่างแม่รับกับทั้งมวล
งานแม่ล้วนแสนหนักจักเหนื่อยใจ
เมื่อล้างจานเสร็จสรรพรับงานต่อ
มีเวลาพอปลูกต้นไม้ให้สวยใส
ปลูกดอกไม้นั้นแม่รักจักปานใด
เหนื่อยก็ไม่ยามได้ปลูกถูกต้องการ
ปลูกดอกไม้เพื่อชมไว้ดมกลิ่น
ไม่ได้กินแต่ถูกใจหลายสถาน
ปลูกต้นไม้งานอดิเรกหลังว่างงาน
ให้ลูกหลานได้ชื่นชมดมเด็ดดู
เสร็จจากงานแม่บ้านที่ทำแล้ว
หาได้แคล้วงานหน้าที่อันมีอยู่
ไปรับจ้างหาเงินมาอุ้มชู
ใครก็รู้แม่ทำงานบ้านลุงมา
งานที่แม่ฉันทำไม่ต่ำหรอก
ฉันขอบอกงานเย็บปักนั่นแหละหนา
แม่ทำงานเพื่อสะสมเก็บเงินตรา
ภายภาคหน้าจะได้ใช้ไม่ขาดเงิน
อีกงานหนึ่งที่ฉันภูมิใจในแม่นี้
ทำหน้าที่เป็นครูไม่ขาดเขิน
สอนลูกน้อยให้ฝึกพูดได้หัดเดิน
สอนลูกเพลินไม่ใฝ่หาค่าเงินเดือน
สอนให้ลูกได้รักเรียนเขียนฝึกอ่าน
จึงเป็นงานเชิดชูหน้าหาใครเหมือน
หากไม่สอนความโง่เข้ามาเยือน
แม่จึงเหมือนครูที่สองของลูกยา
ยามลูกป่วยเป็นไข้ใจแม่ห่วง
ยาทั้งปวงแม่รู้ดูศึกษา
ยาใดใดมีประโยชน์แม่นำมา
คอยรักษายามลูกถูกโรคภัย
แม่เป็นหมอคนที่สองรองจากแพทย์
ลูกถูกแดดกลัวเป็นหวัดห้ามไปไหน
แม่รีบไปหาหมอที่อนามัย
พระคุณแม่ยิ่งใหญ่เกินจะพรรณา.
1 สิงหาคม 2549 08:15 น.
กันเอง
แม่คือผู้สร้างอนาคตอันสดใส แม่คือผู้ให้ที่ยิ่งยงคงหน้าที่
แม่คือผู้อบรมสั่งสอนให้ลูกดี แม่คือกุลสตรีแห่งโลกา
แม่จึงเป็นแม่พระที่สร้างโลก พ้นทุกข์โศกเพราะแม่นั้นแหละหนา
เราจึงควรทดแทนคุณมารดา เหล่าลูกยาแทนคุณท่านหรือยัง
เมื่อมีแม่จึงมีเรามีชีวิต มีความคิดมีปรัชญามีความหวัง
มีกำลังใจมีคุณธรรมมีพลัง แม่เป็นดังแม่พระมหาชน
24 กรกฎาคม 2549 03:30 น.
กันเอง
เธอตายไปไม่รับรู้ฉันอยู่หลัง
น้ำตาหลั่งรินให้ใจครวญหา
เธอตายจาก,พ่อ-ลูกอยู่หลังหลั่งน้ำตา
อยู่อยู่มาเธอก็พรากจากฉันไป
พระเทศน์แผ่กุศลให้พ้นโลก
พ้นทุกข์โศกสู่สวรรค์อันสดใส
จงไปเถิดอย่าได้มีความห่วงใย
พร้อมเปลวไฟเผากายในกองฟอน
จะกรวดน้ำอุทิศให้ได้ไปเกิด
ลืมเสียเถิดอย่าให้เห็นเป็นภาพหลอน
ลืมฟูกหมอนบ้านเรือนเฮือนเคยนอน
อย่าอาวรณ์ความหลังรั้งเวลา
จะสร้างเจดีย์ใส่อัฐิในวัดใหญ่
จะปลูกดอกไม้รายล้อมหอมพฤกษา
ทุกคืนค่ำจะจุดธูปเทียนไหว้บูชา
อิมินาฯ กรวดน้ำตามให้เธอ
ค่ำคืนหนึ่งฉันนอนหลับกับความเศร้า
คล้ายมีเงานางย่องมายามข้าเผลอ
นอนบนเตียงกับลูกน้อยคอยออ-เออ
ฉันละเมอด้วยคิดถึงจึงฝันลวง
หรือเจ้าห่วงลูกน้อยคอยอยู่บ้าน
จึงบันดาลนิมิตด้วยจิตหวง
เห็นลูกน้อยฉันสะอื้นตื้นตันทรวง
คล้ายว่าดวงวิญญาณนางอยู่ข้างลูกยา.
11 กรกฎาคม 2549 10:07 น.
กันเอง
ใจหนึ่งอยากทำดีดังที่คิด
ใจหนึ่งยังยึดติดกับตัณหา
ใจหนึ่งยังลุ่มหลงในกามา
หากใจหนึ่งมุ่งใฝ่คว้ารสแห่งธรรม
ใจหนึ่งสงบเย็นเช่นพระสงฆ์
ใจหนึ่งไม่ยอมปลงก้าวถลำ
ใจหนึ่งรู้ตรองรู้คิดรู้จำ
ใจหนึ่งยังระยำไม่ปรับใจ
ใจหนึ่งพบทางสว่างแล้ว
ใจหนึ่งยังย่ำแจวไม่ไปไหน
ใจหนึ่งพบปะพระรัตนตรัย
ใจหนึ่งยังจัญไรทั้งเสเพล
ใจหนึ่งพบแล้วแก้วประเสริฐ
ใจหนึ่งยังเตลิดเที่ยวสรวลเส
ใจหนึ่งกว้างไกลดั่งทะเล
ใจหนึ่งยังซวนเซคับแคบทาน
ใจหนึ่งไปไกลถึงปลายฟ้า
ใจหนึ่งยังไม่ลาจากถิ่นฐาน
ใจหนึ่งไปไกลถึงนิพพาน
ใจหนึ่งยังไต่คลานทั้งต่ำทราม
มีสองใจอยู่ในหนึ่งจึงหนักอก
เหมือนนรกทิ่มแทงไม่แกร่งขาม
เมื่อใดกันใจหนึ่งจะถึงตาม
พบสิ่งงามทั้งสองใจในจิตเรา.