31 ธันวาคม 2551 10:12 น.
กันนาเทวี
"ผัวหาบ เมียคอน" สำนวนนี้เหมาะสมกับแม่ของฉันมากทีเดียว
แม่เป็นวีรสตรีในหัวใจของลูกๆทั้งหกคนเพราะท่านเป็นแม่ผู้
มีแต่ให้
ฉันและพี่ๆ น้องๆ นับว่าเกิดมาโชคดี ถ้าเปรียบกับเพื่อนๆ
ในหมู่บ้านเดียวกัน ตายายเป็นคนกว้างขวางเพราะใจกว้างจริงๆ
จำความได้ตอนเด็กๆ ชนบทไทยตอนนั้นยังไม่วิวัฒนาการขนาดนี้
คนที่พึ่งตนเองไม่ได้มีเยอะ แต่เขาก็อยู่ได้ไม่เดือดร้อนเพราะอาศัย
ซึ่งกันและกัน วันๆหนึ่งที่บ้านเราจะมีแขกไปมาหาสู่ทุกวันคึกคัก
มานอนค้างบ้าง มาแล้วกลับบ้าง ชีวิตวัยเด็กฉันจึงพบเห็นผู้คนหลากหลาย
พวกรับจ้างเลื่อยไม้ พวกนายฮ้อยตำรวจ พวกชาวเขา พวกพ่อค้า
งัวต่าง (ใช้วัวบรรทุกของบนหลัง) และพวกพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยอื่นๆ
หาบเร่นำของมาแลกเปลี่ยนโดยมีบ้านตายายเป็นศูนย์กลาง
แม่ของฉันเป็นลูกสาวคนโตของตายาย และมีน้องชายเพียงคนเดียว
น้าชายของฉันสุขภาพไม่ดีเป็นโรคหืดหอบตั้งแต่เล็กๆ แต่ปัญญาดีชอบ
เรียนหนังสือ ช่วยงานทางบ้านไม่ได้จึงบวชเณรและมุ่งเอาดีทางเรียน
อย่างเดียว ภาระงานจึงตกที่พี่สาวคือแม่ของฉันทุกอย่าง แม่จึงไม่มี
โอกาสเรียนหนังสือเหมือนเพื่อนๆ ต้องเลี้ยงวัวและหาผักหาปลามา
ทำอาหาร แม่เล่าว่าอยากเรียนหนังสือมากเคยขอตาไปเรียนตอน
เขารณรงค์ให้คนเรียนหนังสือซึ่งตอนนั้นแม่อายุ 12 ปี เลยวัยแล้ว
สมัครเรียนแล้วได้ไปบ้างไม่ได้ไปบ้าง แต่แม่ก็พอสะกดคำได้
อ่านได้นิดหน่อย นั่นคือประสบการณ์ในโรงเรียนอันน้อยนิดของแม่
แต่แม่สามารถคิดโจทย์เลขยากๆ ที่ฉันอ่านให้ท่านฟังได้
ตอนฉันเรียนชั้นประถมมีเลขร้อยละ เศษส่วนที่ฉันไม่เข้าใจ
อ่านโจทย์ให้แม่ฟัง แม่ฟังแล้วคิดสักครู่ก็คำนวณในหัวแล้ว
บอกคำตอบให้ ฉันก็เขียนคำตอบไปส่งครู ครูถามว่าหาคำตอบ
ได้อย่างไร ฉันก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
ตอนแม่แต่งงานกะพ่อ แม่เป็นแม่ร้าง แต่ยังสาว เพราะท่านเคยแต่งงานกับ
หนุ่มในหมู่บ้านเดียวกันมาก่อน แต่ตาไม่ชอบเพราะเขานอนตื่นสาย
หลบหลีกงานเอาเปรียบพ่อตา แต่พ่อของฉันเป็นคนต่างอำเภอมารับ
จ้างเลื่อยไม้ พ่อเป็นคนขยันท่าทางซื่อตรง เข้มแข็งเพราะท่านผ่าน
การบวชเณร และผ่านการฝึกทหารเกณฑ์ สำคัญพ่อเรียนจบ ป.4
อ่านออกเขียนได้
พ่อเป็นคนขยันมากๆ งานในไร่นาที่ตาเคยทำพ่อจะรับภาระแทน
ในฐานะลูกเขยท่านส่งเสียน้าชายด้วย ต่อมาพอน้าชายได้เป็น
พระมหาและสอนโรงเรียนพระที่ในเมืองท่านจึงสนับสนุนให้หลานๆ
ได้เรียนต่อ แม่ยังคงทำงานในฐานะผู้เป็นแม่บ้านให้กำเนิดลูกน้อย
และเลี้ยงดูโดยมียายเป็นผู้ช่วยเหลือ แม่ของฉันเป็นสตรีนักสู้
ไม่ได้เป็นแต่เมียที่ดูแลแต่ลูกและรอสามีหาเลี้ยงเท่านั้นแต่แม่
จะดิ้นรนต่อสู้ทุกอย่างให้ลูกได้กินอิ่ม นอนหลับ ได้นุ่งห่มดี สำคัญ
ได้เรียนหนังสือ ซึ่งการส่งเสียลูกเรียนสมัยก่อนเป็นเรื่องที่ชาวบ้าน
ทั่วไปไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่ แต่พ่อแม่ของฉันท่านมีความเห็น
ตรงข้าม แม้จะยากลำบาก ทำนา ทำสวน ค้าขายสารพัด แม่หาบของขาย
หนักเท่าไหร่ไม่บ่นไม่ท้อ เงินทุกบาทสตางค์หามาช่วยกันเก็บหอมรอมริบ
ไว้ส่งลูกๆ เรียน ไม้คานของแม่อ่อนค้อมเวลาฉันเดินตามได้ยินเสียง
ดังเอี๊ยดๆๆ แม่ช่างเป็นหญิงที่มีความอดทนสูงยิ่ง เวลาพักเหนื่อย
เหงื่อหยดพราวเต็มหน้า แต่ยังถอดหมวกมาพัดให้ลูก ฉันประทับใจ
แม่เสมอ แม้แต่ยามชราร่างกายอ่อนล้าก็ไม่เคยทำตัวให้ลูกๆลำบากใจ
คุณความดีของแม่เล่าแล้วซึ้งใจไม่รู้จบ
ปีใหม่นี้ฉันขออธิษฐานขอให้ดวงวิญญานของแม่ไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิใด
ขอให้ท่านได้มีสุข ได้พบแต่สิ่งที่ดีงามตลอดไปด้วยเทอญ...
ค่าวซอฮ่ำเรื่อง ไม้คานของแม่
ถึงหาบจะหนัก บ่าแม่จะด้าน ถูกไม้คานหนีบจ้ำ
หนตางยาว คราวไกลยิ่งล้ำ สองบ่าเถิกเส้าเขียวแดง
เอาผ้าหลองไว้ แต่ไม้คานแข็ง บ่าแม่ปอแดง
เขียวจ้ำก่ำไหม้
จักเอาไม้คาน อ่อนก้อมบ่อได้ เพราะหาบของไปมากนัก
ถ้าหาบบ่าหลายกลัวนายลูกฮัก บ่อได้นุ่งหย้องกิ๋นดี
แม่อดทนตุ๊กบ่อห่วงสุขี อดจรลีขายของบ่าด้าน
บ่าเกยหย้านกลัว กาดมั่วไกลบ้าน หนตางยาวนานก่อแล้ว
แม่ขออย่างเดียว อย่าได้คลาดแก๊ว ได้เลี้ยงลูกหน้อยญิง-จาย
ถึงแม่ได้ตุ๊ก ก่อตุ๊กแต่กาย ใจแม่สบายถึงกายหม่นเศร้า
เพราะแม่ทำงานก็เพราะลูกเต้า บุตราธิดาลูกฮัก น้ำเหงื่อแม่ไหล
เพื่อนายลูกฮัก อนาคตก้าวไปดี ถึงแม่จะตุ๊กแม่บ่อหน่ายหนี
ลูกเจ้าได้ดี แม่หายเหนื่อยเสี้ยง แม่หายเหนื่อยเสี้ยง
28 ธันวาคม 2551 23:21 น.
กันนาเทวี
ป้าลำดวนแกชอบกินเหล้าขาว โดยให้เหตุผลว่ากินแล้วเมาได้ไวกว่าเหล้าแดง
ไม่แพงด้วยพอเหมาะสมกะฐานะชาวบ้านทุ่งอย่างแก แถมยังว่าคนกินเหล้าแดงกระแดะ คนมีเงินเดือนเป็นจ้าวคนนายคนกิน
เหล้าแดงก็สมควร สรุปคือแกใช้เหล้าแบ่งฐานะของคน
ป้าลำดวนแกมีสามีใจดี ไม่หล่อ แต่ขยัน แกเล่าว่าแกเคยมีสามีมาก่อน
คนนั้นแกรักมากจนอยู่ไม่มีความสุข แต่คนนี้รักแกมากแกจึงมีความสุข
จึงอยากจะสอนเด็กสาวๆว่าแต่งงานกะคนที่เขารักเราดีกว่าแต่งงาน
กะคนที่เรารัก เห็นท่าจะเป็นจริงอย่างแกว่าจริงๆนะ โดยมากการที่เรา
รักใครมากๆเรามักติดยึด และพยายามให้เขาเป็นอย่างที่เราคิด หรือกำหนด
กฏเกณฑ์ว่าจะต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ หารู้ไม่ว่าการทำเช่นนั้นมันเป็นที่น่า
รำคาญ น่าเบื่อหน่ายทำให้รู้สึกอึดอัด ขาดอิสระภาพ
ป้าลำดวนแกเป็นคนประหยัดมัธยัถส์ใช้ชีวิตเรียบง่าย มีเตาแก๊สแต่ไม่ค่อยชอบใช้เท่าไหร่ ชอบก่อเตาถ่านหรือเตาฟืนมากกว่า เหตุผลคือเวลาตำน้ำพริกหนุ่ม
แกต้องจี่พริก หากใช้เตาแก๊สจะปิ้งจะเผาอะไรก็ทำได้ไม่เหมือนเตาถ่าน
อีกอย่างนึ่งข้าวเหนียวใช้เวลานานเปลืองแก๊ส นึ่งข้าวเสร็จประกอบอาหาร
ต่อเลยไม่ต้องก่ออีก ด้วยความที่แกรู้จักใช้จ่ายเท่าที่หามาได้ที่เหลือ
ก็เก็บออมเอาไว้ใช้เวลาอับจนเช่น เวลาเจ็บป่วย หรือเวลาลงนา
ไม่มีเวลาทำงานรับจ้างก็จะใช้ส่วนที่เก็บเอาไว้ แกเป็นคนรอบคอบดีนะ
ป้าลำดวนแม้จะชอบกินเหล้าก็แต่เฉพาะเวลามีงานเลี้ยงสังสันทน์หรือเวลา
เทศกาล แกเป็นคนชอบสนุกสนานร่าเริง ชอบพูดจาตลกขบขันเล่าเรื่อง
ต่างๆ ให้ฟัง คนก็ชอบฟัง เพราะแกชอบเปิดประเด็นคำถามแปลกๆ
วันหนึ่งในวงสุรายาบานท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติคจู่ๆแกก็ถามว่า
"ครู......ป้าอยากรู้จังว่าพฤติกรรมคนเราเกิดจากอะไรกันแน่ เด็กเกิด
มาเป็นพี่น้อง หรือฝาแฝดแท้ๆ ทำไมนิสัยแตกต่างกันแบบตรงกันข้าม
จะว่าพันธุกรรมจึงไม่น่าใช่นะ หรือมันจะเป็นเพราะธรรมดาสิ่งแวดล้อม
นะ"
" กัมมุนา วัตติโลโก สัตว์โลกจะเป็นไปตามกรรม เราไม่สามารถระลึกชาติ
ได้ จึงไม่รู้ไม่เห็นอดีตว่าเรากรรมอะไรไว้บ้างแต่หากเราทำบุญดีก็เกิดเป็น
คน แต่หากทำชั่วก็ไปตามแต่กรรมละ ที่แน่นอนทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"
" แต่ป้าเคยได้ยินมาว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไปนะ และก็
เห็นคนส่วนมากก็ทำชั่ว โกหกตอแหล โกงกินสารพัดก็ยังได้ดี มีคนรัก
และนับหน้าถือตาอยู่นะ"
" อ๋อ........นั่นแสดงว่าเขากำลังเสวยบุญเก่าเขาอยู่นะ แต่กรรมปัจจุบันก็
จะส่งผลให้เขาไปนรกในอนาคตจ้ะ"
" นรก สวรรค์มีจริงนะครูกรรมเก่าก็มีจริง ตายายป้าเขาเคยเล่าให้ฟัง
มันน่ากลัวนะ แต่คนเราสมัยนี้ไม่ค่อยเชื่อกันหรอก"
" ก็อย่างนี้แหละป้า คนเรามักจะติดยึดว่าการร่ำรวยมีเงินทองมากๆจะ
เนรมิตได้ทุกอย่าง คือเขากะซื้อนรกสวรรค์ติดสินบนยมทูตว่างั้นเถอะ
แต่กฏแห่งกรรมเป็นกฏเหล็กนะป้า ทำดีได้ดีคือสบายใจ คนเราใจสบาย
ร่างกายก็สบาย แต่คนทำชั่วนะได้ทุกข์แน่คืออย่างน้อยก็หลงตนละ
การหลงตนทำให้ติดร่างแหแห่งวังวน ของทุกข์ เขาจะมีอนาคตที่มืดมนต่อไป"
" ฟังเข้าใจยากนะ แต่ก็เห็นตัวอย่างอยู่บ้างคนรวยนะทำอะไร
ไม่ได้ดังใจเครียดแล้วเป็นลมความดันขึ้น เบาหวานขึ้น หรือช็อค
หัวใจล้มเหลวง่ายๆนะ ไม่เหมือนเราจนแล้วไม่เครียด ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ชีวิตเราก็เท่านี้ ร่างกายยาววาหนาคืบ ไม่นานก็ลาลับโลก"
" นั่นแหละป้าคิดถูกต้องแล้ว คนเราตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้
ข้าวของเงินทอง อำนาจวาสนา บารมี บริวารใหญ่น้อย ไม่มีใครตาม
ไปห้อมล้อมอีกนะ"
" แหม......ครูนี้รู้ไปหมดเลย ฉลาดสมกะเป็นครูจริงๆ ฮ่ะๆๆๆ"
" ครับขอบคุณครับ ลาก่อนนะครับป้า หุ หุ."
ผมรีบลากลับบ้านขืนอยู่ต่อไปมีหวังเสียรู้ให้ป้าแกด่าต่ออีกหนอยแน่ะที่แท้
ที่ผ่านมาแกมองเราโง่มาตลอดเพิ่งมารู้ว่าฉลาดวันนี้เอง อิอิ............